ความคาดหวังของพ่อแม่ คืออาวุธร้าย ทำลายลูก

มีข่าวดังไปทั่วโลกข่าวหนึ่ง เมื่อเรื่องราว ของเด็กสาวชาวแคนาดาเชื้อสายเวียดนาม ชื่อเจนนิเฟอร์ แพน ถูกนำมาตีพิมพ์ในหนังสือ Toronto Life เกี่ยวกับการจ้างวานฆ่า พ่อและแม่แท้ๆ ของตนเอง เมื่อปี 2010 ศาลได้สิ้นสุดการพิจารณาคดีเมื่อ มกราคม ปีนี้ และตัดสินจำคุกตลอดชีวิต เจนนิเฟอร์ แพน ในวัยเพียง 29 ปีของเธอ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ความคาดหวังของพ่อแม่

ความคาดหวังของพ่อแม่ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย พ่อแม่ทุกคนย่อมมีความคาดหวังในตัวลูกทุกคน ไม่มากก็น้อย เช่น คาดหวังให้เป็นคนดี เรียนเก่ง เข้ากับคนอื่นได้ดี มีความสุข คาดหวังให้ลูกได้เดินในเส้นทางที่ดี เพื่อโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ อย่าให้ความคาดหวังของพ่อแม่เป็นสิ่งที่ทำร้ายลูก  ดังนั้น พ่อแม่ควรระวังให้ความคาดหวังของตนเองเหมาะสม ไม่มากและไม่น้อยเกินไป รวมทั้ง แนวทางการดูแลลูกเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองคาดหวังนั้น ต้องไม่ทำให้เกิดความทุกข์ใจทั้งต่อลูกและต่อตนเอง  สิ่งที่พ่อแม่ต้องพึงระลึกไว้เสมอ คือ ลูกไม่ใช่ตัวแทนของพ่อแม่ ไม่ได้เป็นสิ่งชดเชยในสิ่งที่ตนเองไม่มีในวัยเด็ก ลูกเป็นหน่วยย่อยที่เป็นอิสระ ความคาดหวังที่พ่อแม่มี  เป็นเพราะความรักและความปรารถนาดี ไม่ใช่เพื่อตัวพ่อแม่เอง

หากความคาดหวังของพ่อแม่ ไม่ใช่สิ่งที่ลูกต้องการ อาจกลายเป็นทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว ดังข่าวเศร้าสลดและช็อคโลกของ เจนนิเฟอร์ แพน  ที่อยากให้บุคคลที่มีพระคุณและรักเธอที่สุด ตายออกไปจากชีวิตของเธอ จากบทความใน Toronto Life  กล่าวว่า เจนนิเฟอร์ แพน ถูกเลี้ยงดูด้วยความเข้มงวด จากความคาดหวังของพ่อแม่ ชาวเวียดนามที่อพยพมาอยู่ในแคนาดา  ตั้งแต่ปี 1979 โดยพ่อแม่ทำงานอย่างหนัก เพื่อสร้างฐานะ  พ่อและแม่มีความคาดหวังสูงที่จะให้เป็นลูกเป็นคนเก่งในทุกเรื่อง  โดยเฉพาะเรื่องการเรียน  เพื่อให้โดดเด่นอยู่ในสังคมตะวันตก ได้อย่างไม่น้อยหน้าใคร  แม้ว่าไม่สามารถกล่าวโทษได้ว่า การเลี้ยงดูอย่างเข้มงวด กดดัน และมีความคาดหวังของพ่อแม่สูง  เป็นสาเหตุให้เด็กคนหนึ่งสามารถจ้างวานฆ่า พ่อแม่ของตนเองได้  เจนนิเฟอร์ แพน  อาจมีความผิดปกติทางจิตใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้การแก้ปัญหาผิดไปจากปกติมาก ตั้งแต่การโกหกเป็นเรื่องราวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีความคิดที่จะฆ่าพ่อแม่ของตนเองได้  อย่างไรก็ตามคงปฎิเสธไม่ได้ว่า การเลี้ยงดูอย่างเข้มงวด กดดัน และตั้งความคาดหวังสูง เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดปัญหาทางจิตใจแก่เด็ก และท่ามกลางค่านิยมด้านการศึกษาในประเทศไทย เป็นสิ่งที่สังคมไทยต้องหันกลับมามอง

