11 สัญญาณบอกเพศลูกในท้อง ทำนายเพศลูก ได้ง่าย ๆ ท้องนี้หญิงหรือชาย

ทำนายเพศลูก ทำได้ง่ายๆ ท้องนี้หญิงหรือชาย วันนี้ เรารวบรวม 11 สัญญาณบอกเพศลูกในท้อง มาฝากคุณแม่ เพียงแค่สังเกตร่างกายของตัวเองในช่วงที่ตั้งครรภ์ ก็บอกได้แล้ว ว่าลูกเราเพศไหน มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

 

ทำนายเพศลูก ท้องนี้หญิงหรือชาย

คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะ มีบางสิ่งที่เป็นสัญญาณบ่งบอกเพศลูกในท้องด้วยนะ อยากรู้ว่าลูกเราเป็นเพศอะไร ให้ลองสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายคุณแม่ดูกันได้ แต่การคาดเดาเพศลูกจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ก็อาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอน และไม่แม่นยำเท่ากับการตรวจอัลตร้าซาวนด์ แต่ก็ให้ถือซะว่า การดูเพศลูกแบบนี้เป็นการทายเพศลูกกันเล่น ๆ ก่อนที่จะรู้ผลจริงก็แล้วกันนะคะ ถ้าพร้อมแล้วมาอ่านไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

 

1. ขนาดหน้าอก

ว่ากันว่าคนท้องที่หน้าอกใหญ่ เต่งตึง และมีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม อาจมีสิทธิ์ได้ลูกสาว แต่หากหน้าอกดูไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ก็อาจจะได้ลูกผู้ชาย สังเกตง่าย ๆ ถ้าแม่อกเล็กตอนท้อง ก็เป็นไปได้ว่ากำลังอุ้มท้องลูกชายอยู่นั่นเองค่ะ

 

2. ผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม

คนโบราณเชื่อว่า ถ้าคุณแม่มีผิวพรรณดี หน้าตาสดใส ไม่หมองคล้ำ ชอบแต่งตัว ดูแลตัวเองให้มีความสวยงามอยู่เสมอ อีกทั้งยังมีผมและเล็บยาวเร็วในขณะตั้งครรภ์ ก็จะสันนิษฐานว่า ลูกในท้องอาจจะเป็นเพศชาย ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณแม่ท้องมีหน้าตาที่หมองคล้ำ มีสิวฝ้า ไม่สดใสเหมือนก่อนตั้งครรภ์ รวมทั้งมีเส้นผมแห้ง ไม่ชอบแต่งตัว ปล่อยตัวเองให้เป็นไปตามธรรมชาติ เชื่อกันว่าจะได้ลูกสาวอย่างแน่นอน

 

 

3. ลักษณะท้อง

ลักษณะท้อง ก็บอกเพศลูกได้ คนสมัยก่อนเชื่อว่า ถ้าคุณแม่ท้องกลม ป้าน คล้ายกับอุ้มลูกแตงโม รวมถึงเวลาลูกดิ้นจะรู้สึกเจ็บซี่โครง สันนิษฐานว่า ลูกในท้องอาจจะเป็นเพศหญิง แต่ถ้าคุณแม่มีท้องแหลมยื่นออกมา หรือห้อยลงจนเห็นได้ชัด คล้ายคนกำลังอุ้มลูกบาส แถมเวลาลูกดิ้น ยังรู้สึกเจ็บแถวกระเพาะปัสสาวะบ่อย ๆ เชื่อกันว่าจะได้ลูกชายอย่างแน่นอนค่ะ

 

4. อัตราการเต้นของหัวใจลูก

อัตราการเต้นของหัวใจเด็ก ก็เป็นสัญญาณบอกเพศลูกได้นะคะ ถ้าอัตราการเต้นของหัวใจเด็กในท้องต่ำกว่า 140 ครั้งต่อนาที แสดงว่าลูกในท้องอาจเป็นเพศชาย แต่ถ้ามีอัตราการเต้นของหัวใจเร็วกว่า 140 ครั้งต่อนาทีแล้วล่ะก็ คุณแม่อาจได้ทารกเพศหญิงค่ะ

 

5. สีปัสสาวะ

คุณแม่ที่มีปัสสาวะสีเหลืองใส ให้สันนิษฐานว่า คุณแม่อาจได้ลูกชาย แต่ถ้ามีปัสสาวะสีเหลืองขุ่น ก็แสดงว่าคุณแม่อาจได้ลูกสาวค่ะ แต่ทั้งนี้ การทำนายเพศลูกจากสีปัสสาวะ อาจไม่ได้มีความแม่นยำแบบ 100% เพราะโดยปกติ สีปัสสาวะอาจเปลี่ยนแปลงตามระดับน้ำในร่างกาย และอาหารบางชนิดที่คุณแม่รับประทานด้วยค่ะ

 

6. อาการแพ้ท้อง

คุณแม่ที่เคยผ่านการตั้งครรภ์มาแล้วมักบอกว่า ถ้ามีอาการแพ้ท้องรุนแรงมาก และแพ้ท้องในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ มีแนวโน้มที่จะได้ลูกสาว แต่ถ้าคุณแม่แพ้ท้องเบา ๆ หรือเรียกได้ว่าไม่มีอาการแพ้ระหว่างตั้งครรภ์เลย ก็แสดงว่าคุณแม่อาจกำลังจะได้ลูกชายค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : เซ็กส์กับการเลือกเพศลูก ท่าเซ็กส์ให้มีลูกสาวหรือลูกชาย การเลือกเพศลูก

