การเป็น แม่ หรือ ผู้ปกครอง มีเรื่องราวมากมาย ที่ต้องทำ ในทุกๆวัน ต้องเลี้ยงลูก ดูแลลูกยังจะต้องทำงานบ้านอีก วุ่นวายมากมายปวดหัว เพราะฉะนั้นการที่จะ หลงๆ ลืมๆ อะไรก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่ยาก แต่มีคุณแม่คนหนึ่งที่กลายเป็น ไวรัล เพราะเธอลืมเรื่องสำคัญที่สุด สำหรับการเป็นผู้ปกครองก็คือ แม่ลืมลูกไว้ที่บ้าน แม่พาลูกไปโรงเรียน แต่ดันลืมลูกไว้ที่บ้าน วีดีโอที่บอกเล่าเรื่องราว การลืมของคุณแม่คนนี้ ถูกบันทึกลงในวีดีโอ และ แชร์ออกไป ให้คนที่อยู่ในโซเลี่ยลมีเดีย ได้รับรู้เรื่อง ปนขำแบบนี้
ลูกไม่อยู่ในรถ
ลูกไม่อยู่ในรถ พวกเขาไม่อยู่ในรถ คุณแม่คนนี้พูดออกมาผ่านวีดีโอ และ โชว์ไปด้านหลังเบาะ ของรถที่เธอกำลังขับ คุณสามารถสังเกตได้เลยว่า คุณแม่กำลังจะขำ สุดท้ายเธอก็ขำก๊ากออกเมื่อรู้ตัวว่าลืมลูก เธอพูดต่อว่า ฉันลืมลูก ทั้งๆที่มาส่งลูกไปโรงเรียน แต่ในรถกลับไม่มีใครนอกจากเธอ
เธอขำจนหยุดไม่ได้ เพราะถึงเวลาตอนนั้นเธอรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรที่เธอทำได้ นอกจากหัวเราะออกมา เธอพูดกับกล้องต่อว่า เธอจะต้องวนรถกลับไปรับลูกแล้ว เธอไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่า เธอจะลืมถึงขั้นลืมลูกตัวเองได้
มีคนดูวีดีโอกว่า 1.8 ล้านคน
วีดีโอนี้ถูกโพสลงในเซเชี่ยลมีเดีย และ มีคนเข้าชมกว่า 1.8 ล้านคน แม้ว่าวีดีโอนี้จะมีความยาวเพียงแค่ 46 วินาที ลองคิดดูว่าถ้าสถานการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวคุณเอง คุณจะแสดงออกมาในรูปแบบไหน จะหัวเราะกับความขี้ลืมของตัวเอง แบบ คุณแม่คนนี้ หรือ จะตกใจร้อนรนใจเพราะลืมลูก
โชคดีที่เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ได้จบลงด้วยความเศร้า แต่ก่อนหน้านี้เอง ก็มีเหตุการณ์อีกหลายเหตุการณ์ ที่เป็นเรื่องเศร้าที่มาจากการลืมลูก เช่นกัน เพราะฉะนั้นก่อนออกจากรถ หรือ ออกจากบ้าน ผู้ปกครองควรตรวจเช็คอุปกรณ์ทุกอย่างให้ดี ว่าครบมั๊ย ลืมอะไรรึเปล่า
ลืมลูกไว้ในรถ
คุณแม่เอมี่ เอมอส กับลูกๆ กลับมาจากการเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำในวันที่ร้อนระอุ หลังจากลงจากรถ คุณแม่จำเป็นต้องเข้าห้องน้ำทันที และนึกว่าลูกๆ ลงจากรถกันหมดเรียบร้อยแล้ว และคิดว่ารถไม่ได้ล็อคเผื่อลูกๆ ยังลงกันมาไม่หมด
แต่หลังจากผ่านไป 10 นาที เมื่อไม่เห็นลูกชายวัย 4 ขวบ เฮนรี่ หลังจากที่หาทั่วบ้านคุณแม่จึงไปหาที่รถ และพบว่าประตูรถปิดอยู่ เฮนรี่เหงื่อซก และร้องไห้สะอึกสะอื้น หน้าติดกระจก
ครั้งนี้โชคดีที่หนุ่มน้อยไม่เป็นอะไร แต่คุณแม่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อตัวเอง ว่าเธอลืมลูกไว้ในรถในวันที่ร้อนระอุ แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ เธอก็รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้กับคุณพ่อคุณแม่ทุกคน
เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครก็ได้