ความคาดหวังของพ่อแม่ แค่ไหนถึงเรียกว่าพอดี

  1. ความคาดหวังที่ตรงกับศักยภาพของเด็ก เช่น เด็กบางคนอาจเก่งด้านภาษา ในกรณีนี้ควรให้การสนับสนุนในการเรียนด้านภาษา แทนการบังคับให้เรียนสายวิทยาศาสตร์ เพียงเพราะพ่อแม่ต้องการให้สอบเข้าคณะแพทย์ วิศวะ เป็นต้น หรือในบางรายอาจมีปัญหาด้านสติปัญญา ความคาดหวังเรื่องการเรียนเป็นความคาดหวังที่เป็นไปไม่ได้   แต่เด็กอาจมีความสามารถด้านอื่น เช่น วาดภาพ เป็นต้น หากพ่อแม่ทราบจุดเด่นและจุดด้อย ควรส่งเสริมเด็กให้ถูกทาง ไม่ใช่ส่งเสริมตามที่พ่อแม่ต้องการให้เป็น เมื่อเด็กได้เรียน หรือได้ทำในสิ่งที่รัก จะสามารถทำได้ดี ย่อมทำให้มีความสุขในการทำสิ่งนั้นและย่อมทำให้เกิดการพัฒนาและประสบความสำเร็จในอนาคต
  2. การมีส่วนร่วมในการตั้งความคาดหวังร่วมกัน พ่อแม่ควรให้ลูกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในสิ่งต่างรวมถึงแนวทางและความคาดหวังในการเรียนของตนเอง เปิดโอกาสให้ได้แสดงความคิดเห็น แม้ว่าในบางครั้ง ความคาดหวังของเด็กเป็นสิ่งที่ดูไม่เหมาะสม และการตัดสินใจในที่สุด พ่อแม่จะเป็นคนตัดสินก็ตาม แต่การให้เด็กมีส่วนร่วม จะทำให้เด็กเข้าใจเหตุผลของพ่อแม่มากขึ้น ไม่ใช่ต้องทำเพราะพ่อแม่สั่ง ซึ่งจะทำให้เด็กยินดี ร่วมมือกับพ่อแม่ในการทำตามแนวทางที่กำหนด และช่วยลดความขัดแย้งในครอบครัวได้มาก
  3. ความคาดหวังของพ่อแม่ที่ไม่มากเกินไป เนื่องจากความคาดหวังที่มากเกินจะนำไปสู่การทำสิ่งที่มากเกินขอบเขตปกติ เช่น เด็กบางคนต้องเรียนหนังสือทั้งที่โรงเรียนและกวดวิชา วันละ 12 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 7 วัน ทำให้เด็กเครียดเกินไป ไม่มีเวลาในการผ่อนคลาย หรือทำในสิ่งที่รักอย่างอื่น แม้ว่าพ่อแม่บางรายจะบอกว่า ลูกยินดีที่จะเรียนเอง แต่พ่อแม่ต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า ชีวิตที่มีความสุขในวัยเด็กได้หายไป และไม่สามารถย้อนเวลากลับมาทวงคืนได้อีก  ความคาดหวังที่มากเกินไป ย่อมส่งผลเสียต่อจิตใจ โดยเฉพาะเมื่อเวลาผิดหวัง หากผลลัพธ์ไม่ได้อย่างที่พ่อแม่คาดหวัง พ่อแม่อาจหวังอย่างมาก  บางรายเกิดปฏิกิริยาด้านลบจากพ่อแม่อย่างมาก  เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้ลูกพยายามมากขึ้น แต่นั่นคือผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อจิตใจเด็ก หากกรณีที่เด็กได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ผลลัพธ์ไม่ได้อย่างที่ใจพ่อแม่ต้องการ  พ่อแม่ควรให้กำลังใจ แสดงความเห็นอกเห็นใจ แสดงความชื่นชมต่อความพยายาม และตั้งความคาดหวังกันใหม่
  4. ความคาดหวังของพ่อแม่ที่ไม่น้อยเกินไป ดังที่กล่าวในตอนต้น ความคาดหวัง ต้องมีไม่มากและไม่น้อยเกินไป ในบางครอบครัวที่ค่อนข้างพร้อม จะไม่ตั้งความคาดหวังใดๆ ให้เด็กใช้ชีวิตอย่างสบาย ไม่เข้มงวดเรื่องต่างๆ รวมทั้งเรื่องการเรียน จึงพบว่า เด็กกลุ่มที่พ่อแม่ไม่แสดงความคาดหวังใด มีแนวโน้มจะขาดระเบียบวินัย ขาดความรับผิดชอบ ขาดความมุมานะพยายามในการทำสิ่งต่างๆ และอาจไม่ได้รับการกระตุ้นหรือส่งเสริมให้ถูกทาง  ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตน้อยกว่าศักยภาพที่มี  จึงกลายเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในอนาคตได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พึงระลึกไว้เสมอว่า ความคาดหวังของพ่อแม่ มีผลต่อจิตใจของลูก แน่นอนว่าลูกทุกคนไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจ การคาดหวังอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากลูกทำไม่ได้ตามที่พ่อแม่คาดหวัง จงอย่าตำหนิ ดุด่า แสดงความผิดหวัง หรือสิ้นหวังในตัวลูก เพราะ สิ่งที่ลูกต้องการมากที่สุดคือกำลังใจจากพ่อแม่ และความเชื่อมั่นในตัวลูก  แม้ในครั้งนี้ลูกจะทำไม่สำเร็จ แต่ควรแสดงอออกให้ลูกรู้ ว่าพ่อแม่จะยังคงเชื่อมั่น และยังมีความหวังในตัวลูกเสมอ คือสิ่งสำคัญ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ที่มาจาก : https://www.parentsone.com/5-types-of-parents/

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

การเลี้ยงลูกแบบผิดๆ ที่คุณอาจทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว..ดูคลิปแล้วจะรู้

10 วิธีเลี้ยงลูกชายให้เป็นสุภาพบุรุษ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา