วิธีส่งเสริม พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ของทารก วัยแรกเกิด - 5 ปี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ของทารก แบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ กล้ามเนื้อมัดเล็ก และกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ซึ่งการส่งเสริมพัฒนาการนี้พ่อแม่สามารถช่วยเสริมสร้างให้ลูกตั้งแต่แรกเกิดได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นทักษะต่าง ๆ และสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

 

พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ (Gross Motor Development)

พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ หมายถึง ความสามารถของร่างกายในการทรงตัว การเคลื่อนไหว และการเคลื่อนที่ เช่น การชันคอ การนั่ง การยืน และการคว่ำ เป็นต้น

  1. เด็กทารกแรกเกิด: งอแขนขา เคลื่อนไหวเท่ากัน 2 ด้าน
  2. 1 เดือน: หันหน้าซ้ายขวา
  3. 2 เดือน: ชันคอ
  4. 4 เดือน: ยกแขนดันตัวชูขึ้นในท่าคว่ำ
  5. 6 เดือน: คว่ำหงายได้เอง
  6. 9 เดือน: นั่งได้มั่นคง คลาน เกาะยืน
  7. 12 เดือน: เกาะเดิน
  8. 15 เดือน: เดินเองได้
  9. 18 เดือน: วิ่ง ยืนก้มเก็บของ
  10. 2 ปี: เตะลูกบอล กระโดด 2 เท้า
  11. 3 ปี: ขึ้นบันไดสลับเท้า ถีบรถ 3 ล้อ
  12. 4 ปี: ลงบันไดสลับเท้า กระโดดขาเดียว
  13. 5 ปี: กระโดดสลับเท้า เดินต่อเท้า

 

กิจกรรมเสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดใหญ่

หากลูกของคุณอยู่ในช่วง 1-3 ขวบ สามารถเน้นส่งเสริมพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้จากการที่ให้ลูกเดินด้วยตัวเองเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อที่ใช้ในการทรงตัว และความสัมพันธ์ของแขนและขา แม้กระทั่งการเดินแล้วล้มก็เป็นทักษะหนึ่งที่เด็ก ๆ จะได้เรียน รวมถึงการใช้กล้ามเนื้อเพื่อระมัดระวังในการเดินครั้งต่อไป

เมื่อเด็กโตขึ้นอายุในช่วงวัย 3-6 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น รักในการสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ดังนั้น พ่อแม่จึงควรส่งเสริมให้ลูกใช้กล้ามเนื้อส่วนนี้จากการให้ลูกวิ่งเล่นในสวน การเล่นดินเล่นทราย การเล่นเครื่องเล่นในสวนสาธารณะ ล้วนเป็นกิจกรรมที่สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการสร้างพื้นฐานทักษะด้านอารมณ์และสังคมได้อีกด้วย

บทความเพิ่มเติม : กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก มีกิจกรรมอะไรบ้าง มีประโยชน์อย่างไร

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก (Fine Motor Development)

พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก เป็นการใช้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ รวมถึงการใช้สายตา การใช้มือเพื่อกระทำกิจกรรมอะไรบางอย่าง เช่น การควบคุมกล้ามเนื้อมือ ตา ปาก การหยิบจับ การขีดเขียน เป็นต้น

  1. เด็กทารกแรกเกิด: ปฏิกิริยาสะท้อนที่ฝ่ามือ
  2. 1 เดือน: กำมือแน่น
  3. 2 เดือน:กำมือหลวม มองตาม
  4. 4 เดือน: คว้าของใกล้ตัว
  5. 6 เดือน: หยิบของมือเดียว เปลี่ยนมือได้
  6. 9 เดือน: ใช้นิ้วหยิบของเล็ก ๆ
  7. 12 เดือน: หยิบของใส่ถ้วย/ใส่กล่อง
  8. 15 เดือน: วางก้อนไม้ซ้อน 2 ชั้น
  9. 18 เดือน: วางก้อนไม้ซ้อน 3 ชั้น
  10. 2 ปี: วางก้อนไม้ซ้อน 6 ชั้น
  11. 3 ปี: วาดวงกลมตามแบบ
  12. 4 ปี: วาดสี่เหลี่ยมตามแบบ
  13. 5 ปี: วาดสามเหลี่ยมตามแบบ

