สำหรับสาวๆ ที่ต้องแต่งหน้าเป็นประจำการล้างหน้า ทำความสะอาดผิว เป็นขั้นตอนที่ต้องใส่ใจมากกว่าคนปกติ เพราะการแต่งหน้า มีโอกาสที่จะทำให้ผิวหน้าเกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมาได้ อาทิ เช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด รอยเหี่ยวย่น ผิวหมองคล้ำ หรือ ปัญหาผิวอื่นๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการที่ล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด ทำให้มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่บนผิวหน้าได้ ! วันนี้เลยอยากจะมาแนะนำ วิธีล้างหน้า แบบ Double Cleansing ที่จะช่วยให้ผิวหน้าสะอาดล้ำลึกแบบคูณสอง ช่วยให้ผิวใส ไกลสิว หมดปัญหาผิวหน้าได้อย่างแน่นอน !
เปรียบเทียบการล้างหน้าแบบทั่วไป VS ล้างหน้าแบบ Double Cleansing
-
การล้างหน้าแบบทั่วไป
จะเป็นการล้างหน้าโดยการใช้โฟมล้างหน้าตามปกติ ซึ่งเป็นวิธีการล้างหน้าที่ทุกคนต้องทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว เพื่อทำความสะอาดผิวหน้าจากการที่ไปเผชิญ กับสภาวะแวดล้อมต่างๆ ทั้งฝุ่น ควัน หรือ ครีมบำรุง กันแดด ที่สามารถทำให้ผิวเกิดการอุดตันขึ้นได้หากทำความสะอาดไม่หมดจด ซึ่งการล้างหน้าแบบทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้แต่งหน้า ดังนั้นเพียงแค่ใช้โฟมล้างหน้าก็สามารถล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดได้อย่างเพียงพอแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการล้างหน้าแบบ Double Cleansing แต่ถ้าหากอยากล้างหน้าแบบ 2 Step ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพื่อผิวหน้าที่สะอาดมากยิ่งขึ้น
-
การล้างหน้าแบบ Double Cleansing
ไม่ใช่การล้างหน้าโดยการใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์ 2 ครั้ง หรือ 2 แผ่น แต่เป็นการที่เลือกใช้คลีนซิ่ง 2 ประเภทในการทำความสะอาดผิว เช่น
- การใช้ Cleansing Oil คู่กับ โฟมล้างหน้า
- จับคู่ Cleansing Water คู่กับ Cleansing Oil
- ใช้ Cleansing Water คู่กับ โฟมล้างหน้า
- เลือก Cleansing Balm คู่กับ โฟมล้างหน้า
หรือ สามารถใช้คลีนซิ่งทุกประเภทที่ชอบคู่กัน 2 ชนิด จึงจะเรียกว่าการล้างหน้าแบบ Double Cleansing ที่ถูกต้อง ! ถ้าหากใช้คลีนซิ่งแบบเดียวกันล้างทำความสะอาด 2 รอบ จะไม่เรียกว่าเป็นการล้างหน้าแบบ Double Cleansing ที่ถูกต้อง แต่ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ใช้โฟมล้างหน้า ล้างซ้ำ 2 รอบ เพราะจะเป็นการทำให้ผิวเกิดการเสียดสี และ สูญเสียความชุ่มชื้นมากจนเกินไป อาจทำให้ผิวหน้าแห้งกร้าน ขาดน้ำ จนเกิดอาการระคายเคืองผิว
Double Cleansing จะดีต่อผิวอย่างไร ?
- จะช่วยให้ผิวหน้าสะอาดมากยิ่งขึ้น เป็นการล้างหน้าแบบคูณสองที่จะช่วยให้ผิวสะอาดล้ำลึก
- ช่วยให้คราบเครื่องสำอาง หรือ สิ่งสกปรก ที่อยู่บนผิว ในรูขุมขน ถูกล้างออกได้อย่างหมดจด ไม่ตกค้างอยู่บนผิว ซึ่งจะทำให้ตัวของคุณเองมีผิวหน้าที่สะอาด หน้าใส ห่างไกลปัญหาผิว และ สิว เพราะถ้าหากล้างหน้าไม่สะอาด ก็จะมีผลเสียตามมามากมาย เช่น หน้าเหี่ยว หน้าย่น สิว ปัญหาผิวต่างๆ เหมือนกับคำที่พูดว่า “การล้างหน้าที่สะอาด คือจุดเริ่มต้นของผิวที่ดี”
ล้างหน้า แบบ Double Cleansing เหมาะกับใคร ?
