สอนลูกคบเพื่อน อย่างไรสบายใจทั้งครอบครัว
เด็ก ๆ อาจจะไม่รู้จักที่จะแยกแยะว่า ใครดี ใครไม่ดี การ สอนลูกคบเพื่อน ไม่ใช่การสอนให้เลือกคบคน เช่น คบแต่คนเก่ง คบแต่คนรวย คบแต่คนที่มีฐานะเท่าตนเอง แต่ เป็นสอนให้อยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข ไม่ให้ใครมาเบียดเบียนเรา และ เราก็ไม่เบียดเบียน หรือ สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ที่สำคัญพ่อแม่ควรเคารพในการตัดสินใจ คบเพื่อนของลูกด้วย
เทคนิคการสอนลูกคบเพื่อน มีดังนี้
1. อย่าควบคุมเรื่องการคบเพื่อนของลูก
ข้อนี้หมายถึง พ่อแม่ไม่ควรเข้าไปยุ่ง หรือควบคุมการคบเพื่อนของลูก หรือ ดุว่าลูกหากพ่อแม่คิดว่า เพื่อนลูกที่คบอยู่นั้นเป็นเพื่อนไม่ดี เพราะการควบคุมหรือออกคำสั่งจะทำให้ลูกต่อต้าน และอาจเกิดความคิดที่ว่า เขาเองมีความคิดเป็นของตนเองแล้ว พ่อแม่ทำไมไม่เข้าใจ จะก่อให้เกิดปัญหากับลูกมากกว่าแก้ปัญหา
2. แทรกซึมไม่ใช่แทรกแซง
แทรกซึม หมายถึง คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูลูกอยู่ห่าง ๆ เพื่อดูว่า เพราะอะไรลูกถึงเลือกคบเพื่อนคนนี้ ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่มองว่าไม่น่าคบ ถือเป็นการเรียนรู้ลูกของเราไปด้วย การไม่เข้าไปยุ่งกับการคบเพื่อน ทำให้ลูกสบายใจ ที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับเพื่อนให้ฟัง ทีนี้คือ โอกาสทองของคุณพ่อคุณแม่แล้วค่ะ ที่จะเริ่มให้คำแนะนำอย่างมีเหตุมีผล เพื่อให้ลูกเริ่มคิดและค่อย ๆ ตัดสินใจเองว่า หากเพื่อนทำเช่นนี้กับเราบ่อย ๆ ควรคบต่อ หรือจะเริ่มถอยห่าง ซึ่งลูกจะสามารถคิดได้เอง วิธีการนี้เป็นแบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น
3. เป็นเพื่อนกับลูก
คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่วางตัวเป็นเพื่อนกับลูก และ เพื่อนของลูกด้วย เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก เพราะ จะทำให้ลูก และเพื่อนลูกให้ความสนิทสนม ดังนั้น จะทำให้คุณพ่อคุณแม่เห็นพฤติกรรมของลูกตนเอง และพฤติกรรมของเพื่อนที่ลูกคบ การเป็นเพื่อนกับเพื่อนลูกได้ด้วยเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะบางครั้งเด็กบางคนอาจมีปัญหาที่ไม่สามารถหาทางออกได้ แต่สามารถมาปรึกษาคุณได้ ก็จะยิ่งทำให้ลูกรู้สึกเกิดความภาคภูมิใจและไว้วางใจพ่อแม่มากขึ้นไปอีก เพราะสามารถช่วยเป็นที่ปรึกษาให้กับเพื่อนของเขาได้ด้วย ก็จะยิ่งเป็นผลดี มีอะไรก็จะปรึกษาพ่อแม่ของเขาอย่างแน่นอน ถ้าเป็นแบบนี้ รับรองดีต่อทุกฝ่าย
4. ไม่ควรวิจารณ์เพื่อนลูกอย่างรุนแรง
กรณีที่คุณพ่อคุณแม่แม้จะไม่ชอบเพื่อนของลูกคนนี้ ก็นิ่ง ๆ ใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ อย่าเพิ่งดุว่าลูกให้เลิกคบเพื่อน เพราะ จะมีแต่ผลเสียโดยเฉพาะในเรื่องความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว เพราะ เมื่อลูกรู้ว่าพ่อแม่ไม่ชอบ ลูกไม่สามารถพาเพื่อนคนนี้มาที่บ้านได้ เขาอาจจะพากันไปที่อื่นยิ่งจะทำให้พ่อแม่เป็นห่วงมากขึ้น ทางออกที่ขอแนะนำ คือ คุณพ่อคุณแม่ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับเพื่อนลูกคนนี้อาจจะถามจากคุณครู หรือเพื่อนคนอื่น ๆ ว่าเขามีความคิดเห็นกับเพื่อนคนนี้อย่างไร เพื่อนำข้อมูลมาไตร่ตรองดู เมื่อมีข้อมูลยืนยันความคิดของคุณพ่อคุณแม่ว่าเพื่อนคนนี้ไม่ดีจริง ๆ จากนั้นต้องยื่นมือเข้าไปช่วยลูก ด้วยการให้ความใกล้ชิด และค่อย ๆ หาทางให้สติ หรือสร้างสถานการณ์ให้ลูกได้เห็นว่ามีพฤติกรรมบางอย่างของเพื่อนลูกที่ไม่เหมาะสม ถ้าลูกรักเพื่อนต้องชวนกันชี้ให้เห็นว่าเพื่อนทำไม่ถูกเพื่อให้ลูกคิดได้เองว่าควรทำอย่างไร
จะเห็นว่า เรื่องการคบเพื่อนของลูกนั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ ควรทำที่สุด คือ ให้ความเข้าใจ ใกล้ชิด และ พูดคุยกับลูก ไม่ใช่การแสดงทีท่าอคติกับเพื่อนลูก แม้ว่าจะ รู้สึกไม่ชอบเพื่อนคนนี้ก็ตาม ทำให้ลูกสบายใจและค่อย ๆ สอนลูก โดยใช้สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาเป็นตัวอย่าง ชี้ให้เห็นเหตุและผล โดยให้ลูกคิดและตัดสินใจเอง ลูกจะรู้ได้เองว่าเพื่อนคนนั้นควรคบหรือไม่ รักลูกอย่างเข้าใจ คือสายใยที่มั่นคง
อ้างอิงข้อมูลจาก
หนังสือพ่อสอนลูก ของคุณทวี บุณยเกตุ
https://www.childanddevelopment.com/
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ดูคลิป หนูน้อยเป่ามนต์ให้เพื่อนหายเจ็บ โอมเพี้ยง !
9 ภาพเด็กน่ารักกับน้องหมาเพื่อนเลิฟ
120 ไอเดีย ชื่อเล่นลูก ตามตัวละครดิสนีย์ 2020 ตั้งชื่อลูกน่ารัก ๆ ตามการ์ตูนดัง พร้อมความหมาย