 

กิจกรรมเสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดเล็ก พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก

คุณพ่อคุณแม่สามารถหัดให้ลูกโดยการใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ในการหยิบจับสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ สำหรับเด็กที่มีอายุ 1-3 ปี พ่อแม่อาจสอนให้ลูกน้อยพับกระดาษเป็นชิ้นเล็ก ๆ สอนให้ลูกขีดเขียนโดยใช้ดินสอวาดเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้ง หรือตามรอยประก็ได้

พอลูกน้อยอายุ 3-6 ขวบ คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้เขาได้เล่นกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะมากขึ้นใช้ของเล่นเสริมพัฒนาการ เช่น การร้อยลูกปัดเป็นสร้อย การตัดกระดาษ ทำงานประดิษฐ์ การระบายสี วาดภาพ แบบฝึกหัดคัดลายมือ ปั้นดินน้ำมัน หรือแม้แต่การออกไปเล่นกีฬา เช่น การฝึกโยนรับลูกบอล

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

พัฒนาการในเด็ก

คือ เรื่องของความเปลี่ยนแปลงความสามารถในการทำหน้าที่ในเรื่องวุฒิภาวะของอวัยวะ และระบบต่าง ๆ รวมถึงตัวบุคคลที่สามารถทำสิ่งที่ยาก ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งพ่อแม่ควรหมั่นสังเกตสัญญาณเตือน…ว่าลูกมีพัฒนาการที่ล่าช้ากว่าเพื่อน ๆ วัยเดียวกันหรือไม่ เพราะหากปล่อยไว้นาน ๆ ไม่รีบรักษาจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในอนาคตของเด็กได้

บทความเพิ่มเติม : คุณแม่รู้ไหม ? ให้ลูก ๆ เล่น วิ่งไล่จับ ช่วยเสริมพัฒนาการเด็ก ๆ ได้ดี !

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พัฒนาการของมนุษย์ แบ่งออกเป็น 5 ด้าน

  1. พัฒนาการด้านร่างกาย คือ ความสามารถของร่างกายในการทรงตัว เคลื่อนไหว เคลื่อนที่โดยการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ประสาทสัมผัสต่าง ๆ รวมถึงการใช้ตา และมือประสานกันในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
  2. พัฒนาการด้านสติปัญญา คือความสามารถในการเรียนรู้ เข้าใจความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ เหตุผล ความคิดวิเคราะห์ และสังเคราะห์ รวมถึงความสามารถในการแก้ไขปัญหา
  3. พัฒนาการด้านจิตใจและอารมณ์ คือความสามารถในด้านความรู้สึก และการแสดงออกทางอารมณ์ แยกแยะและควบคุมอารมณ์ได้อย่างเหมาะสมเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ
  4. พัฒนาการด้านสังคม คือความสามารถในการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น มีทักษะการปรับตัวในสังคม มีความรับผิดชอบ ร่วมมือกับผู้อื่น และมีความเป็นตัวของตัวเอง การช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวัน การปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับกาลเทศะ มีมารยาท และระเบียบวินัย

พัฒนาการด้านจิตวิญญาณ คือการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการรู้จักคุณค่าของชีวิตของตนเอง มีกำลังใจในการควบคุมตนเองให้เลือกดำรงชีวิตในทางที่ชอบที่ควรและสร้างสรรค์ นำมาสู่การรู้จักคุณค่าชีวิตของคนอื่น ๆ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และพัฒนาการด้านคุณธรรม ซึ่งนำไปสู่เป้าหมายสูงสุดของชีวิตที่ดีงาม

 

 

