ใครที่ชอบเที่ยว รู้หรือไม่ ว่ารูปถ่ายในการเดินทาง สามารถสร้างรายได้ ได้ วันนี้ theAsianparent นำ วิธีสร้างรายได้ จากภาพถ่าย จะมีวิธีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ทุกวันนี้การสร้างรายได้จากภาพถ่ายการท่องเที่ยวของคุณได้ การเดินทางและภาพสวย ๆ มีราคาแพง และใช้เวลานาน ลองนำรูปภาพมาสร้างรายได้กัน เพราะในปัจจุบันเราสามารถหารายได้ง่าย ๆ จากรูปถ่าย
9 วิธีสร้างรายได้ จากภาพถ่ายการท่องเที่ยว
1. ใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ
คุณไม่จำเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์ระดับมืออาชีพ ในการถ่ายภาพการเดินทาง แต่ก็เทคนิคบางประการ ที่จะยกระดับการถ่ายภาพของคุณไปอีกขั้น หากเลือกกล้องและเลนส์ที่มีคุณภาพ และขจัดสัญญาณการรบกวน สามารถปรับสถานที่ ที่มีแสงน้อย ให้มีความคมชัด และช่วยให้สามารถสร้างรูปแบบภาพถ่ายได้หลากหลาย ซึ่งในขณะเดียวกัน ขาตั้งกล้อง ก็มีส่วนช่วยให้ภาพถ่ายนั้นออกมาดูดีได้เช่นกัน
2. สร้างภาพถ่าย และฝึกฝนบ่อย ๆ
เมื่อมีอุปกรณ์ในการถ่ายภาพแล้ว ก็ได้เวลาท่องเที่ยว ซึ่งในขณะเดินทางคุณก็สามารถถ่ายภาพจากมุมต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง และคุณอาจจะรู้สึกอยากที่จะถ่ายภาพมากขึ้น เมื่อคุณรู้สึกว่าภาพถ่ายนั้น สามารถสร้างรายได้ได้ และหากใครที่ไม่ชอบในการเดินทาง คุณก็สามารถสร้างรายได้ จากมุมบ้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสวนหลังบ้าน หรือ ห้องนั่งเล่น
บทความที่เกี่ยวข้อง : รวมไอเดีย ท่าโพสต์ถ่ายรูปสำหรับผู้ชาย ตอนไปเที่ยว โพสต์ยังไงดูเท่ห์ดูคูล
3. สร้างโปรไฟล์ให้กับตัวเอง
หาสิ่งที่ตัวเองชอบ และถนัดที่สุด เพื่อที่จะนำสิ่งนี้นำเสนอออกไปบนเว็บไซต์ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ ว่าเราสามารถทำแบบที่เขาต้องการได้
4. ฝึกการเล่าเรื่อง ทำสิ่งที่ถนัดให้มากขึ้น
ภาพเดียวแสดงได้หลายคำพูด แต่งานเขียนจำเป็นต่อภาพถ่ายเช่นกัน ภาพที่มีการให้ความสามารถเล่าเรื่องได้ดี จะทำให้รูปถ่ายนั้นน่าสนใจ เมื่ออัปโหลดภาพถ่ายก็ควรเขียนบรรยายสั้น ๆ ให้แก่ภาพถ่ายนั้น ๆ ด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : 100 สถานที่ถ่ายภาพลงIG วิวสุดปัง ถ่ายยังไงให้เหมือนไปเมืองนอก (Part1)
5. อัปโหลดภาพถ่าย ไปยังช่องทางที่จะขาย
นำรูปถ่ายที่คุณจะสร้างรายได้ อัปโหลดที่ช่องทางต่าง ๆ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่จัดเก็บภาพถ่ายของคุณ ให้กับผู้คนที่สนใจซื้อ ในเว็บไซต์ต่าง ๆ คุณก็อาจจะสามารถขายงานศิลปะบนผนัง , เครื่องเขียน , เครื่องแต่งกาย , เทคโนโลยี , ของตกแต่งบ้าน และอื่น ๆ อีกมากมายบนเว็บไซต์ ซึ่งเว็บไซต์บางเว็บไซต์ไม่มีค่าธรรมเนียมในการสมัคร แต่ก็มีบางเว็บไซต์ที่มีค่าธรรมเนียมในการสมัคร ดังนั้นก่อนที่จะขายรูป ควรอ่านเงื่อนไขให้ดี ๆ
