แม่แทบขาดใจ เมื่อรร.ปล่อยลูกไปกับคนแปลกหน้า

จากการแชร์เรื่องราวของคุณแม่นิตยา หงส์แดง ผ่านเฟสบุ๊คเกี่ยวกับประสบการณ์อันเลวเลวร้าย เมื่อโรงเรียนปล่อยให้ลูกสาวไปกับคนแปลกหน้า!!

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อโรงเรียนได้ปล่อยให้ “น้องน้ำชา” กลับบ้านไปกับคนแปลกหน้า

คุณแม่เล่าว่า วันเกิดเหตุนั้น คุณแม่ไปรับส่งลูกที่โรงเรียนตามปกติ แต่ในวันั้นรถติดมาก ทำให้คุณแม่ไปรับลูกช้า ซึ่งปกติโรงเรียนจะอนุญาตให้ผู้ปกครองมารับเด็กกลับบ้านได้ในเวลา 14.35 น. แต่ในวันนั้นคุณแม่ไปถึงตอน 14.50 น.

เมื่อถึงโรงเรียน คุณแม่ก็ให้คุณยายลงไปรับหลาน โดยใช้บัตรรับนักเรียนที่ผู้ปกครองทุกคนจะต้องมี จากนั้นประมาณ 5 นาที ยายโทรมาบอกว่า “น้องน้ำชา มีคนรับไปแล้ว มาด่วนเลย” แม่ถามครูที่มีหน้าที่ส่งเด็ก บอกมีผู้ชายแก่มารับไป แต่ปกติแม่เป็นคนส่ง-รับคนเดียวทุกวัน ไม่เคยให้ใครมารับแทน มีบุคลากรของโรงเรียน 6-7 คน ทำหน้ามึนงง ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าใครรับเด็กไป

เมื่อคุณแม่ถามว่าทำไมคุณครูไม่ตรวจสอบ ครูบอกว่าถามน้องแล้วว่าคนนี้ใช่หรือไม่ เด็กบอกว่าใช่ แต่ครูไม่ได้ดูป้ายว่าใช่จริงหรือไม่ เมื่อขอดูกล้องวงจรปิดครูก็บอกให้แม่ใจเย็น ๆ ขอให้รอหัวหน้า ซึ่งในตอนนั้นคนเป็นแม่รอไม่ได้แล้ว ใจมันเหมือนจะขาดให้ได้ จนหัวหน้ามาถึงได้เปิดกล้องวงจรปิดให้ดู พบว่าคนที่รับน้องน้ำชาไป เป็นชายแก่รูปร่างท้วม อายุประมาณ 65-70 ปี เดินขากะเผลกช้า ๆ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เวลา 17.30 น. เสียงวอในห้องดังขึ้นว่าเจอน้องแล้ว หลังจากสอบถามคุณตาที่รับไป บอกว่า หลานตาชื่อพัดชา แล้วตัดผมทรง ดียวกันกับน้ำชา พอครูมาส่งก็ไม่ได้มองหน้าหลาน จับมือเดินออกไปเลย แล้วไปรับพี่สาวของน้องอีกโรงเรียนหนึ่ง พี่สาวเดินขึ้นรถมาบอกตาว่า “นี่ไม่ใช่น้องหนู” คุณตาจึงรีบนำกลับมาส่งที่เดิม

จากกรณีนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนได้กล่าวขอโทษและขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว และจะปรับการรับนักเรียนให้เข้มงวดขึ้น แต่ทางโรงเรียนไม่ได้แจ้งว่าจะรับผิดชอบยังไงกับเหตุการณ์ครั้งนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่จึงอยากแชร์เรื่องราวดังกล่าวไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับทางโรงเรียนได้ควรสละเวลาเพียงน้อยนิดเพื่อตรวจสอบรายละเอียดให้มั่นใจก่อนที่จะปล่อยเด็กออกไป

ที่มา: Sanook

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

ก่อนหัวใจสลาย เรื่องคนแปลกหน้าที่ต้องสอนลูก

สอนลูกให้ปลอดภัยจากคนแปลกหน้า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Muninth