สาเหตุของการบกพร่องทางด้านพัฒนาการ

  1. ความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น กลุ่มอาการดาวน์ กลุ่มอาการโครโมโซมเอกซ์เปราะ กลุ่มอาการพราเดอร์ วิลลี่ กลุ่มอาการแองเจลแมน เป็นต้น
  2. ความผิดปกติทางระบบประสาทส่วนกลาง
  3. การติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อหัดเยอรมัน การติดเชื้อเอชไอวี เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น
  4. การได้รับสารพิษ เช่น fetal alcohol syndrome พิษจากตะกั่ว เป็นต้น
  5. ความผิดปกติ และภาวะแทรกซ้อนในการคลอด เช่น ภาวะขาดออกซิเจน บิลลิรูบินในเลือดสูง คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดน้อย เป็นต้น
  6. ความผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลิซึม เช่น ภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน เป็นต้น
  7. ขาดสารอาหาร เช่น ธาตุเหล็ก
  8. การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม ขาดการกระตุ้นพัฒนาการ

 

สัญญาณเตือนพัฒนาการล่าช้าของเด็ก

  1. ไม่สนใจทำกิจกรรมหรือไม่สามารถทำกิจกรรมใด ๆ ได้ตามที่เด็กในวัยนั้นควรทำ
  2. สนใจในสิ่งที่เด็กคนอื่นไม่สนใจ และรู้สึกสนุกกับสิ่งบางอย่าง หรือของเล่นมากกว่าการเล่นหรือพูดคุยกับคนอื่น
  3. ไม่ยอมสบตา และพยายามหลบหลีกอยู่เสมอ
  4. หงุดหงิดง่าย ไม่สามารถทำอะไรง่าย ๆ อย่างเด็กคนอื่นได้
  5. แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงเมื่อเทียบกับเด็กที่มีอายุเท่ากัน
  6. เหม่อลอย จ้องอยู่กับอะไรก็ไม่รู้ และชอบพูดคนเดียวเป็นประจำ
  7. ไม่ยอมเข้าหาพ่อแม่หรือคนที่เลี้ยงดู
  8. ล้มง่าย เคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่ว

 

สาเหตุที่ทำให้เด็กมีพัฒนาการล่าช้า

  1. เกิดความผิดปกติของยีนหรือโครโมโซมที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมไปสู่เด็ก
  2. เกิดจากที่แม่สัมผัสสิ่งที่เป็นอันตรายก่อนหรือหลังคลอด เช่น ตะกั่ว หรือยาอันตราย
  3. เกิดจากการขาดสารอาหารที่เพียงพอต่อร่างกายลูกน้อย
  4. การติดเชื้อ เช่น โรคหัดเยอรมัน เชื้อเอชไอวี
  5. การคลอดก่อนกำหนด
  6. ภาวะซึมเศร้าของคุณแม่เอง
  7. การขาดการดูแลเอาใจใส่ทารกในครรภ์

 

หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกมีพัฒนาการล่าช้า ควรพาลูกมาพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจคัดกรอง และประเมินพัฒนาการด้วยเครื่องมือที่เป็นมาตรฐาน หาสาเหตุ รวมถึงอาจส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น การส่งตรวจทางพันธุกรรม การตรวจระดับไทรอยด์ฮอร์โมน การถ่ายภาพสมอง ตรวจการมองเห็นหรือการได้ยิน เป็นต้น เพื่อจะได้รักษาให้ตรงกับสาเหตุ ร่วมกับการกระตุ้นพัฒนาการโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หากคุณพ่อคุณแม่ดูแล้วว่าลูกไม่สามารถทำกิจกรรม หรือมีพฤติกรรมตามที่กำหนดไว้ พ่อแม่ควรจดพฤติกรรมของลูกน้อย แล้วนำไปปรึกษาแพทย์ เพื่อหาแนวทางแก้ไข อย่ารอให้สายเกินไป

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ฝึกลูกเขียนหนังสือ ด้วยดินสอไม้ พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก เสริมสมาธิเจ้าตัวน้อย

อาหารที่เด็กเล็กไม่ควรกิน อาหารอันตรายกินแล้วลูกเสี่ยงตาย-พัฒนาการช้า

ฝึกลูกอย่างไรให้มีความอดทน รู้จักรอคอย ไม่กลายเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง!

ที่มา : med

บทความโดย

Khunsiri