กระโดดเชือก ดีอย่างไร ? กระโดดเชือกเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ดี และสนุกสำหรับเด็ก ๆ ในการเคลื่อนไหว ช่วยเพิ่มความสูงลูกจริงหรือไม่ ไปดูกันเลย
กระโดดเชือก คืออะไร ?
กระโดดเชือก คือ กิจกรรมที่สามารถทำคนเดียวได้ หรือเล่นสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ ได้เช่นกัน โดยใช้อุปกรณ์ที่มีราคาไม่แพง หาซื้อง่าย ไม่ยุ่งยาก เป็นการออกกำลังที่ดีต่อสุขภาพเหมาะกับคุณพ่อคุณแม่และลูกอย่างแน่นอน
กระโดดเชือก ช่วยเพิ่มความสูงลูกจริงหรือไม่ ?
ค่า bmi ของเด็กซึ่งเป็นการวัดความสมดุลระหว่าง ‘น้ำหนัก’ และ ‘ส่วนสูง’ ของเด็กในวัยช่วงก่อนเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นตอนต้น ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการเพิ่มความสูงของลูก เพราะความสูงจะเพิ่มขึ้น 7-8 ซม. ต่อปี โดยเด็กผู้หญิงจะอยู่ในช่วงอายุ 9-10 ปี และเด็กผู้ชายอยู่ในช่วงอายุ 10-12 ปี
เทคนิคกระโดดเชือก เพิ่มความสูง
- แนะนำให้กระโดดเชือก หรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยกระโดดเชือก อย่างน้อย 10-15 นาทีเป็นเวลาติดต่อกัน รวมให้ครบ 60 นาที และปฏิบัติเป็นประจำทุก ๆ วัน จะทำให้ร่างกายหลั่ง growth hormone และ growth factor ที่ส่งผลต่อการสร้างกระดูก
- คุณพ่อคุณแม่ควรคอยสังเกตอาการของลูก เพราะเด็กก็มีอาการกล้ามเนื้อล้าได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ และไม่กดดันลูกจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ลูกมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการออกกำลังกายได้
- ให้รางวัล หรือสร้างแรงจูงใจให้ลูกอยากกระโดดเชือกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการสร้างพลังบวก ลูกจะเกิดความสนุกสนานกับกิจกรรมนี้มากขึ้น
- โภชนาการ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความสูงของลูก เพราะ โภชนาการที่เหมาะสม จะช่วยเสริมการเจริญเติบโตของเด็กในวัยนี้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกให้ลูกได้กินอาหารครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับวัย โดยเฉพาะอาหารประเภทที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างแคลเซียมกระดูกและฟัน เช่น ผักใบเขียว , โปรตีนจากปลาเล็กปลาน้อย นม เต้าหู้ เป็นต้น
- การพักผ่อนที่เพียงพอ ในวัยเด็กควรนอนหลับพักผ่อนวันละ 8-10 ชั่วโมง และควรนอนหลับสนิท เพื่อให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโต
นอกจากการกระโดดเชือกที่ช่วยเพิ่มความสูงแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกสลับกิจกรรมออกกำลังกายอื่น ๆ ให้ลูกได้ เพื่อไม่ให้รู้สึกเบื่อหน่าย จำเจ เช่น บาสเกตบอล ว่ายน้ำ โหนบาร์ เป็นต้น ที่ช่วยในเรื่องการยืดตัวของเด็ก
ประโยชน์ของการกระโดดเชือก
- การกระโดดเชือกเป็นการออกกำลังกายแบบรับน้ำหนัก หรือลงน้ำหนัก ช่วยเพิ่มมวลกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรง และถือว่าได้การกระโดดเชือกเป็นประโยชน์ต่อคนทุกช่วงวัยเลยทีเดียว
- การกระโดดเชือกเป็นกีฬาที่ไม่หักโหมจนเกินไป สามารถทำเป็นกิจกรรมร่วมกันของครอบครัว ช่วยเพิ่มความมั่นคงและความคล่องตัวของข้อเท้า
- กระโดดเชือก เป็นการออกกำลังการที่เน้นแกนกลางลำตัวและร่างกายส่วนล่าง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้บริเวณไหล่ บ่าอีกด้วย
- ดีต่อระบบเผาผลาญ ช่วยเรื่องการคุมน้ำหนัก เบิร์นแคลอรีได้ดีมาก โดยสามารถเผาผลาญแคลอรี 667-990 ต่อชั่วโมง ทำให้ลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วนในเด็กได้
- ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความสมดุลให้กับร่างกาย เป็นการฝึกสมาธิให้กับลูก เพราะต้องใช้สมาธิ มีสติอยู่ตลอดเวลา โดยแรกเริ่มแนะนำให้กระโดดเชือกในจังหวะช้า ๆ ก่อนและเมื่อควบคุมได้จึงค่อยเพิ่มความเร็วขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และระบบทางเดินหายใจ โดยอัตราการเต้นของหัวใจเมื่อกระโดดเชือกอาจสูงกว่าการออกกำลังกายคาร์ดิโอรูปแบบอื่น ๆเช่น ปั่นจักรยาน เป็นการช่วยเพิ่มความต้านทาน และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจ
บทความที่น่าสนใจ : การกระโดด ทำไมถึงมีประโยชน์สำหรับเด็ก? เด็กกระโดดแล้วดีอย่างไร?
4 ท่ากระโดดเชือก น่าลองสำหรับเด็ก
- แบบเบสิก : กระโดดขึ้น-ลง แบบตรง ๆ โดยตำแหน่งข้อมือหมุนเชือก อยู่ระหว่างเอว
- แบบกระต่ายขาเดียว : กระโดดคล้ายแบบเบสิก แต่จะยกขาขึ้นข้างหนึ่งตลอดเวลาสำหรับใครที่ยังไม่ชิน อาจต้องใช้เวลาฝึกนิดหน่อยให้จังหวะเข้าที่
- แบบข้าม : คล้ายแบบเบสิก แต่กระโดดลงพื้นด้วยเท้าที่ไขว้เหมือนตัว X แล้วสลับไปมา สามารถกำหนดระดับความเร็ว-ช้า ได้เองตามความชำนาญ
- แบบสวิง : เหยียบเท้าข้างหนึ่งแล้วเหวี่ยงขาอีกข้างออกไปด้านข้าง จากนั้นสลับข้าง แล้วกระโดดต่อไป
เพลง Jump Rope
ช่วยให้เด็ก ๆ ออกกำลังกายกระโดดเชือกอย่างสนุกสนาน มีจังหวะที่ไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไป เหมาะมากสำหรับเด็กที่พึ่งเริ่มหัดกระโดดเชือก เป็นการช่วยฝึกทักษะด้านภาษาอังกฤษ และมีการนับเลขประกอบจังหวะอีกด้วย
วิดีโอจาก Youtube : Super Simple Songs – Kids Songs
บทความที่น่าสนใจ :
7 อุปกรณ์ออกกำลังกายแม่ อยู่บ้านก็ออกกำลังได้ สุขภาพดี ไม่ต้องออกนอกบ้าน
5 การ์ตูนกีฬา กระตุ้นให้ลูกอยากออกกำลังกาย เสริมสร้างความแข็งแรง
วิ่งผลัด ดีอย่างไร ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านไหนบ้าง ?
ที่มา : verywellfamily milo
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
