แช่แข็งไข่เพราะหาพ่อให้ลูกไม่ได้ หรือ ถ้าไม่ได้คนดีๆ ก็ไม่ต้องมีดีกว่ากันนะ
เมื่อสาวๆ แช่แข็งไข่เพราะหาพ่อให้ลูกไม่ได้ มันน่าท้อใจขนาดไหนละนั่น..
ผู้ชายโง่ลง ???
งานวิจัยชิ้นใหม่บ่งบอกว่าสาวๆ ยุคใหม่ เลือกที่จะแช่แข็งไข่ของพวกเธอ เนื่องจากความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างชายและหญิง ทำให้สาวๆ ที่มีการศึกษาดี มีจำนวนที่ล้นตลาด และทางเลือกใหม่ของพวกเธอคือ แช่แข็งไข่ของพวกเธอไว้ จนกว่าจะเจอผู้ชายที่มีการศึกษาสูงหรือเทียบเท่ากัน
เพราะโสดหรือไม่ได้แต่งงาน
งานวิจัยชิ้นนี้ทำการเก็บข้อมูลจากสาวๆ จำนวน 150 คน ในประเทศสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล ที่ทำการแช่แข็งไข่ของพวกเธอจาก 8 คลินิกด้วยกัน โดยสาวๆ จำนวนสูงถึง 90% เลือกที่จะเก็บรักษาไข่ของพวกเธอไว้ เพราะโสดหรือยังไม่ได้แต่งงาน โดยจำนวนสาวๆ ที่จบปริญญานั้นมีสูงถึง 81% ด้วยกันค่ะ
จำนวนผู้ชายน้อยรึเปล่า
มาร์เซีย ไอฮอร์น ศาสตราจารย์ด้านมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยเยล หัวหน้าทีมวิจัย บอกว่ามีช่องว่างที่ใหญ่มาก ถึงการขาดผู้ชายที่มีการศึกษาระดับปริญญาสำหรับสาวๆ เหล่านี้ กล่าวอีกนัยนึงคือ มีสาวๆ ที่เรียนจบสูงมากเกินไปนั่นเอง
ไม่ใช่แค่สหรัฐ สหราชอาณาจักรก็เป็น
เหตุการณ์สาวๆ จบสูงล้มตลาดนั้น ก็เกิดขึ้นที่สหราชอาณาจักรเช่นเดียวกันค่ะ เป็นเรื่องดีที่สาวๆ จบปริญญากันมากขึ้น เเต่เมื่อกล่าวถึงการสร้างหรือเริ่มต้นครอบครัวแล้ว มันกลายเป็นปัญหาสังคมไปเลยละค่ะ
ผู้ชายรู้สึกโดนข่ม
สาวๆ ให้เหตุผลในการแช่แข็งไข่ของตัวเองว่า ผู้ชายที่เธอเจอนั้น รู้สึกว่าโดนสาวๆ คุกคามในเรื่องความประสบความสำเร็จ พวกเขาจึงไม่อยากที่จะสร้างครอบครัวร่วมกับเธอ
สถิติแช่แข็งไข่สูงขึ้น
ในสหราชอาณาจักร ปี 2014 มีไข่ที่ถูกแช่แข็งแล้ว 3,676 ฟอง และในปีที่แล้วนั้นมีจำนวนสูงขึ้นถึง 36.8%
ด้านดี
จะมองว่าเป็นด้านดี อย่างธรรมชาติเลือกสรรค์ได้หรือไม่กับเหตุการณ์นี้ เพราะในฐานะผู้หญิงเหมือนกัน ก็ดีใจกับการวางแผนครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการคัดเลือกพ่อของลูกที่มีคุณภาพนั้น ก็จะทำให้เด็กที่เกิดขึ้นมีคุณภาพไปด้วย เเละสาวๆ สมัยนี้ ก็สามารถเลือกได้ว่าพวกเธอต้องการพ่อของลูกแบบไหนกันที่เหมาะสมจะสร้างครอบครัวด้วย
สะท้อนสังคมหรือเปล่า
ไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จะเป็นการสะท้อนสังคมว่าจำนวนผู้ชายมีน้อย หรือจำนวนผู้ชายที่มีการศึกษาสูงมีน้อย หรือผู้หญิงจบสูงกว่าผู้ชาย อะไรก็แล้วแต่ แต่มันก็บอกเราได้อย่างดีค่ะว่า สาวๆ เหล่านี้นั้นมองการณ์ไกลแค่ไหน เพื่ออนาคตของตัวเธอและลูกของพวกเธอ
