วิธีรักษาเล็บขบ สามารถรักษาด้วยตัวเองได้หรือไม่ หรือจะต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาเท่านั้น วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ ใครที่เป็นเล็บขบจะต้องรู้อย่างแน่นอนว่ามันทรมานมากขนาดไหน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดเล็บขบนั้นมีด้วยกันหลากหลายสาเหตุเลยค่ะ เช่น ตัดเล็บผิดวิธี สวมใส่รองเท้าที่คับแน่นไป หรือความบกพร่องทางพันธุกรรม เป็นต้น ดังนั้น บทความวันนี้เราจะมาดูกันค่ะว่าเล็บขบสามารถรักษาได้ ด้วยวิธีการรักษาแบบไหนได้บ้าง รวมถึงเราจะบอกเทคนิคการตัดเล็บเท้าที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการเกิดเล็บขบ ตามมาดูไปพร้อมกันเลย
วิธีรักษาเล็บขบ เบื้องต้นทำอย่างไรได้บ้าง?
เล็บขบ สามารถรักษาให้หายด้วยตัวเองได้นะคะ ถ้าหากยังไม่มีอาการไปถึงขั้นที่รุนแรงมาก ๆ จนเกิดการติดเชื้อเกิดขึ้น ก็สามารถรักษาเองได้ตามปกติ ซึ่งวิธีการรักษาเล็บขบเบื้องต้นด้วยตัวเองนั้นสามารถทำได้ ดังนี้
- ขั้นตอนแรก แนะนำให้นำเท้าลงไปแช่ในน้ำอุ่น ประมาณ 10 – 15 นาที 3-4 ครั้ง/ต่อวัน เพื่อบรรเทาอาการปวดของเล็บขบให้ทุเลาลงค่ะ
- ขั้นตอนต่อมา คุณก็ทำการตัดเล็บส่วนเกินที่ไม่เจ็บออก เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกค้างอยู่ และเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดการอักเสบติดเชื้อรุนแรง
- ขั้นตอนนี้ เมื่อตัดเล็บเรียบร้อยแล้ว ก็นำแอลกอฮอล์มาเช็ดเล็บให้สะอาด
- ต่อมาในกรณีที่คุณรู้สึกว่ามีอาการปวดบริเวณเล็บขบมาก คุณสามารถใช้ยาบรรเทาอาการปวด เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะอย่าง ยาโพลิมิกซิน (Polymyxins) เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และลดการอักเสบ
บทความที่เกี่ยวข้อง : เมื่อลูกเล็บขบ เรามาหาวิธีทำให้จบแบบลูกน้อยไม่เจ็บกันอยางไร?
วิธีการรักษาอาการเล็บขบกรณีติดเชื้อ
สำหรับถ้าหากใครเป็นเล็บขบ แล้วอยู่ในกรณีที่มีอาการรุนแรงจนเกิดการติดเชื้อเกิดขึ้น แนะนำไม่ทำการรักษาด้วยตัวเองนะคะ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาจะดีที่สุดค่ะ เพื่อความปลอดภัย เพราะแพทย์จะทำการวินิจฉัยและรักษาตามความรุนแรงของอาการ ซึ่งจะมีวิธีหลัก ๆ ดังนี้
การยกเล็บขึ้น (Lifting the Nail)
- สำหรับการรักษาแบบนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีเพียงอาการบวมแดง ไม่มีหนอง จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องผ่าตัด ดังนั้น วิธีนี้แพทย์จะใช้ไหม หรือสำลี ในการช่วยยกขอบเล็บให้พ้นขอบของผิวหนัง ไม่ให้เล็บงอกเข้าไปในเนื้อ
การเอาเล็บเท้าออกบางส่วน (Partial Nail Avulsion)
- สำหรับคนที่เป็นเล็บขบ และมีอาการบวมมาก มีหนองไหล นั้นแสดงว่าได้เกิดการติดเชื้อแล้ว ซึ่งแพทย์จะทำการรักษาอาการเล็บขบ โดยให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียแบบทา หรือ แบบรับประทานมา แล้วก็แพทย์อาจจะทำการผ่าตัด ซึ่งจะตัดเฉพาะส่วนเล็บที่มีปัญหาออกให้บางส่วนค่ะ
การเอาเล็บเท้าออกทั้งหมด (Total Nail Avulsion)
- สำหรับการรักษาโดยเอาเล็บเท้าออกทั้งหมด แพทย์จะใช้รักษาในกรณีที่เล็บขบ มีขนาดเล็บที่หนา และกดลึกลงไปในผิวหนัง โดยขั้นตอนนี้จะเรียกว่า Matrixectomy หลังจากการผ่าตัดไม่ควรเคลื่อนไหวมากเกินไป และเพื่อลดอาการปวดที่อาจเกิดขึ้น แพทย์อาจให้รับประทานยาปฏิชีวนะ หรือยาลดการอักเสบ ป้องกันการติดเชื้อค่ะ
วิธีการตัดเล็บเท้าที่ถูกต้อง ป้องกันการเกิดเล็บขบ
ควรเลือกอุปกรณ์ตัดเล็บให้เหมาะกับนิ้วเท้า
