ทะเลาะกับสามีเรื่องเงิน
หลายบ้านมักจะรู้สึกคล้าย ๆ กัน คือก่อนแต่งงานมีความสุขดี หวานชื่น รักกันดีสุด ๆ แต่พอหลังแต่งงานอะไร ๆ ก็เปลี่ยนไป มีเรื่องให้ผิดใจกันบ่อย โดยเฉพาะเรื่อง “เงิน” พอแต่งงานกันก็เริ่ม ทะเลาะกับสามีเรื่องเงิน ต้องทำยังไงดี คุยกันยังไงให้ไม่ทะเลาะกันเรื่องเงิน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าของใช้ในบ้าน ใครควรเป็นคนจ่าย และถ้าหากมีลูก ค่าใช้จ่ายของลูกที่เพิ่มขึ้นมา จะบริหารจัดการยังไง พ่อหรือแม่ควรเป็นควรรับผิดชอบมากกว่ากัน
- กินด้วยกันก็ช่วยกันแชร์
บางทีคนเราก็ทะเลาะกันเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการแชร์ค่าใช้จ่ายเวลาไปทานข้าวด้วยกันนี่แหละ จริง ๆ แล้วปัญหานี้อาจเกิดกับคนที่ยังไม่แต่งงานด้วยซ้ำ บางทีแค่คบกันก็เริ่มมีปัญหาแล้ว อย่าที่เรามักจะเห็นประเด็นดราม่าบ่อย ๆ ว่า เวลาไปกินข้าวด้วยกัน ฝ่ายไหนควรจะเป็นคนออกเงิน จริง ๆ แล้วถ้าหากไม่อยากให้เกิดปัญหาว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบ ก็ลองช่วยกันแชร์ดูสิ กินด้วยกัน ก็ช่วยกันจ่าย แค่นี้ก็หมดปัญหาในเรื่องนี้แล้ว
- ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
สำหรับคู่ที่แต่งงานกัน ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันแล้ว มันก็ย่อมมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพิ่มขึ้น จนบางทีเราก็งงว่า เอ๊ะ นี่เงินมันหายไปไหนหมดนะ ทำไมเงินถึงใช้ไม่พอ แล้วถ้าหากไปบ่นให้สามีฟัง ก็อาจจะโดนว่าอีกว่าบริหารเงินไม่ดี ดังนั้นการทำบัญชีรายรับรายจ่าย ถือเป็นอีกทางออกหนึ่งที่สามารถช่วยได้ จะทำให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายไหนที่จำเป็น ค่าใช้จ่ายไหนที่ไม่จำเป็น สามารถตัดงบตรงไหนออกได้บ้าง เท่านี้ก็จะทำให้บริหารเงินได้ง่ายขึ้น
- จูนไลฟ์สไตล์เข้าหากัน
เรื่องของไลฟ์สไตล์เป็นอีกประเด็นที่ทำให้คนในครอบครัวทะเลาะกัน บางคนชอบกินแบบนี้ บางคนชอบกินอีกแบบ บางคนชอบอยู่ติดบ้าน บางคนชอบท่องเที่ยว ดังนั้นถ้าหากอีกฝ่ายไม่อินกับการใช้เงินของอีกฝ่ายหนึ่ง อาจจะทำให้เขามองว่าตรงนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นได้ ดังนั้นลองปรับจูนไลฟ์สไตล์เข้าหากัน น่าจะช่วยให้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น
- คุยกันก่อนตัดสินใจซื้อของชิ้นใหญ่
เวลาจะซื้อของเข้าบ้าน อย่าลืมที่จะถามกันก่อนเสมอ ว่าสิ่งนี้จำเป็นต้องซื้อจริง ๆ หรือไม่ หรือแม้แต่การเลือกยี่ห้อ เลือกสถานที่ซื้อ ก็มีผลต่อราคาของด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากการคุยกันก่อนตัดสินใจซื้อของชิ้นใหญ่ ๆ จะเหมือนเป็นการตกลงร่วมกันแล้ว บางทีก็อาจจะได้ไอเดียดี ๆ ที่เราคาดไม่ถึงก็ได้นะ ของบางอย่าง สามีอาจจะรู้ข้อมูลมากกว่าภรรยาก็ได้ ดังนั้นคุยกันก่อนจะเป็นประโยชน์มาก อย่าตัดสินใจเพียงคนเดียว
