ลูกเป็นเพศที่สาม เบี่ยงเบนทางเพศหรือไม่ สังเกตจากอะไร

ลูกชายชอบเล่นตุ๊กตา ลูกสาวชอบใช้กำลัง พ่อแม่คนไหนเจอลูกมีพฤติกรรมแบบนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ลูกเป็นเพศที่สาม หรือ เบี่ยงเบนทางเพศ หรือเปล่า? จะรู้ได้ยังไง? มีวิธีไม่ให้ลูกเบี่ยงเบนทางเพศไหม?

ลูกเป็นเพศที่สาม เบี่ยงเบนทางเพศหรือไม่ สังเกตจากอะไร

คนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไงก็รัก แต่ก็อดกังวลไม่ได้ว่าลูกเราจะเบี่ยงเบนทางเพศไหม ลูกเป็นเพศที่สาม หรือเปล่า เพราะลูกเหมือนมีพฤติกรรมเหมือนกับเพศตรงข้าม สาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่!

ลูกจะเบี่ยงเบน ทางเพศไหมนะ3

จะรู้ได้ไงว่าลูกเบี่ยงเบนทางเพศ

พ่อแม่จะสามารถรู้ได้ตั้งแต่ลูกเล็กๆ อายุไม่เกิน 6-7 ปี หากลูกมีพฤติกรรมไม่ตรงกับเพศ เช่น เด็กผู้ชายชอบเล่นตุ๊กตา ชอบสีชมพู ไม่ชอบเล่นผาดโพน ก็อย่าตกใจไป ลองพยายามปรับพฤติกรรมลูก ระวังความคาดหวังของพ่อแม่ เช่น พ่อแม่บางคนอยากได้ลูกชาย แต่ลูกกลับเกิดมาเป็นผู้หญิง คุณจะแสดงปฏิสัมพันธ์ตรงกันข้าม ทำให้ลูกรู้ว่าถ้าเป็นผู้หญิงพ่อแม่จะชอบ และลูกน้อยก็จะเริ่มซึมซับพฤติกรรมความเป็นหญิงทั้งพฤติกรรรมและความคิด

วิธีสังเกต ดูว่าลูกเรามีพฤติกรรมอย่างไร ทั้งการพูก กิรยาท่าทาง การเล่นกับเพื่อนๆ หรือแม้แต่เล่นที่บ้าน การคบเพื่อน ต้องดูว่าลูกมีเพื่อนแบบไหน เป็นเพศเดียวกัน หรือต่างเพศมากกว่า

 

 

ทำอย่างไรเมื่อลูกเป็นเพศที่สาม

ถ้าลูกโตขึ้นจนอายุได้ 10 ขวบไปแล้ว แต่ลูกก็ยังมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศเหมือนเดิม พ่อแม่ต้องยอมรับให้ได้ อย่าไปเปลี่ยนลูกเพราะมันได้หล่อหลอมเป็นตัวตนของเขาแล้ว และอย่าคิดว่าลูกเราผิดปกติ เนื่องจากในทางจิตวิทยา การเป็นเพศที่สาม ไม่ใช่ลักษณะของบุคคลที่ผิดปกติ พวกเขาไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด และยิ่งในปัจจุบัน สังคมของเราได้เปิดกว้างมากขึ้น คนที่เป็นเพศที่สามก็มีชื่อเสียงโด่งดัง และสร้างคุณประโยชน์ไว้มากมาย

หากพ่อแม่ไม่ยอมรับในตัวตนของลูก ก็จะเกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว เพราะลูกจะบิดบัง หรือพยายามสร้างพฤติกรรมอื่นมาปกปิดพฤติกรรมจริงของตน แน่นอนว่าจะเกิดผลร้ายต่อตัวลูกโดยตรง ทั้งในด้านของสุขภาพของร่างกายและจิตใจ บางคนอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าไปเลย พ่อแม่ก็จะไม่รับรู้เลยว่าลูกต้องอยู่ในบ้านอย่างอึดอัด ไม่มีความสุข และอาจจะต้องทนอยู่กับความเครียดได้

ลูกจะเบี่ยงเบน ทางเพศไหมนะ

ทำอย่างไรให้ลูกบอกความจริง

ลูกจะกล้าบอกความจริงกับพ่อแม่ก็ต่อเมื่อเขารู้สึกว่าสามารถปรึกษาพ่อแม่ได้ทุกเรื่อง และเขาก็จะกล้าเปิดเผยตัวตนของตัวเองได้ และเขาต้องแน่ใจว่า ถ้าบอกความจริงไปแล้วผลลัพธ์ที่ได้ต้องออกมาทางบวก คือ พ่อแม่รับได้ เข้าใจ แต่ถ้าลูกรู้สึกว่าเปิดเผยไปพ่อแม่ต้องเสียใจ หรือโกรธแน่ๆ ลูกก็จะไม่กล้าบอกความจริง

