ความท้าทายของการเข้าสู่การตลาดในรูปแบบออนไลน์ การสื่อสารที่รวดเร็วที่จะต้องเปลี่ยนรูปแบบการตลาดแบบเดิม ๆ ให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลาส่งผลทำให้เกิดรูปแบบทาง การทำการตลาด Influencer Marketing ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ในทุกแพลตฟอร์ม ดังนั้นเราจะต้องรู้เท่าทัน และทำความเข้าใจเพื่อที่จะได้สร้างแบรนด์และโปรโมตแบรนด์โดยไม่ตกเทรนด์และทันกระแสอยู่ตลอดเวลา
ทำไม การทำการตลาด Influencer Marketing จึงสำคัญ ?
หากย้อนกลับไปในช่วงเวลา 10 ปีก่อนหน้า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สามารถให้ผู้คนเข้าถึงแบรนด์จะเป็นการลงโฆษณาผ่านช่องทางโทรทัศน์ระหว่างการพักครึ่งรายการข่าว หรือละคร ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มหลักที่นักการตลาดส่วนใหญ่ใช้ในการโฆษณาสินค้า แต่เนื่องด้วยการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดทางเทคโนโลยี โลกเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคของการออนไลน์ และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทำให้ผู้บริโภคมีอิสระและทางเลือกในการเลือกดูเนื้อหาของแบรนด์ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด จึงทำให้แบรนด์เกิดปัญหาในการเข้าถึงผู้บริโภคที่กระจายออกไปทั่วทุกสื่อ การเข้าถึงจึงยากมากยิ่งขึ้น และด้วยเหตุนี้จึงส่งผลทำให้การตลาดรูปแบบอินฟลูเอนเซอร์ เข้ามามีบทบาทที่สำคัญ เพราะอินฟลูเอนเซอร์ จะช่วยทำให้กลุ่มเป้าหมายที่ถูกกระจายออกไปทุกแพลตฟอร์มสามารถเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นผ่านการโปรโมต หรือการกระจายข่าวของอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งในปัจจุบันต้องยอมรับ ส่วนหนึ่งของการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการนั้นมาจากการพูดถึงของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียล และการเผยแพร่ข้อมูลลงบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างทั่วถึง
บทความที่น่าสนใจ : Influencer Marketing คืออะไร สามารถทำได้อย่างไรบ้าง?
ดารา หรือ เซเลบริตี้ มีผลต่อ Influencer Marketing อย่างไรบ้าง
อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่าในยุคปัจจุบันที่มีสถานการณ์แพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ส่งผลทำให้ผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงไม่ว่าจะเป็นดารา ศิลปิน เซเลบริตี้ (Celebrity) หรือผู้ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากเพราะเป็นธุรกิจที่จะต้องทำงานกับผู้คนเป็นหมู่มาก ดังนั้นจึงมีบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนผันตัวเองมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ทั้งนี้นอกจากผู้ที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงแล้ว ทางผลิตภัณ์ สินค้า หรือบริการต่าง ๆ ก็ต้องปรับตัวไปพร้อมกัน ด้วยการเริ่มทำการตลาดแบบใหม่ให้สอดคล้องกับยุคสมัยที่มีการปรับเปลี่ยน จึงมีการหันมาใช้การทำการตลาดแบบ Influencer Marketing มากยิ่งขึ้น โดยช่องทางที่เป็นสื่อกลางระหว่างอินฟลูเอนเซอร์กับผู้บริโภคจะเป็นสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) อาทิ เฟชบุ๊ก (Facebook) ทวิตเตอร์ (Twitter) ยูทูป (YouTube) ติ๊กต๊อก (TikTok) อินสตาแกรม (Instagram) และ รีล (Reel) เป็นต้น ซึ่งช่องทางเหล่านี้จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะมีสถาการณ์ที่ทำให้เกิดข้อจำกัดในการใช้ชีวิตหลายอย่าง แต่การทำการตลาดในรูปแบบนี้จะทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าพวกเขาสามารถดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิมได้ มีแค่เพียงการปรับตัวเข้าให้กับวิธีการแบบใหม่เท่านั้น
ตัววัดผลของความสำเร็จของ Influencer Marketing คืออะไร
การวัดผลของผลงานของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ที่ถูกจ้างงานจากแบรนด์ต่าง ๆ นั้นจะแตกต่างกันไปแล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละแบรนด์กำหนด แต่สิ่งที่อินฟลูเอนเซอร์พึ่งควรที่จะมีคือการครีเอทคอนเทนต์ หรือแคมเปญเพื่อให้บรรลุ KPI (Key Performance Indicator) หรือดัชนีชี้วัดที่ทางแบรนด์กำหนด โดยพื้นฐานแล้วจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