คราวนี้เรามาลองอ่านเกร็ดความรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับการแช่ไข่ของผู้หญิงกันบ้างนะคะ จริงๆแล้ว มันคือการแช่แข็งเก็บรักษาเซลล์ไข่ (Egg Freezing)
การแช่แข็งเซลล์ไข่ (Egg Freezing)
ในอตีดการแช่แข็งเซลล์ไข่ทำได้ยากมาก เพราะเซลล์ไข่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ และมีน้ำเป็นองค์หลัก เดิมทำการแช่แข็งโดยลดอุณหภูมิลงอย่างช้าๆ หรือ “Slow freezing “เมื่ออุณภูมิลดลงจนถึงจุดเยือกแข็ง จะเกิดผลึกน้ำแข็งขึ้นในเซลล์ไข่ ซึ่งทำอันตรายต่อโครงสร้างเซลล์ให้เสียหาย ทำให้อัตราความสำเร็จต่ำ
แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคนิคให้ดีขึ้นโดยการแช่แข็งแบบผลึกแก้ว หรือ “Vitrification” โดยใช้สารรักษาความเย็นที่เข้ามาแทนที่น้ำในเซลล์และลดอุณหภูมิของเซลล์ไข่ได้รวดเร็วมาก จนไม่เกิดผลึกน้ำแข็งชึ้นภายในเซลล์ จึงทำให้อัตราความสำเร็จสูงมาก
ถามว่าทำไมถึงต้องแช่แข็งเซลล์ไข่
เพื่อรักษาเซลล์ไข่ไว้ใช้ในอนาคต ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ หรือเพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ในระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะเมื่อผู้หญิงอายุมากขึ้น จำนวนไข่และคุณภาพจะลดลงเรื่อยๆ ทำให้มีบุตรยาก เสี่ยงต่อภาวะเด็กมีโครโมโซมผิดปกติ เพิ่มภาวะแท้งบุตร ดังนั้นหากแช่แข็งไข่ไว้ในช่วงอายุที่เหมาะสม จะได้ไข่ที่คุณภาพดีและจำนวนที่พอเหมาะ ช่วยเพิ่มโอกาสการมีบุตรที่ปกติเมื่อมีความพร้อมได้
แล้วใครบ้างที่ควรจะแช่แข็งเก็บรักษาเซลล์ไข่
- ผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมจะตั้งครรภ์ในขณะนี้ โดยเฉพาะเมื่ออายุมากกว่า 35 ปี
- ผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด หรือฉายแสง ที่กระทบต่อจำนวนและคุณภาพเซลล์ไข่
- ผู้มีปัญหาด้านพันธุกรรม ชนิดที่ทำให้รังไข่เสื่อมการทำงานเร็ว เช่น Turner syndrome , Fragile X syndrome
- ผู้ที่ต้องผ่าตัดรังไข่ เช่น ถุงน้ำรังไข่ เนื้องอกรังไข่ ช็อคโกแลตซีสต์
- ผู้ที่แช่แข็งไข่เพื่อการบริจาค ซึ่งยอมรับให้ทำได้ในบางประเทศ
- กรณีรักษาเด็กหลอดแก้วแล้วสามีไม่สามารถหลั่งน้ำเชื้อได้ ไม่มีตัวอสุจิในน้ำเชื้อหรือจำนวนอสุจิไม่เพียงพอที่จะผสม
การเก็บรักษาแช่แข็งเซลล์ไข่ทำได้อย่างไร
ฉีดยากระตุ้นเพื่อให้ได้เซลล์ไข่ที่มากพอ เฉลี่ย 8-10 วัน จากนั้นเก็บไข่ ผ่านทางช่องคลอด โดยใช้เข็มขนาดเล็ก คัดเอาไข่ที่อยู่ในระยะสมบูรณ์ เพื่อแช่แข็ง และเก็บรักษาไว้ในไนโตเจนเหลว หากจะนำไข่ที่แช่แข็งมาใช้ เพียงแสดงทะเบียนสมรส ก็สามารถละลายเซลล์ไข่พร้อมใช้ได้