- เหมาะกับคนที่ทาครีมกันแดดในชีวิตประจำวัน หลายคนอาจจะสงสัยว่าแค่ทาครีมกันแดด ต้องล้างหน้าแบบ 2 Step เหมือนกันหรอ ? คำตอบ คือ ถูกต้อง ! เพราะในครีมกันแดด ก็มีสารเคมีที่สามารถทำให้ผิวเกิดการอุดตัน จนก่อให้เกิดปัญหาผิว หรือ สิวต่างๆ ตามมาได้ เพราะฉะนั้นแค่ทากันแดดก็ต้องใช้คลีนซิ่งสำหรับล้างเครื่องสำอางในการทำความสะอาดผิวเช่นเดียวกับการแต่งหน้า
- คนที่แต่งหน้า การล้างหน้าแบบ Double Cleansing ถือเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าไม่อยากมีปัญหาผิวตามมาในอนาคต เพราะจะช่วยล้างทำความสะอาดเครื่องสำอาง สารเคมี จากเมคอัพที่เราทาลงไปบนหน้าให้สะอาด เกลี้ยง และ หมดจด ไม่หลงเหลือตกค้างอยู่บนผิว
ล้างหน้าแบบ Double Cleansing ล้างสิ่งสกปรกอะไรได้บ้าง ?
ถ้าหากคุณใช้วิธีการล้างหน้าแบบ Double Cleansing จะช่วยล้างสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวได้มากมาย เช่น
- เครื่องสำอาง
- สารเคมีจากสกินแคร์ ครีมกันแดด เมคอัพ
- ฝุ่น ควัน ไรฝุ่น มลภาวะต่างๆ
- แบคทีเรียที่สามารถก่อให้เกิดปัญหาสิว
- คราบเหงื่อ และ ความมัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 แผ่นเช็ดเครื่องสำอาง พกพาสะดวก ทิชชู่เปียกลบเมคอัพ ใช้ยี่ห้อไหนดี ??
ทำไมเราถึงต้องใช้วิธีล้างหน้าแบบ Double Cleansing ?
คำตอบ คือขึ้นอยู่กับแต่ละตัวบุคคล ถ้าหากเป็นคนที่ต้องการดูแลผิวให้ห่างไกลจากปัญหาผิวต่างๆ และ เป็นคนที่แต่งหน้าอยู่แล้ว อยากแนะนำให้ใช้วิธีการล้างหน้าแบบ Double Cleansing เพราะจะช่วยทำความสะอาดผิวได้ดียิ่งขึ้น และ ช่วยถนอมผิวให้มีสุขภาพดี เพื่อให้มีผิวที่ใสสามารถให้เราสนุกกับการแต่งหน้าไปได้อีกนาน หรือ ถ้าใครไม่อยากใช้วิธีการล้างหน้าแบบ 2 ขั้นตอน หรือ Double Cleansing ต้องแน่ใจว่าการล้างหน้าเพียง 1 ขั้นตอน จะเพียงพอ และ ล้างเครื่องสำอาง หรือ สิ่งสกปรกที่อยู่บนผิวได้หมดจด ซึ่งถ้าหากมั่นใจว่าล้างหน้าเกลี้ยงก็สามารถข้ามขั้นตอนการล้างหน้าแบบ 2 ขั้นตอนไปได้ แต่ถ้าเกิดในอนาคตมีปัญหาผิวตามมาให้ตั้งข้อสังเกตไว้เลยว่ามาจากการที่ ล้างหน้าไม่สะอาดแน่นอน !
คำแนะนำสำหรับการล้างหน้าแบบ Double Cleansing
- ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับล้างหน้าให้เหมาะกับผิวของตัวเอง เพื่อให้การล้างหน้ามีประสิทธิภาพ และ ช่วยส่งเสริมผิวให้ดียิ่งขึ้น
- ถ้าหากเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับผิว อาจจะทำให้มีปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ เช่น อาการระคายเคือง หรือ มีสิวผด สิวอุดตันขึ้น
- อย่างเช่น คนหน้าแห้ง ควรเลือกใช้ คลีนซิ่งออยล์ คู่กับ โฟมล้างหน้า หรือ คนหน้ามัน เลือกใช้ คลีนซิ่งวอเตอร์ คู่กับ โฟมล้างหน้า เป็นต้น *สามารถจับคู่คลีนซิ่งที่ชอบได้ตามต้องการ เพื่อให้ผิวหน้าได้รับการปรนนิบัติ ได้รับการทำความสะอาดที่เพียงพอนั่นเอง !
เพียงเท่านี้.. สาวๆ ก็สามารถมีผิวหน้าที่สะอาด หน้าใส ไกลสิว ได้ง่ายๆ ถ้าเลือกวิธีการล้างหน้า และ ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวของตัวเอง ถ้าหากใครยังไม่เคยลองการล้างหน้าแบบ 2 ขั้นตอน ขอแนะนำให้ลองดูสัก 2 อาทิตย์ แล้วคุณจะพบกับผลลัพธ์ของผิวที่เปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ! ผิวจะสะอาดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คอนเฟิร์มได้เลย ! เพียงแค่เปิดใจก็จะพบกับสิ่งใหม่ที่ดีกว่า
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แนะนำ!! 7 เครื่องล้างหน้า ช่วยทำให้หน้านุ่ม สะอาด พกพาได้สะดวก
เจลล้างหน้า ควรเลือกอย่างไร คนเป็นสิว ผิวแพ้ง่ายใช้แบบไหนดี ?
คนเป็นสิวควรรู้ ! โฟมล้างหน้าลดสิว เลือกอย่างไรให้เหมาะกับผิวหน้า
ที่มา : popsugar.com, ellethailand.com