เฮนรี่ วัย 4 ขวบ เป็นเด็กที่ลงจากรถแล้ว จะใช้เวลาชมนกชมไม้ก่อนเข้าบ้าน เดินสำรวจขนมที่ตกอยู่ในคาร์ซีท หรือมดตัวเล็กๆ ที่เดินอยู่หน้าบ้าน เขาจะไม่เดินออกจากบริเวณบ้านและรู้วิธีเปิดประตูบ้าน แต่นั่นก็ยังทำให้เฮนรี่ตกอยู่ในอันตราย
วันนั้นเฮนรี่มัวแต่สาละวนอยู่กับการหารองเท้าข้างที่ยังหาไม่เจอ พี่ชายก็นึกว่าเฮนรี่เข้าบ้านไปแล้วจึงปิดประตูรถ เฮนรี่เปิดประตูรถไม่เป็นและตื่นตระหนก
ป้องกันได้ อย่าให้สายไป
หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เอมี่จึงอธิบายให้ลูกๆ ทุกคนของเธอฟังว่า น้องเล็กๆ สามารถติดอยู่ในรถได้ง่ายแค่ไหน และเพียงแค่ไม่กี่นาทีน้องอาจตกอยู่ในอันตรายถึงตายได้ จากนั้นคุณแม่ยังสอนให้พี่ๆ ตรวจดูในรถก่อนที่จะปิดประตูทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครติดอยู่ในรถอีก
นอกจากนี้คุณแม่ยังสอนเฮนรี่ ถึงวิธีที่จะเปิดประตูรถ และปลดเข็มขัดนิรภัยด้วยตัวเอง คุณแม่ถึงกับเขียนในบล็อคว่า เราทุกคนเคยซ้อมหนีไฟ เราสอนให้เด็กๆ ว่ายน้ำ และลอยตัวในกรณีที่ขึ้นฝั่งเองไม่ได้ แล้วทำไมเราถึงจะไม่ซ้อมการหนีออกจากรถกันละ แต่เราไม่ได้สอนให้ลูกออกจากรถในขณะที่มันกำลังวิ่งอยู่
ดังนั้น ขอร้องคุณพ่อคุณแม่ เสียเวลาไม่กี่นาที เช็คว่าเด็กๆ นั้นลงจากรถหมดแล้วทุกครั้ง และสอนให้ลูกรู้จักวิธีการเอาตัวรอด ทางที่ดีควรมีการฝึกซ้อมเอาไว้ด้วย เพราะการฝึกนี้ในวันใดวันหนึ่ง อาจจะช่วยให้ลูกรอดตายก็เป็นไปได้ค่ะ
เรื่องราวน่าสลดใจนี้ที่จะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสองครอบครัวในประเทศสหรัฐอเมริกา เพียงเพราะความประมาท จึงทำให้เกิดการสูญเสียขึ้น
โดยครอบครัวแรกนั้น เกิดขึ้นในรัฐเท็กซัส เมื่อพ่อแท้ ๆ ลืมทิ้งลูกวัยเพียง 1 ขวบไว้ในรถหน้าบ้านของตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจเล่าว่า เพื่อนบ้านได้ยินเสียงร้องของเด็ก จึงได้เรียกแม่ของหนูน้อยรายนี้มาดู พบว่า หนูน้อยถูกลืมทิ้งไว้ที่คาร์ซีทของตัวเอง เพื่อนบ้านจึงรีบช่วยปฐมพยาบาลด้วยการทำ CPR และ เมื่อรถพยาบาลมาถึง ก็รีบนำตัวหนูน้อยรายนี้ไปส่งตัวยังโรงพยาบาลทันที แต่กลับเป็นที่เศร้าใจ เพราะภายในเวลาต่อมา คุณหมอได้ออกมาบอกว่า หนูน้อยได้สิ้นลมหายใจเสียแล้ว
และในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับแจ้งข่าวว่า พบศพเด็กชายอายุเพียง 2 ขวบเสียชีวิตอยู่ในรถเช่นกัน ซึ่งพี่สาวแท้ ๆ ที่ทำหน้าที่ดูแลนั้นได้ไปทำงานและเผลอลืมทิ้งน้องไว้ในรถนาน 5 ชั่วโมง และด้วยอากาศที่ร้อนระอุทำให้หนูน้อยรายนี้ ทำให้เด็กขาดอากาศจนช็อคหมดสติไปและเสียชีวิตในที่สุด
ดังนั้น ก่อนลงจากรถทุกครั้งอย่าลืมหันซ้ายขวาและเช็คภายในรถกันก่อนทุกครั้งนะคะ ที่สำคัญ อย่าคิดว่า ไปไม่นานเด็กอยู่ได้ไม่เป็นไร เพราะการประมาทเป็นบ่อเกิดของความสูญเสียแทบทุกครั้ง
Source : fatherly
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
พ่อแม่รู้ไหม การขลิบเป็นอันตรายได้ การขลิบมีผลต่อ การติดเชื้อเริมในทารกแรกเกิด
10 อาหารคนท้องควรเลี่ยง คนท้องห้ามกินอะไร อาหารที่เป็นอันตรายต่อคนท้อง
ลูกนอนละเมอ ร้องไห้ ฝันร้าย เดินละเมอ อันตรายไหม ดูแลและป้องกันอย่างไร