อายุเท่าไรควรจะมาแช่แข็งและฝากเซลล์ไข่ไว้
สามารถทำได้ทุกช่วงอายุ โดยพบว่าเมื่อทำการแช่แข็งไข่ เมื่ออายุน้อยกว่า 35 ปี จะทำให้ได้จำนวนไข่และคุณภาพสูง หากอายุมากขึ้นเท่าไร อัตราการความสำเร็จของการมีบุตรจากการแช่แข็งไข่ จะลดน้อยลง และอาจจำเป็นต้องได้จำนวนไข่มากขึ้น เนื่องจากคุณภาพที่ได้ก็จะลดลงด้วย
ความสำเร็จของการแช่แข็งเซลล์ไข่เป็นอย่างไร
ความสำเร็จขึ้นอยู่กับจำนวนและคุณภาพไข่ ณ ช่วงอายุที่แช่แข็ง ยิ่งอายุน้อยโอกาสสำเร็จจะสูง
ค่าเฉลี่ยหลังละลายไข่ สามารถนำมาใช้ได้ร้อยละ 80 -95 เจริญเป็นตัวอ่อนเมื่อปฎิสนธิร้อยละ 70-80 และหากอายุน้อยกว่า 35 ปี โอกาสตั้งครรภ์สำเร็จร้อยละ 40- 50 ในแต่ละครั้ง หากอายุ 35-37 ปี สำเร็จร้อยละ 30-35 , 38-40 ปี ร้อยละ 25-30 ,41-43 ปี ร้อยละ 20-22
ควรต้องมีไข่แช่แข็งจำนวนกี่ใบ
ในอดีตต้องใช้ไข่ 100 ใบ ต่อการมีบุตร 1 ครั้ง ปัจจุบันดีขึ้นมาก โดยหญิงอายุน้อยกว่า 35 ปี แนะนำให้แช่แข็งไข่ 10-15 ใบ ต่อความสำเร็จในการตั้งครรภ์ 1 ครั้ง หากอายุมากกว่า35 ปี อาจต้องใช้จำนวนไข่เพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยโอกาสของการตั้งครรภ์เท่ากับร้อยละ 7 ต่อไข่ 1 ใบ
เด็กที่เกิดจากการใช้ไข่แช่แข็งจะมีความผิดปกติหรือไม่
เด็กที่เกิดด้วยวิธีการแช่แข็งไข่คนแรกของโลก เกิดในปี พ.ศ.2529 ปัจจุบันแข็งแรงดี ช่วยยืนยันว่าการแช่แข็งไข่มีความปลอดภัย ไม่เพิ่มโอกาสความผิดปกติของโครโมโซม หรือความพิการมากขึ้น เมื่อเทียบกับการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติซึ่งพบเพียง 1- 2 %
สามารถเก็บแช่แข็งเซลล์ไข่ ไว้ใช้ได้นานเพียงไร
ตามหลักการ สามารถแช่แข็งไข่ไว้ได้นานตราบเท่าที่ยังมีสารรักษาความเย็นที่เพียงพอ ปัจจุบันข้อมูลที่เก็บแช่ไข่ไว้นาน 14 ปี เมื่อนำมาใช้ก็ประสบผลสำเร็จดี โดยทั่วๆไปแนะนำให้ใช้ไข่แช่แข็งก่อนอายุ 50 ปี เนื่องจากอายุเกินกว่านี้ตั้งครรภ์อาจพบภาวะแทรกซ้อนมาก
ผลข้างเคียงของการแช่แข็งเซลล์ไข่
การแช่แข็งเซลล์ไข่นับว่าปลอดภัยมาก ไม่ได้ทำให้จำนวนไข่ในร่างกายลดน้อยลงหรือทำให้เข้าสู่วัยหมดระดูเร็วขึ้น เพียงแต่เป็นการนำไข่ที่จะสูญเสียในแต่ละรอบเดือนนั้นมาเก็บรักษาไว้ อาจพบภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินหรือการติดเชื้อซึ่งพบได้น้อยมาก
ที่มา independent
บทความที่เกี่ยวข้อง
คนท้องเริ่มฝากครรภ์ได้เมื่อไหร่ ฝากครรภ์ช้าสุดกี่เดือน จำเป็นต้องฝากครรภ์ไหม?
วิธีการดูแลตัวเองเมื่อ “ตั้งครรภ์” โดยไม่ต้องพึ่งยา