ล้างตู้เย็น ถือเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่อง สำหรับบรรดาพ่อบ้านและแม่บ้าน เนื่องจากทำความสะอาดได้ค่อนข้างลำบาก กว่าจะจัดเก็บ คัดแยกอาหาร ทำความสะอาดเชื้อราให้สิ้นซาก ก็ใช้เวลาไปกว่าค่อนวัน ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปฏิวัติกันสักที โดยการ ล้างตู้เย็น เปลี่ยนโฉมตู้เย็น ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
ล้างตู้เย็น ยังไงให้สะอาดเหมือนใหม่ !
1. เอาอาหารออกจากตู้เย็นทั้งหมด
- ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การทำความสะอาด คือช่วงที่ตู้เย็นมีอาหารน้อย หรือก่อนที่เราจะไปซื้อของมาเติมในตู้เย็น เนื่องจากของน้อยจะสะดวกและรวดเร็วในการทำความสะอาด
- แม้ว่าอาหารจะไม่บูดเมื่ออยู่นอกตู้เย็น แต่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เกิน 1 ชั่วโมง
- การเก็บอาหารในกระเป๋าเก็บความเย็นสามารถป้องกันอาหารไม่ให้เน่าเสียได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไอเดียการกำจัดเศษอาหาร และใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่า 14 วิธีอย่างสร้างสรรค์
2. ทิ้งอาหารที่หมดอายุ ขึ้นรา เก็บมานาน
- ตรวจสอบวันหมดอายุ วันเดือนปี ที่ควรบริโภคก่อน จะได้รู้ว่าควรนำไปทิ้งหรือไม่
- ทิ้งวัตถุดิบที่เราไม่ค่อยได้ใช้ อาจจะด้วย อาหารขึ้นรา หรือเก็บไว้นานเกินไป
3. เอาชั้นวางหรือชิ้นส่วนที่ถอดออกได้ ออกมาจากตู้เย็น
- นำชั้นวางที่อยู่ภายในตู้เย็นออกมา เพื่อทำความสะอาด และทำความสะอาดภายในตู้เย็นได้อย่างทั่วถึง
- โดยปกติแล้ว จะนำชั้นวางของตู้เย็น กับตะแกรงหรือลิ้นชักตู้เก็บของออกมา
- ทำความสะอาดชั้นวาง อย่าให้น้ำร้อนทำความสะอาดชั้นวางที่ทำจากแก้ว การเปลี่ยนแปลงกะทันหันอาจทำให้แตกได้
- หากมีคราบฝุ่นฝังแน่น ให้ใช้น้ำร้อนและแอมโมเนียทำความสะอาด
- ต้องรอให้ชั้นวางแห้งสนิทก่อน ที่จะนำกลับไปใส่ในตู้เย็น
4. ใช้น้ำชุบทำความสะอาด แล้วเช็ดภายในตู้เย็น
- หากคราบฝังแน่น สามารถใช้ยาสีฟันสีขาว เพื่อขจัดคราบต่าง ๆ
- ใช้ผ้าสะอาดหรือฟองน้ำเช็ดออก เช็ดถูภายในให้ทั่ว
5. เช็ดชั้นวางให้แห้งก่อนนำกลับเข้าไปในตู้เย็น
- ใช้ผ้าสะอาดทำความสะอาดน้ำที่ยังหลงเหลืออยู่ในชั้นวางออกให้หมด
- นำชั้นวางกลับเข้าไปในตู้เย็น
6. ทำความสะอาดขอบยางบริเวณที่ปิดตู้เย็น
- อย่าใช้น้ำยาฟอกขาว เนื่องจากน้ำยาฟอกขาวอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ขอบยางได้
- เช็ดขอบยางให้แห้งใช้น้ำมันหอมระเหย หรือโลชั่นบำรุงผิวทาขอบยางประตู เพื่อรักษาความยืดหยุ่นของขอบยางไว้
7. นำอาหารกลับเข้าไปในตู้เย็น
- ใช้อุปกรณ์กระปุก ขวด แทนการใช้ถุงพลาสติก เพื่อเป็นการจัดระเบียบของอาหาร และง่ายต่อการหยิบจับ
- ตรวจสอบวันหมดอายุของอาหารอีกครั้ง และเช็ดบรรจุภัณฑ์ที่บรรจุก่อนนำไปวางในตู้เย็นอีกครั้ง
วิธีทำความสะอาดตู้เย็นด้านนอกให้ใหม่
ขั้นตอนที่ 1
- เลื่อนตู้เย็นมาข้างหน้า เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้สะดวก ใช้ฐานรองตู้เย็นเมื่อต้องการเลื่อน เพื่อป้องกันพื้นไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน
