ถ้าไม่อยากให้ลูกโง่ อย่าทำแบบนี้! การกระทำบางอย่างของพ่อแม่อาจทำร้ายลูก

ถ้าไม่อยากให้ลูกโง่ อย่าทำแบบนี้! การกระทำบางอย่างของพ่อแม่อาจทำร้ายลูก

มีหลายเรื่องที่ คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ก็อาจจะไม่รู้ บางครั้งการกระทำของเรา ที่เราทำออกไป หรือ สิ่งที่เราพูดก็อาจจะทำให้กระทบจิตใจ หรือ กระทบการเติบโตของลูกน้อยได้ วันนี้เราเลยอยากที่จะมาบอกเล่าเรื่องราว เคล็ดลับ และ พูดถึงประเด็นต่าง ๆ ที่ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง อาจจะมองข้ามไป เรามาอ่านกันเลยดีกว่าว่า ถ้าไม่อยากให้ลูกโง่ ผู้ปกครอง ความปฏิบัติตัวอย่างไร มีอะไรต้องระวังบ้าง?

อย่าให้ลูกนอนดึก

การให้ลูกนอนดึกบ่อย ๆ หรือ ให้นอนดึกจนเคยชินนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยอ้างอิงจากงานวิจัย จากบทความของ Nature Shock บอกว่า ถ้าลูกนอนช้าไป 1 ชั่วโมง พัฒนาการของเขา นั้น อาจจะช้า หรือ ถดถอยไปเลยกว่า 2 ปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากจนน่าเป็นห่วง

จากข้อมูลงานวิจัยของ Wahlstrom บอกว่า เด็กที่นอนเร็วกว่า เด็กอีกกลุ่มหนึ่งเพียง 15 นาทีนั้น ทำให้เกรดของพวกเขาต่างกันเป็นคนละตัว จาก 2 ไป 3 และ จาก เกรด 3 ไป เกรด 4 เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ถ้าคุณให้ลูกเข้านอนได้ อย่างตรงเวลา ก็จะช่วยลูกได้มาก

ดุด่า ทำร้ายลูก

การดุด่า หรือ ทำร้ายร่างกายนั้น เป็นสิ่งที่ ผู้ปกครอง ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันจะทำให้ลูก เก็บกด ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว มีแต่แย่ลง แย่ลง

นอกไปจากนั้นแล้ว การที่ลูกรู้สึกเครียด หรือ กดดันจนเกินไป จะทำให้เขาหยุดรับรู้ หยุดพัฒนาการต่าง ๆ ซึ่งอาจจะส่งผลระยะยาว ให้กับลูก ทั้งด้านสังคม การใช้ชีวิต รวมไปถึงการเรียนหนังสือด้วย

ให้ลูกกินขนม ของหวาน มากเกินไป

เด็กกับของหวาน เป็นของคู่กัน ที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าลูก กินขนมเยอะเกินไป กินตลอดเวลา มั่นก็ไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน เด็กทุกคน ควรได้รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ทานให้ครบห้าหมู่

โดยเฉพาะ มื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด การได้รับอาหารตอนเช้า ในวันที่สอบ จะทำให้เขามีพลังงานที่ดี สามารถเผชิญหน้ากับการสอบได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย

อย่าให้ลูกสนใจอะไรอย่างเดียว

ในสำนวนภาษาอังกฤษ จะมีคำพูด ที่เรียกว่า Dumb Jock ซึ่งหมายถึง กลุ่มนักเรียนที่ไม่ค่อยมีพัฒนาการทางด้านการเรียน หรือ มีปัญหากับการเรียน งานวิจัยบอกว่าจริง ๆ แล้วนั้น เรื่องนี้สามารถแก้ได้ ไม่ยาก

เด็กทุกคน ควรที่จะได้รับการกระจาย ความสนใจ ความสามารถ ไปรอบ ๆ ด้าน ไม่จำเป็น ที่จะต้อง โฟกัส หรือ จดจ่อ อะไรเพียงแค่อย่างเดียว การให้เด็กได้สัมผัส และ เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ จะทำให้เขาฉลาดขึ้น สมองมีพัฒนาการรอบด้าน ไม่ใช่แค่เรื่องเรียน หรือ เรื่องกีฬาเพียงอย่างเดียว

อย่าให้ลูกติดจอมากเกินไป

ในยุคสมัยนี้ เป็นเรื่องยากเหลือเกิน ที่จะหลบหนีจอภาพ หรือ สมาร์ทโฟน แต่ถ้าทำได้ พ่อแม่ ก็ควรที่จะทำ เวลาที่เราไม่ว่าง พ่อแม่ ไม่ควรโยนมือถือให้ลูกเล่น เพราะเด็กมักจะชอบอะไรที่มีสีสัน ทำให้เขาติตจอได้ง่าย

การที่มองจอบ่อย ๆ นอกจากจะทำให้ สายตาเสียแล้ว มันยังทำให้ สมองของลูก ไม่เกิดการพัฒนา อีกด้วย

The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และ เอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้ แม่ และ เด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และ ผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมี ไลฟ์สไตล์ และ สื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพ แม่ และ เด็ก โภชนาการ แม่ และ เด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว 

การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และ จิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง

เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”

Source : time

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

พี่น้องรักกัน เลี้ยงลูกยังไงให้พี่น้องรักกัน ช่วยเหลือ ดูแลกัน

17 ข้อมูลเด็กเจนอัลฟ่า ที่พ่อแม่ต้องทำความเข้าใจ เตรียมตัวให้พร้อม

ตีลูกดีไหม ลงโทษลูกอย่างไร ให้ลูกได้บทเรียน แต่แม่ไม่ปวดใจ