6. เลือกรูปภาพที่จะนำเสนอ
ขั้นตอนหลังจากที่อัปโหลดรูปภาพเสร็จแล้ว ให้เลือกพิจารณารูปภาพ และฟังก์ชันการทำงานของรูป โดยส่วนใหญ่รูปภาพการเดินทาง จะเลือกใช้เป็นหมวดหมู่ของ ศิลปะบนผนัง ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่คุณ ว่าอยากให้งานศิลปะนั้นอยู่ในหมวดหมู่ไหน เมื่อเลือกที่จะขายผ่านช่องทางที่คุณเลือกแล้ว คุณอาจจะต้องสร้างผลงานศิลปะ ที่เป็นแบบพิมพ์ ที่ผู้ซื้อสามารถซื้อได้
7. การกำหนดราคา
เมื่อกำหนดราคา สำหรับงานของคุณ สิ่งที่คุณตั้งเสร็จแล้วจะปรากฏราคาให้ผู้ซื้อเห็น และราคาควรเป็นราคาที่คุณพึงพอใจ และเป็นผลงานที่มีคุณภาพคุ้มค่าที่ผู้ซื้อจะควักเงินจ่าย
8. ส่งเสริมงาน
ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะโพสต์รูปขายแล้ว เนื่องจากเว็บไซต์นี้ ง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถลิงก์ ไปยังงานศิลปะของคุณบนเว็บไซต์ของคุณได้ นั่นเป็นข้อดี ที่คุณจะสามารถนำลิ้งก์ไปโปรโมทตามช่องทางต่าง ๆ
9. มีวินัย และอัปเดทข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่อัปรูปขายเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็อาจจะต้องมีวินัย ในการอัปโหลดรูปภาพอย่างสม่ำเสมอ และต้องแอคทีฟอยู่ตลอด เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงผลงานของเราได้มากขึ้น และเมื่อผลงานเราเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น เราก็จำเป็นต้องแอคทีฟยิ่งกว่าเดิมอีก เพราะเมื่อคนรู้จักเราแล้ว ก็ยิ่งมีคู่แข่งที่เยอะมากด้วยเช่นกัน
รูปถ่ายแบบไหนที่จะขายได้
ส่วนที่สำคัญในการขายภาพให้ได้นั้น ขึ้นอยู่กับ Keyword ในการตั้งชื่อของรูปภาพ เพราะผู้ซื้อจะ ค้นหารูปภาพของเรา อย่างเช่น เวลาขายรูปท่องเที่ยว เราก็จะตั้งชื่อภาพถ่ายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร การเดินทาง กิจกรรมต่าง ๆ แต่ละคำก็สามารถแตกเป็นหัวข้อย่อยได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ถ่ายรูปสมัครงาน ถ่ายเองได้ง่าย ๆ ถ่ายยังไงให้นายจ้างชอบ HR ประทับใจ
ภาพที่คนนิยมซื้อส่วนใหญ่ เช่น
- ภาพพื้นหลัง เพราะสามารถนำไปตัดต่อ ปรับแต่งเพิ่มเติมได้
- ภาพประกอบ เช่น เด็ก การท่องเที่ยว เหตุการณ์ต่าง ๆ อาชีพ ฯลฯ
- ภาพที่มีเนื้อหาของคอนเทนต์ที่ชัดเจน
- ภาพพร้อมใช้งาน มี เซนเตอร์อยู่จุดกึ่งกลาง
- นำไปตัดต่อ ใส่ข้อความเพิ่มเติมได้
สามารถขายรูปได้ที่ไหนได้บ้าง ?
ที่มา : ordinarytraveler , brandinside.asia