เด็ก 6 ขวบ ตกบ่อเกลือ จมน้ำตาย : เย็นวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ตำรวจภูธรอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมาประสานงานกับเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำ งมร่างของน้องน็อต เด็กชายธนวัฒน์ ญาติกลาง วัย 6 ขวบขึ้นจากบ่อพักน้ำเกลือของหมู่บ้าน หลังพ่อแม่กลับจากงานแล้วไม่เห็นหน้าลูก สันนิษฐานว่าน้องน็อตอาจพาลูกสุนัขที่เลี้ยงไว้ไปเดินเล่น โดยไม่บอกให้ผู้ใหญ่รู้ เมื่อพลัด ตกบ่อเกลือ และหมดแรงตะกายขึ้นจากบ่อ จึง จมน้ำ เสียชีวิตอย่างน่าสลด เมื่อพบร่างลูก แม่ของน้องน็อตถึงกับกรีดร้องอย่างโศกเศร้า หัวใจสลายที่เสียลูกไป
การจากไปของน้องน็อต ถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่าน เด็กควรได้รับการดูแลตลอด ไม่ควรปล่อยให้ออกไปข้างนอกตามลำพัง และโดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน เด็กหลายคนจะชอบเล่นน้ำ ผู้ใหญ่ควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด
สถิติอันตรายที่เกิดขึ้นกับเด็ก จมน้ำตาย ติดอันดับ
บทความ : อย่าปล่อยให้ที่เล่นแถวบ้าน กลายเป็นมัจจุราชพรากลูก
คนส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับคำว่า “7 วันอันตราย” ในช่วงเทศกาลสำคัญต่าง ๆ แต่จริง ๆ แล้วยังมี “3 เดือนอันตราย” ที่ควรที่จะต้องระวัง นั่นคือ ช่วงเวลาปิดเทอมใหญ่ ระหว่างเดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเด็ก ๆ จะอยู่บ้าน และมีเวลาวิ่งเล่นมากกว่าเดิม
ที่น่าตกใจก็คือ ช่วง 12 วันของกลางเดือนเมษายน ระหว่างวันที่ 12 – 23 เมษายน มีเด็กที่มีอายุระหว่าง 4 – 12 ปีเสียชีวิตมากที่สุด เมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่น ๆ โดยสาเหตุการเสียชีวิตนั้นมาจาก
– การจมน้ำ แหล่งน้ำเสียที่อยู่ละแวกชุมชน ยกตัวอย่างเช่น บ่อน้ำ สระน้ำสาธารณะ ห้วยหนองคลองบึง และแม่บ้านใกล้บ้าน
– อุบัติเหตุจราจร ขับหรือซ้อนมอเตอร์ไซด์แล้วพลิกคว่ำ ถูกเฉี่ยวชน
– ตกจากที่สูง เช่นตกจากระเบียง หลังคา ต้นไม้ แป้นบาส เสาฟุตบอลหรือถูกของแข็งกระแทก เช่นเล่นสเก็ต ถูกเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นหล่นทับศรีษะ ทำให้ได้รับการกระทบกระเทือยอย่างรุนแรง อวัยวะภายในแตกแหลกเหลว
– ถูกทำร้าย ไฟดูดไฟช็อต การขาดอากาศหายใจ น้ำร้อนลวก เป็นต้น
มาดูกันกับ 9 วิธี ให้ลูกเล่นใน สระว่ายน้ำ อย่างปลอดภัย
บทความ : มาดูกันกับ 9 วิธี ให้ลูกเล่นใน สระว่ายน้ำ อย่างปลอดภัย
สำหรับเด็ก ๆ แล้ว การว่ายน้ำเป็นช่วงเวลาที่แสนตื่นเต้นและประทับใจที่สุด แต่เรื่องเศร้าก็คือการจมน้ำเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ในการเสียชีวิตของเด็กวัยนี้ทั่วโลก เราตระหนักดีว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูก ๆ ปลอดภัย หากคุณมี สระว่ายน้ำ อยู่ในบ้านหรือพาลูกไปว่ายน้ำเป็นประจำ คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องเตรียมการป้องกันอันตรายสำหรับลูกไว้ด้วย
สระว่ายน้ำ เป็นสถานที่สุดสนุกแต่แสนอันตรายสำหรับเด็กวัยหัดเดิน เนื่องจากเด็กวัยนี้เข้าใจว่าเขาสามารถทำได้ทุกอย่างรวมถึงการเดินบนน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเด็กดีเรียบร้อยเพียงใด แต่ลูกก็มีความอยากรู้อยากเห็นอย่างยิ่ง และมีความเสี่ยงที่จะจมน้ำได้ตลอดเวลา การจมน้ำของเด็กวัยหัดเดินส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากคุณพ่อคุณแม่คิดว่าลูกเป็นเด็กเรียบร้อย เกินกว่าที่จะกระโดดลงสระน้ำได้ การดูแลให้ลูกปลอดภัยถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของคุณพ่อคุณแม่ ไม่ว่าลูกจะมีพฤติกรรมหรือบุคลิกภาพแบบใดก็ตาม
