ออมเงินอย่างไร ให้ได้เงินล้าน เทคนิคออมเงิน ง่าย ๆ นำไปใช้ได้เลย

 ออมเงินอย่างไรเห็นเงินล้านในยุคนี้ ไม่ยากอย่างที่คิด 5 เทคนิคออมเงิน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมี เงินออม ถือเป็นคงคลังหลักในช่วงที่เจอวิกฤตที่ไม่แน่นอนในชีวิต ในยามที่ยังไม่มีวิกฤตเข้ามา เงินออมอาจเป็นสิ่งที่เรามองข้ามและใช้วิธี ใช้ก่อนเก็บ! มากกว่าจะ เก็บก่อนใช้! แต่ในวันที่เจอวิกฤตเงินออมถือเป็นพลังงานหลักให้เราอยู่รอดได้ในช่วงเวลาหนึ่ง และอาจนำเงินออมไปต่อยอดได้ทันท่วงที การออมเงินเป็นเรื่องง่ายๆที่คิดว่าทุกคนรู้ว่ามันสำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ ใครก็อยากจะมีเงินเก็บเยอะๆจิงไหมคะ

คนที่รวยและประสบความสำเร็จมีมากกว่า เทคนิค แต่มีวินัยเข้ามาช่วยด้วย ถ้าอยากรู้ว่าคนรวยหรือคนที่ประสบความสำเร็จมีวิธีออมเงินอย่างไร ถึงมีเงินใช้ไม่มีวันหมด ขอให้อ่านให้จบบทความนี้ แล้วจะพบว่ามีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นหนึ่งอัตรา ออมเงินอย่างไรให้ได้เงินล้าน เทคนิคออมเงิน ง่ายๆ นำไปใช้ได้เลย วันนี้เราได้รวบรวม5 เคล็ดลับ เทคนิคออมเงินที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้คุณออมเงินได้ง่ายยิ่งขึ้นและได้จับเงินล้านไวยิ่งขึ้นค่ะ

การออมเงินรูปแบบนี้เหมาะสำหรับวัยทำงาน มนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงดูตัวเอง หรือวัยสร้างครอบครัว ซึ่งวัยนี้ ย่อมมีภาระค่าใช้จ่ายที่เข้ามาประจำทุกเดือนดังนั้นการออมจึงดูเหมือนเรื่องไกลตัว เพื่อให้มีเงินจับจ่ายใช้สอยเพียงพอในแต่ละเดือนนั้นก็ว่ายากแล้ว แต่ถ้าเราสามารถลดค่าใช้จ่ายบางอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อการเก็บออมเงินออกไปได้ การเก็บเงิน 1 ล้านแรก ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

 

บทความประกอบ : เปิดเข้าคอรส์อบรมเป็นคุณพ่อเพื่อค้นหาคู่ชีวิตสร้างครอบครัว

5 เทคนิคออมเงิน อย่างไรเห็นเงินล้าน เริ่มทำได้ตั้งแต่วันนี้!

1.ควรคิดก่อนใช้

ให้นึกไว้เสมอว่า ควรคิดก่อนใช้ เชื่อหรือไม่ มันเป็นอะไรที่ฟังดูง่ายแต่ทำไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะสาวๆ เห็นป้ายSale ทีไรก็ใจอ่อนระทวย คิดได้เมื่อสายเสมอ ดังนั้นก่อนจะซื้อสิ่งใดควรคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ หรือแค่อารมณ์พาไป และคิดถึงประโยชน์ใช้สอยในอนาคตหรือในระยะยาวค่ะ เงินในส่วนที่เราเก็บไว้สำหรับการที่จะใช้จ่ายเพื่อซื้อสิ่งที่เราต้องการควรแยกบัญชีไว้ เพราะมิเช่นนั้นจะพบว่าตนเองได้ใช้จ่ายไปจนหมดไม่ว่าคุณจะหามาได้มากเท่าไหร่ก็ตาม  มหาเศรษฐีหุ้นผู้ที่รวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกอย่างวอร์เรน บัฟเฟต เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณมัวแต่สะสมของที่ไม่จำเป็น ซักวันคุณจะต้องขายสิ่งที่มันจำเป็น”

2.ทำสมุดจดบัญชีรายรับรายจ่าย

ทำสมุดจดบัญชีรายรับรายจ่าย ค่าใช้จ่ายระหว่างวันถ้าไม่ได้เขียนไว้ กลับมาดูเงินในกระเป๋าอาจจะงงได้ว่ารายจ่าย จ่ายในด้านไหนบ้าง แต่ถ้าเรามีการจดไว้เสมอจนเป็นนิสัย จะทำให้เราหาต้นตอของรายจ่ายเราได้และเข้าใจแผนการเงินของตัวเองมากขึ้น ถ้าทึกวันนี้คุณเป็นหนึ่งคนที่แทบไม่มีเงินเก็บเหลือเลย เพราะรายจ่ายเยอะเหลือเกิน หากและคุณไม่ได้วางแผนถึงงบประมาณต่างๆ ไว้ล่วงหน้า ว่าส่วนไหนคือรายรับและส่วนไหนคือรายจ่ายย่อมมีปัญหาแน่นอน  ให้จำไว้เสมอว่า คนรวยมักจะรู้เสมอว่าเงินของพวกเขามาจากแหล่งทางไหนบ้าง และเงินเหล่านั้นถูกเอาไปใช้กับอะไรบ้าง! แนะนำว่าอาจจะเริ่มง่ายๆลองทำบัญชีรายรับรายจ่ายด้วยตารางโปรแกรม Excel ดูก่อนก็ได้หรือง่ายกว่านั้น ตอนนี้มีสมุดจดบัญชีรายรับรายจ่ายวางขายมากมาย สามารถซื้อมาเก็บไว้ติดตัวได้เลยค่ะ