- การเลือกอุปกรณ์ตัดเล็บให้เหมาะกับนิ้วเท้า ถือเป็นสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อที่คุณจะได้ตัดเล็บเท้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น อย่าลืมเลือกใช้ที่ตัดเล็บ ที่ออกแบบมาให้สำหรับเล็บเท้าโดยเฉพาะนะคะ และก่อนใช้ก็อย่าลืมทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ทั้งก่อน และหลังใช้ด้วยนะคะ
ตัดตอนเล็บตอนเท้าเปียก
- หลังจากเลือกอุปกรณ์ตัดเล็บได้แล้ว ต่อมาถ้าจะเริ่มตัดเล็บเท้า ก็จะต้องไปทำให้เท้าเปียกก่อนนะคะ ไม่ควรตัดเล็บตอนเท้าแห้ง ดังนั้น ให้แช่เท้าในน้ำสัก 5-10 นาที ก่อนเริ่มตัดเล็บนะคะ เพื่อที่เล็บเท้าจะได้นิ่มขึ้น และทำให้ตัดเล็บได้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ
ตัดเล็บในลักษณะที่ตรง
- วิธีการตัดเล็บเท้าที่ถูกต้อง ก็คือจะต้องตัดเล็บเท้าในลักษณะที่ตรงนะคะ ไม่ควรตัดเล็บในลักษณะโค้งไปตามนิ้วเท้า คุณสามารถตัดตรงไปได้เลย แล้วก็ไม่ควรตัดเล็บให้สั้น หรือตัดชิดเนื้อมากเกินไป หากต้องการเอาสิ่งสกปรกตามซอกเล็บออก แนะนำให้ใช้อุปกรณ์แต่งเล็บเขี่ยเอาสิ่งสกปรกออกแทนที่จะตัดเล็บให้สั้นกุด ซึ่งการตัดเล็บเท้าด้วยวิธีที่ถูกต้องก็ช่วยลดการเกิดปัญหาเล็บขบได้ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตัดเล็บให้ลูกทำได้ตอนกี่เดือน ตัดยังไงให้ปลอดภัยลูกไม่งอแง
วิธีเลือกซื้อกรรไกรตัดเล็บขบ
กรรไกรตัดเล็บขบ ก็ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะต้องมีติดบ้านไว้ใช้งาน ซึ่งกรรไกรตัดเล็บขบในปัจจุบันจะมีอยู่ 2 แบบ ก็คือ กรรไกรตัดเล็บแบบปากคีม และกรรไกรตัดเล็บขบแบบแท่ง ซึ่งทั้งสองแบบนี้จะช่วยจัดการปัญหาเล็บขบได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนกัน
คุณสามารถเลือกใช้ได้ตามความถนัดได้เลยค่ะ และอีกหนึ่งอย่างที่จะต้องพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อก็คือในเรื่องของวัสดุที่นำมาผลิตกรรไกรตัดเล็บ ซึ่งกรรไกรตัดเล็บขบที่ดีจะต้องมีคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน เพื่อการใช้งานที่คุ้มค่า และยาวนาน และตัดเล็บขบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งวัสดุที่นิยมนำมาผลิตก็จะมี สเตนเลส โลหะ และโครเมียม เป็นต้น ซึ่งถ้าคุณต้องการกรรไกรตัดเล็บดี ๆ มาใช้งาน แนะให้เลือกกรรไกรตัดเล็บที่ทำมาจากสเตนเลสนะคะ เพราะจะมีคุณสมบัติพิเศษคือมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่เป็นสนิม และมีน้ำหนักเบา ทำให้คุณใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่าไม่เกิดความเสียหายได้ง่ายแน่นอนค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับข้อมูล วิธีรักษาเล็บขบ ที่เรานำมาฝากกัน หากเป็นเล็บขบแล้วไม่รีบทำการรักษา ก็อาจทำให้เล็บขบติดเชื้อได้ง่ายนะคะ และยิ่งถ้าหากได้รับการติดเชื้อ และมีอาการที่รุนแรงขึ้น ก็อาจจะได้รับการรักษาจนถึงขั้นต้องผ่าตัดได้ ดังนั้น ถ้าหากรู้ตัวว่ามีเล็บขบเกิดขึ้น ควรรีบทำการรักษาเบื้องต้นทันทีนะคะ เพื่อป้องกันอาการลุกลามการติดเชื้อที่รุนแรง
แล้วก็ถ้าหากต้องการลดความเสี่ยงในการเกิดเล็บขบ คุณจะต้องหมั่นดูแลเล็บเท้าเป็นพิเศษ เพราะการดูแลเท้าเล็บเท้าจะช่วยป้องกันปัญหาเล็บขบเกิดขึ้นได้ เช่น การตัดเล็บเท้าให้ถูกต้อง หรือล้างเท้าให้สะอาดเป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเล็บขบขึ้นได้ค่ะ หวังว่าบทความวันนี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับทุกคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เล็บคนท้อง ยาวไวกว่าปกติจริงไหม อยากเล็บสวยฟาด! แม่ท้องทำเล็บได้หรือเปล่า
วิธีทำให้เล็บยาวเร็ว ทำยังไงให้เล็บยาวเร็ว เตรียมพร้อมทำเล็บสวยได้ดั่งใจ !
ตัดเล็บทารก เข้าเนื้อ เลือดออก ทารก 10 เดือน แผลลุกลาม ติดเชื้อในกระแสเลือด
ที่มา : pobpad.com , 2my-best.in.th , health.kapook.com