-
การรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์
- การเข้าถึง : ผู้ติดตาม ผู้ที่ถูกใจ
- การมีส่วนร่วม : การแสดงความคิดเห็น การแชร์ การพูดถึงหรือกล่าวถึง
-
การตอบสนองของผู้บริโภค
- ยอดขาย
- อัตราการคลิกผ่าน
- การสมัครสมาชิกเพิ่ม หรือการลงทะเบียน
- เพิ่มยอดการติดตาม
สถิติของการทำการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ ปี 2564
ตลาดอินฟลูเอนเซอร์เป็นเหมือนการลงทุนชนิดหนึ่งที่คนเริ่มหันมาให้ความสนใจใช้เป็นเครื่องมือในการโปรโมตสินค้าและบริการให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ให้ได้มากที่สุด โดยสถิติของการทำการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ ปี 2564 โดยสรุปคร่าว ๆ ได้ดังต่อไปนี้
- 80% ของนักการตลาด เชื่อว่าการทำตลาดด้วยอินฟลูเอนเซอร์นั้นได้ผลและมีประสิทธิภาพมากเมื่อเทียบกับช่องทางการตลาดช่องทางอื่น
- นักลงทุนมากกว่า 86% มีการวางแผนที่จะลงทุนในจำนวนเท่าเดิมในช่องทางการตลาดเดิม และมีการวางแผนเงินลงทุนเพิ่มมากขึ้นกับการตลาดรูปแบบอินฟลูเอนเซอร์ในปี 2565
- 71% ของนักการตลาด กล่าวว่า คุณภาพของลูกค้า ปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย และประสิทธิภาพในการการันตียอดขายเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนนั้นมาจากผู้ที่เข้าชมผ่านช่องทางของอินฟลูเอนเซอร์
- ปี 2564 ที่ผ่านมา นักวางแผนการตลาดประมาณ 58% ได้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการตลาดรูปแบบอินฟลูเอนเซอร์เป็นการเทรนด์การตลาดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด นำหน้า SEO (Search engine optimization) และวิดีโอคอนเทนต์
สิ่งที่ต้องระวัง!! เกี่ยวกับการตลาดอินฟลูเอนเซอร์
การตลาดรูปแบบอินฟลูเอนเซอร์มีกลยุทธ์ต่างจากการทำโฆษณาในอดีตเป็นอย่างมาก โดยจะต้องอาศัยความน่าเชื่อถือ และความไว้ใจระหว่างแบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์ ถึงแม้ว่าในบางครั้งจะมีการลงนามในสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมายแล้วก็ตาม แต่การดูแลชื่อเสียงของแบรนด์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน แบรนด์จะต้องแน่ใจว่าเนื้อหาของอินฟลูเอนเซอร์สอดคล้องกับภาพรวมของแบรนด์ เพราะในบางครั้งการที่อินฟลูเอนเซอร์ครีเอทเนื้อหาที่แปลกใหม่ หรือแตกต่างไปจากเดิมอาจส่งผลเสียต่อแบรนด์ได้ นอกจากนี้ควรระวังเรื่องของการปลอมแปลง หรือแอบอ้างในเรื่องของยอดผู้ติดตามที่ไม่เป็นไปตามจำนวนจริง และไม่ใช่บัญชีของผู้ใช้งานจริง ซึ่งแบรนด์เองก็ต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่จะใช้ในการโปรโมตแบรนด์นั้นมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพมากเพียงพอที่จะสร้างประสิทธิผลที่แบรนด์สมควรที่จะได้รับ
ถึงแม้ว่าเราจะต้องเปลี่ยนแปลงการตลาดของแบรนด์ให้เท่าทันกับการเข้าถึงของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงไปใช้สื่อสังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้นก็ไม่ได้มีปัญหาหากคุณมีเพื่อนคู่คิด คอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการวางแผนการตลาดในรูปแบบออนไลน์ theAsianparent สังคมออนไลน์อันดับหนึ่งในด้านแม่และเด็กที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1.3 ล้านคน สามารถช่วยเหลือคุณในการวางแผนการตลาดรูปแบบอินฟลูเอนเซอร์ได้ เพราะเรามีทีมงานที่มีความชำนาญ และมีคุณภาพที่จะช่วยเหลือคุณให้มียอดขายเพิ่มขึ้น รวมถึงให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น สามารถติดต่อเราได้ที่ : [email protected]
บทความที่น่าสนใจ :
อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) แม่และเด็ก ช่วยขับเคลื่อนแบรนด์สินค้าได้อย่างไร
Nano Influencer และ Micro Influencer เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
Influencer เจาะลึกถึงกลุ่มเป้าหมาย กระตุ้นยอดขายให้ปัง
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!