เมื่อลูกมีปัญหา หลายครั้งหลายคราที่เด็กเลือกที่จะปรึกษาเพื่อน หรือตัดสินใจด้วยตัวเอง บางครั้งปัญหาที่ว่าอาจหนักหนาเกินกว่าจะแบกรับไว้ด้วยตัวเองได้ กว่าจะรู้ตัวอีกที่ก็ลุกลามเป็นเรื่องใหญ่โต หรือเป็นการตัดสินใจหาทางออกด้วยวิธีที่ไม่ถูกไม่ควร แล้วพ่อแม่จะทำยังไงดีล่ะ ให้ลูกอยากพูดคุยกับเราทุกเรื่อง?

ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ นำไปสู่ความห่างเหินของคนในครอบครัว ด้วยข้อจำกัดของเวลาทำให้หลายบ้านแทบไม่ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน หรือพูดคุยเรื่องราวของแต่ละคนเล่าสู่กันฟัง ทำให้เด็กรุ่นใหม่หลายๆ คน ห่างการพูดคุยอย่างเข้าใจกับพ่อแม่ บางครั้งเมื่อเกิดปัญหา อยากปรึกษาใครสักคน ก็ไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่

เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาในครอบครัวแต่เนิ่นๆ พ่อแม่ควรทำให้ลูกเชื่อมั่นและไว้ใจว่าพ่อแม่คือผู้ที่ลุกคุยด้วยได้เสมอแม้ยามเกิดความผิดพลาดในชีวิต ให้เขากล้าที่จะคุยกับเราทุกเรื่อง และพร้อมให้เราเป็นคนสำคัญที่มีส่วนร่วมกับการตัดสินใจของเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่

 

 

ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเพศที่สามต้องทำอย่างไร

เมื่อพ่อแม่เริ่มเห็นพฤติกรรมลูกแล้วว่าอาจเกิดการเบี่ยงเบนได้ พ่อแม่ต้องเข้ามาปรับพฤติกรรมลูกตั้งแต่ยังเล็กๆ อย่ารอใหโตไปก่อน โดยมีวิธีการดังนี้

  • ชื่นชมลูก เมื่อลูกทำพฤติกรรมตรงตามเพศ เช่น ถ้าลูกเป็นผู้หญิง เมื่อลูกเล่นหรือทำอะไรที่มีความเป็นผู้หญิง ก็ควรทำการชื่นชม เมื่อชมบ่อยๆ ลูกก็จะไม่เป็นเพศที่ 3
  • พ่อแม่ควรมีส่วนช่วยให้ลูกมีพฤติกรรมตรงตามเพศ โดยปกติแล้ว ลูกชายจะเลียนแบบพฤติกรรมมาจากพ่อ สาวลูกสาวจะเลียนแบบพฤติกรรมมาจากแม่ ดังนั้น พ่อและแม่ต้องอย่ามีบทบาท หรือพฤติกรรมที่สับสน เพราะมันจะทำให้ลูกสับสนเช่นเดียวกัน
  • อย่าคาดหวังให้ลูกเป็นในเพศตรงข้าม เด็กจะรู้ความคาดหวังของพ่อแม่เกี่ยวกับตัวเองของเขา รวมทั้งรู้ว่าพ่อแม่คาดหวังให้เขาเป็นอะไร เช่น  พ่อแม่อยากได้ลูกสาวแต่ลูกเกิดมาเป็นผู้ชาย พ่อแม่ก็เลยแต่งตัวลูกให้เป็นผู้หญิงเลี้ยงดูแบบเด็กผู้หญิง พอเด็กเติบโตขึ้นก็จะเป็นเพศหญิง หรือกลายเป็นเพศที่ 3 เป็นต้น

ลูกจะเบี่ยงเบนทางเพศไ หมนะ2

The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว 

การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง

เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”

ที่มา: cupsyservices

https://www.healthandtrend.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

เลี้ยงลูกให้ฉลาดเเละมีความคิดสร้างสรรค์

อีกด้านของคุณแม่แต่ละราศีที่มีผลต่อการเลี้ยงลูก เรื่องง่ายๆที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ เช็กเลย

คุยกับลูกเรื่องยาก ๆ

 

The Asian parent Thailand The Asian parent Thailand The Asian parent Thailand The Asian parent Thailand  l ll

บทความโดย

Khunsiri