1. อย่าปล่อยลูกคลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว คุณจะต้องจับตามองลูกตลอดเวลา ถ้าจำเป็นต้องออกจากบริเวณสระน้ำ คุณจะต้องพาลูกไปกับคุณด้วย อย่าแม้แต่จะคิดว่าเดี๋ยวก็มีผู้ใหญ่คนอื่นดูให้ อย่าปล่อยให้ลูกลงว่ายน้ำถ้าไม่มีใครคอยดูแล การใช้ห่วงยางเทียบไม่ได้เลยกับการที่มีผู้ใหญ่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
2. สอนให้ลูกรู้จักทักษะการว่ายน้ำอย่างปลอดภัย ลูกวัยหัดเดินของคุณควรจะได้เรียนรู้วิธีการลอยตัวในน้ำและการกลั้นหายใจใต้น้ำในกรณีฉุกเฉิน นอกจากนี้ เด็กๆ จะต้องรู้จักที่จะถีบตัวขึ้นมาหายใจและว่ายน้ำไปยังขอบสระเมื่อกำลังจะจมน้ำ สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์มากในกรณีที่ลูกไป สระว่ายน้ำ กันเองโดยที่คุณไม่ทราบ
3. ถึงลูกจะว่ายน้ำเป็น แต่ก็อย่ามั่นใจจนเกินไป เด็กที่เคยเรียนว่ายน้ำมีอัตราเสี่ยงในการจมน้ำสูงมาก เนื่องจากถ้าเด็กวัยนี้พลัดตกลงไปใน สระว่ายน้ำ เด็กจะตกใจและทำอะไรไม่ถูกแม้ว่าจะเคยเรียนว่ายน้ำมาก่อนแล้วก็ตาม
4. ถ้าลูกกระโดดลงในสระและเริ่มทำท่าจะจม คุณจะต้องโดดลงน้ำและพาลูกขึ้นจากน้ำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ คำแนะนำนี้อาจฟังดูไร้สาระ แต่เด็กจำนวนมากที่เสียชีวิตเป็นผลมาจากการที่คุณพ่อคุณแม่ตกใจและทำอะไรไม่ถูก เมื่อเห็นลูกจมน้ำไปต่อหน้าต่อตา
5. ตั้งกติกาทันทีที่คุณและครอบครัวไปถึงสระว่ายน้ำ บอกให้ลูก ๆ รู้ว่าจะลงสระได้เฉพาะเวลาที่คุณอยู่ด้วยเท่านั้น
6. ถ้าคุณมี สระว่ายน้ำ ในบ้าน เช็คให้ดีว่าคุณได้ล็อกประตูอย่างเรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเข้าไปในบริเวณ สระว่ายน้ำ ได้โดยที่คุณไม่ทราบ ติดตั้งรั้วรอบสระเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกกระโดดลงสระเวลาที่คุณไม่ได้อยู่ดูแล อย่าลืมสำรวจให้ทั่วว่าคุณไม่ได้ทิ้งอะไรที่ลูกจะใช้ปีนข้ามรั้วเข้าไปบริเวณสระได้
7. เก็บของเล่นโดยเฉพาะพวกที่มีล้อเลื่อนให้พ้นจากบริเวณ สระว่ายน้ำ ลูกอาจพลัดตกลงไปในสระได้ขณะเล่นของเล่นพวกนี้อยู่
8. ถ้าลูกยังว่ายน้ำไม่เป็น คุณควรให้ลูกใส่อุปกรณ์ช่วยพยุงตัวต่าง ๆ เช่น ปลอกแขน เสื้อชูชีพ ไว้ตลอดเวลาที่อยู่บริเวณสระน้ำ เผื่อลูกอาจกระโดดลงสระขณะที่คุณไม่ทันได้มอง
9. เรียนรู้วิธีการผายปอดและปฐมพยาบาล คุณควรเตรียมแผนปฏิบัติการไว้เพื่อให้คุณรู้ว่าควรจะทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และควรติดตั้งโทรศัพท์ไว้บริเวณ สระว่ายน้ำ เพื่อให้สามารถโทรออกได้ทันทีที่เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
อย่าลืมว่าความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ สำหรับลูก ตอนนี้คุณได้อ่านคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยแล้วก็ได้เวลาลุกขึ้นไปสวมชุดว่ายน้ำและมุ่งหน้าไป สระว่ายน้ำ แล้วค่ะ
source : Kids Health.org – Why is Water Safety Important?
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
การป้องกัน อุบัติเหตุในเด็กเล็ก ที่พ่อแม่ควรรู้ ช่วง 1-12 เดือน ต้องระวังอะไรบ้าง
สังคมออนไลน์ชื่นชมตำรวจช่วยเด็กจมน้ำ
เรื่องของเด็กกับทะเลที่ต้องระวัง