- ทำความสะอาดตู้เย็นด้านนอกโดยใช้ผ้าขนหนู และน้ำยาทำความสะอาด
- หากมีแผงระบายด้านหลังตู้เย็น งดทำความสะอาดด้านหลัง
ขั้นตอนที่ 2
- หาตำแหน่งระบายความร้อน จากคู่มือการใช้งาน โดยส่วนใหญ่ที่ระบายจะอยู่ด้านหลัง
- ถอดปลั๊กตู้เย็นออก เพื่อป้องกันไฟฟ้าช็อต
- ใช้แปรงปัดฝุ่น ปัดเศษฝุ่นออกจากแผงระบายความร้อนเบา ๆ หลังจากใช้แปรงเสร็จแล้ว ใช้เครื่องดูดฝุ่นเป็นหัวแปรงมาดูดรอบ ๆ อย่าใช้น้ำยาทำความสะอาดเด็ดขาด
- เช็ดบริเวณพื้นรอบ ๆ ตู้เย็น เสียบปลั๊กตู้เย็นและเลื่อนกลับเข้าที่
กำจัดกลิ่นตู้เย็น ยังไงให้อยู่หมัด
-
ทำความสะอาดทุก 3 เดือน
การทำความสะอาดทุก 3 เดือน จะช่วยให้ตู้เย็นมีกลิ่นหอมสะอาด หากมีอะไรหกเลอะเทอะให้รีบทำความสะอาดทันที เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ ไม่ทำความสะอาดตั้งแต่แรก คราบก็จะฝังแน่น ส่งกลิ่น และกำจัดคราบได้ยาก
-
นำผลิตภัณฑ์มาดับกลิ่นไม่พึงประสงค์
นำถ่านกัมมันต์มาใส่ถุงสะอาดแล้วนำไปวางในตู้เย็น ถ่านกัมมันต์จะช่วยดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ผงฟูก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เนื่องจากผงฟูก็สามารถดูดกลิ่นได้ดีเยี่ยม แนะนำให้เปลี่ยนผงฟูทุก ๆ 30 วัน
-
เพิ่มกลิ่นให้ตู้เย็น เวลาเปิดมาก็จะได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ
หากใครที่ชอบให้ตู้เย็นมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สามารถหยดน้ำมันหอมระเหย กลิ่นต่าง ๆ ที่ชอบ ลงในสำลี และนำวางไว้ในจานเล็ก ๆ นำไปใส่ในตู้เย็น และเปลี่ยนก้อนสำลีนี้ ทุก ๆ 2 สัปดาห์
-
หากตู้เย็นมีผลไม้ให้ใช้ถุงกระดาษสีน้ำตาล
ถุงกระดาษสีน้ำตาล จะช่วยดับกลิ่นของผักและผลไม้ ที่อยู่ในลิ้นชักได้
เคล็ดลับดูแลตู้เย็นให้เหมือนใหม่
- ทำความสะอาดตู้เย็น 1 ครั้ง ต่อเดือน
- จัดอาหารให้เป็นระเบียบ เพื่อง่ายต่อการใช้ง่าย อาจจะแบ่งเป็นชั้น ๆ หรือหมวดหมู่ เพื่อให้หยิบจับง่ายขึ้น
- หมั่นนำผงฟู หรือถ่านกัมมันต์ ไปวางในตู้เย็น เพื่อให้ดูดความชื้นภายในตู้เย็น ไม่ส่งกลิ่นเหม็น
- ตรวจสอบวันเดือนปี หมดอายุของอาหาร
- ทำความสะอาดตู้เย็นอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ตู้เย็นได้รับความเสียหาย
- วางแผ่นรองชั้นวางตู้เย็น แผ่นรองจะช่วยป้องกันไม่ให้ชั้นวางสกปรก
- นำขวดซอสต่าง ๆ เก็บไว้ในตะกร้าพลาสติก เพื่อที่จะได้หยิบใช้งานได้ง่าย ทำความสะอาดสะดวกสบาย
- อย่าให้น้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดหกใส่ ช่องภายในตู้เย็น
- นำอาหารเก่ามาใส่ถุง ผูกปากให้แน่นก่อนทิ้ง เพื่อไม่ให้หนูได้กลิ่น และนำถุงขยะออกไปทิ้งนอกบ้าน เพื่อให้ในบ้านไม่มีกลิ่นเหม็นของถังขยะ
ที่มา : th.wikihow.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
ไอเดียตกแต่งบ้าน กับ 15 วิธีแต่งบ้านสไตล์ท่องเที่ยว สายเที่ยวไม่ควรพลาด
14 วิธีขจัดคราบสกปรก ฉบับแม่บ้านมืออาชีพ
วิธีสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย แค่ปล่อยให้ลูกเล่นสกปรกจริงหรอ!