3.ออมเงินจากรายได้

เทคนิคอีกอย่างคือการออมเงินจากรายได้ คือการเก็บก่อนใช้อย่างที่เคยกล่าวไปข้างต้น คนรวยมักจะออมเงินในปริมาณมากจากรายได้ที่พวกเขาหาได้ ดังนั้นแน่นอนทำงานให้หนักกว่าคนทั่วไป อย่างน้อยก็เท่าที่วัยแต่ละวัยจะเอื้ออำนวย เพราะฉะนั้นข้อสำคัญคือ คุณควรจะหาวิธีเพิ่มรายได้ของคุณ และเมื่อคุณหาเงินได้มากขึ้น ก็จงเก็บเงินให้มากขึ้นกว่าที่เคยเก็บ และควรหางานที่คุ้มค่ากับค่าเสียเวลาและสิ่งนั้นต้องเป็นสิ่งที่รักและได้เงินจากสิ่งที่เรารักแล้วเราจะทำสิ่งนั้นได้ดีค่ะ

4.นำเงินออมมาลงทุนอย่างชาญฉลาด

ข้อนี้สำคัญมากเพราะสามารถพลิกคนธรรมดาให้เป็นเศรษฐีด้วยการนำเงินออมมาลงทุนอย่างชาญฉลาด แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าการลงทุน ย่อมมีความเสี่ยงแต่การไม่ทำอะไรเลยนั้นเสี่ยงกว่า!  ส่วนมากคนมักจะมองข้ามเงินจำนวนน้อยนิด แต่เงินจำนวนน้อยนิดนี่แหละ ที่รวมกันเป็นเงินจำนวนมาก ลองคิดว่าถ้าคุณคาด 1 บาทที่จะครบ1 ล้านบาท คุณจะเห็นคุณค่าของเงิน1 บาทขึ้นมาทันตาเลยค่ะ ดังนั้นเงินไม่ว่ากี่จำนวนมีความสำคัญทั้งนั้นหากคุณมีเงินออมมากอยู่แล้วละก็ นั่นยิ่งเป็นเรื่องน่ายินดี และคุณได้นำเงินออมของคุณมาลงทุนอย่างเหมาะสม คุณก็จะได้รับผลลัพธ์ที่น่ามหัศจรรย์อย่างแน่นอนค่ะ

 5.ตั้งเป้าหมายการออม

มาถึงข้อสุดท้ายตั้งเป้าหมายการออมให้ชัดเจน เรามาเริ่มต้นวางแผนการออมเงินของกันก่อน ว่าเป้าหมายของการออมคืออะไรจริงๆแล้วปัญหาการออมเงินอาจไม่ใช่เรื่องเงินแต่อท้จริงแล้วอาจเป็นปัญหาเรื่องความคิดเรื่องเป้าหมาย เพราะ “เรามองว่าการออมเงิน และการเก็บเงินมันมีปัญหา ก็เพราะว่า เราวาดเป้าหมายไว้ไม่ใหญ่พอ”  วิธีการปรับวินัยการเงินที่ง่ายที่สุด เพื่อเก็บเงินให้ได้ล้านแรก ต้องเริ่มจากปรับเป้าหมายใหญ่ขึ้น ใหญ่ให้มากพอที่จะมองข้ามอุปสรรค หรือมองข้ามแรงดึงจากทุกทางที่พร้อมจะดึงเงินจากกระเป๋าเราออกไป ซึ่งการตั้งเป้าหมายอาจจะเป็นเรื่องของความคิดแต่ในแง่ของการลงมือทำ กำหนดระยะเวลาการออมแบ่งเป็นช่วงเวลา ดังนี้

• ออมระยะสั้น (ระยะเวลา 0 – 2 ปี) สำหรับเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ซื้อของที่มีราคาของที่มีราคาสูงเพื่อเป็นเงินสำรองในยามฉุกเฉิน

• ออมระยะกลาง (ระยะเวลา 2 – 10 ปี) สำหรับเป็นเงินต้นในการซื้ออสังหา หรือใช้ในการดาวน์รถ เพื่อใช้ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ

• ออมระยะยาว (ระยะเวลามากกว่า 10 ปี) เพื่อเป็นเงินในคงคลังในอนาคตหลังเกษียณ เพื่อการศึกษาของลูกในอนาคต

และนอกจากนี้การตั้งเป้าหมายการออม ที่ยิ่งใหญ่มากพอ ยังช่วยให้คุณได้ทราบถึงยอดเงินที่ต้องแบ่งเก็บในแต่ละเดือน ว่าควรจะแบ่งเก็บในจำนวนเงินเท่าไหร่ ถึงจะถึงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ และทำให้คุณได้ยอดเงินตามแผนการออมที่วางเอาไว้ค่ะ

ที่มา : 1 2

บทความประกอบ :วิธีสอนลูกเก็บเงิน สอนลูกให้ประหยัด รู้คุณค่าของเงินตั้งแต่เด็ก

ดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคต่อการเก็บเงินให้ได้ซักล้านหนึ่งมันไม่ง่าย แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ จริงไหมคะ มีคนเคยพูดว่า ตอนหาเงิน ยากที่สุดก็คือ ล้านแรกนี่เอง ถ้าผ่านได้เมื่อไหร่ ล้านที่สอง ล้านที่สาม มันง่ายกว่าล้านแรกเยอะเลย ข้อนี้จริงหรือไม่ อยากให้ทุกคนได้พิสูจน์ด้วยตัวเองนะคะ ขอให้ทุกคนจับล้านแรกด้วยเทคนิคออมเงินอย่างไรให้ได้เงินล้าน เทคนิคออมเงิน ง่าย ๆ นำไปใช้ได้เลยค่ะ