- แยกกระเป๋าสตางค์กันใช้ไปเลย
วิธีที่ดูเหมือนจะเป็นการตัดปัญหาเรื่องการทะเลาะกันเรื่องเงิน ถ้าหากคุยกันก็แล้ว ปรับจูนไลฟ์สไตล์หากันก็แล้ว มันยังไม่เวิร์คเท่าที่ควร สามีและภรรยาอาจจะแยกกระเป๋าสตางค์กันใช้ไปเลยก็ได้ เวลาอยากทำอะไรที่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ก็ใช้เงินของตัวเองไป สบายใจกว่า ใช้เงินได้เต็มที่แบบไม่รู้สึกผิด แถมยังลดการทะเลาะกันภายในครอบครัวด้วย
- แยกบัญชีกองกลาง สำหรับของส่วนรวม
ในกรณีที่บ้านนั้นมีลูกแล้ว หรือจริง ๆ แล้วไม่มีลูกก็ตามที แต่ของบางอย่างก็ถือเป็นของใช้ส่วนรวมในครอบครัว เช่น น้ำยาล้างจาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ของใช้ต่าง ๆ ในบ้าน ดังนั้นสำหรับของส่วนรวม หรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูก ควรแยกเป็นบัญชีกองกลางออกมา ให้ทั้งสามีและภรรยาโอนเข้าทุกเดือน ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ช่วยกันออกภายในบ้าน เอาค่าใช้จ่ายมาคำนวณแล้วหารเท่ากันแบบแฟร์ ๆ แก้ให้ไม่ทะเลาะกันเรื่องเงิน
- ก่อนลงทุนอะไรให้ปรึกษากันก่อน
ในสมัยนี้มีการลงทุนมากมาย ที่จะช่วยให้แต่ละบ้านเก็บเงินก้อนได้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้น กองทุนต่าง ๆ แต่ถ้าหากต้องใช้เงินจำนวนมาก อย่างน้อย ๆ ก็ควรปรึกษากันในครอบครัวก่อน เพื่อหาสิ่งที่คุ้มค่าแก่การลงทุนที่สุด อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจทำอะไรไปโดยลำพัง เพราะถ้าหากพลั้งมือไปแล้ว บางทีก็ไม่มีโอกาสให้แก้ไขอีก
- ถ้ามีปัญหาเรื่องเงินให้คุยกันตรงๆ
ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน ถือเป็นเรื่องภายในครอบครัว ดังนั้นก็ควรปรึกษากันเองภายในครอบครัวก่อน คุยกันตรง ๆ ก่อนที่จะหันไปพึ่งคนอื่น เพราะเชื่อเถอะว่าเรื่องแบบนี้ ถ้าหากคนในครอบครัวที่จริง ๆ ควรจะรู้เรื่องนี้คนแรก แต่กลับมารู้เป็นคนสุดท้าย บางทีมันก็น่าน้อยใจเหมือนกันนะ แถมการคุยกันตรง ๆ ภายในบ้าน อาจจะช่วยกันแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าการยืมมือคนอื่นเข้ามาช่วยก็ได้
Source : imom.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เดือน กุมพาพันธ์ 2563 ราศีไหนรวย ราศีมีเกณฑ์ถูกหวย เปิดดวงเดือนความรัก
เคยฝันเห็นงูแปลว่าอะไร ทํานายฝันเห็นงู แปลฝันเห็นงูคืออะไร?
6 ขั้นตอนครอบครัวสุขสันต์ ช่วยกันสร้างให้บ้านประสบความสำเร็จในปี 2020