 

 

7. ความเครียดระหว่างตั้งครรภ์

หากช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่เครียดมาก อาจเป็นไปได้ว่า ได้ลูกสาว มีการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่มีความเครียด หรือมีระดับคอร์ติซอลในร่างกายสูงตอนตั้งครรภ์ มีเกณฑ์จะได้ลูกสาวมากกว่าลูกชาย

 

8. อารมณ์วีนเหวี่ยง

การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์ มักจะทำให้คนท้องอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย บางคนเชื่อว่า คุณแม่ที่ตั้งท้องลูกสาว จะมีอารมณ์เหวี่ยงวีน โมโห และหงุดหงิดง่าย มากกว่าท้องลูกชาย เนื่องจากมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงกว่า

 

9. อุณหภูมิเท้า

คนท้องมีเท้าเย็น มักจะได้ลูกชาย เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเยอรมนีอธิบายว่า ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ลูกชาย มักจะมีเท้าเย็นเพราะมีระบบการไหลเวียนของเลือด ไม่ดีเท่าผู้หญิงที่ตั้งท้องลูกสาวนั่นเอง

 

10. การนอนดิ้นของทารก

โดยทั่วไปแล้ว คุณแม่ส่วนใหญ่ จะรู้สึกได้ว่าลูกดิ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 20 ของการตั้งครรภ์ แต่หากแม่ท้องคนไหนรู้สึกว่าลูกดิ้นเร็วกว่านั้น เชื่อกันว่าจะได้ลูกชาย

 

11. ลักษณะการกิน

มีความเชื่อว่า ถ้าแม่ท้องลูกชาย จะอยากกินอาหารมาก ๆ หิวบ่อย มากกว่าท้องลูกสาว โดยผลศึกษาของศาสตราจารย์ Dimitrios Trichopoulous พบว่า คนท้องที่กำลังตั้งครรภ์ลูกชาย จะต้องการพลังงานสูงมากกว่าคนที่ท้องลูกสาว

บทความที่เกี่ยวข้อง : การปฏิบัติตัวตอนตั้งครรภ์ วิธีดูแลตัวเองตอนท้อง เพื่อสุขภาพของทารกในครรภ์

 

 

รู้เพศลูกกี่เดือน

นอกจากการทำนายเพศลูกจากการสังเกตความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเเล้ว คุณแม่ยังสามารถเข้ารับการตรวจเพศลูกเพื่อให้ทราบผลที่แน่ชัดได้ที่โรงพยาบาลค่ะ ซึ่งวิธีตรวจเพศลูกก็มีดังนี้

 

  • อัลตราซาวนด์ คุณแม่สามารถอัลตราซาวนด์ได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 18 เป็นต้นไปค่ะ ซึ่งวิธีนี้มีอัตราความแม่นยำสูงถึง 80%-90% เลยทีเดียว
  • ตรวจเลือด การตรวจเลือด ก็ช่วยให้เรารู้ได้ว่าลูกเรามีเพศอะไร ซึ่งต้องทำโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ แต่ไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก เนื่องจากค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และจะทำการตรวจเลือดเมื่อมีความเสี่ยงต่าง ๆ เท่านั้นค่ะ
  • เจาะน้ำคร่ำ วิธีนี้ก็ช่วยตรวจดูเพศของลูกได้ค่ะ และมีความแม่นยำถึง 99.4% อย่างไรก็ตาม การตรวจแบบเจาะน้ำคร่ำนั้นอาจทำให้คุณแม่เสี่ยงที่จะติดเชื้อหรือคลอดก่อนกำหนดได้ค่ะ
  • ตรวจโครโมโซม คุณแม่สามารถตรวจได้เมื่อมีอายุครรภ์ 9 สัปดาห์ ซึ่งวิธีนี้ให้ผลที่ถูกต้องแม่นยำถึง 99% นอกจากนี้ วิธีนี้ยังช่วยตรวจหาความผิดปกติในโครโมโซมได้อีกด้วยค่ะ

 

ทั้งนี้ วิธีสังเกตเพศลูก จากการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายแม่ ที่เรานำมาฝากกัน เป็นเพียงความเชื่อที่เล่าต่อ ๆ กันมาเท่านั้น ถ้าคุณแม่ต้องการคอนเฟิร์มว่าได้ลูกเพศไหนกันแน่ แนะนำให้ไปหาคุณหมอ เพื่อเข้ารับการตรวจจะดีที่สุดนะคะ

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 46 ใบอัลตราซาวด์บอกอะไรบ้าง

แม่จ๋าอยากรู้ จะรู้เพศลูกตอนกี่เดือน แม่ๆจะดูเพศในครรภ์ได้ตอนกี่เดือน!

วิธีดูเพศลูกในใบซาวด์ อ่านผลอัลตร้าซาวด์ยังไง ซาวด์ตอนไหนเห็นเพศชัดสุด

ที่มา : baby.kapook , parentsone,medicalnewstoday

 

บทความโดย

bossblink