ข้าราชการ หมอ ตำรวจ ทหาร อาชีพยอดฮิตที่พ่อแม่ปลื้ม จำเป็นต้องเร่งลูกตั้งแต่เบบี๋เลยไหม
ข้าราชการ หมอ ตำรวจ ทหาร อาชีพยอดฮิตที่พ่อแม่ปลื้ม จำเป็นต้องเร่งลูกตั้งแต่เบบี๋เลยไหม ค่านิยมของคนไทย ถ้าได้เป็นหนึ่งในอาชีพนี้ พ่อแม่ยิ้มไม่หุบ เอาไปคุยได้ทั้งหมู่บ้าน ภูมิใจเป็นที่สุด แต่การเร่งลูกตั้งแต่เบบี๋นั้น มันโอเคสำหรับเด็ก ๆ จริงน่ะเหรอ
อาชีพในฝันของใครหลาย ๆ คน
แม้กระทั้งตอนที่เหล่าคุณพ่อคุณแม่ในยุคนี้ยังเป็นเด็ก ก็ได้ยินมาตลอดกับคำพูดที่บอกว่า ให้ขยันเรียนหนังสือเก่ง ๆ สอบให้ได้คะแนนดี ๆ เข้าไว้ โตขึ้นจะได้สอบติดโรงเรียนชื่อดัง มหาวิทยาลัยดี ๆ และทำงานเป็นจ้างคนนายคน ให้พ่อแม่มีหน้ามีตา อวดวงศาคณาญาติและคนอื่นได้อย่างภาคภูมิใจ และไม่อายใคร อาชีพยอดฮิตก็อย่างเช่น ข้าราชการ หมอ ตำรวจ ทหาร อาชีพที่มีเครื่องแบบมีสีทั้งหลาย ครู วิศวกร ฯลฯ
ระดับอนุบาลก็มีติว อนาคตคงติวตั้งแต่ท้อง
เมื่อเด็ก ๆ ถูกพร่ำสอนมาอย่างนั้นแล้ว ก็ทำให้การแข่งขันในแต่ละปี ๆ ที่ผ่านมา ทวีความเข้มข้นขึ้น เริ่มติวเริ่มเรียนพิเศษเริ่มมีการทดสอบ กับเด็กที่อายุน้อยลงเรื่อย ๆ จนทำให้ปัจจุบันนี้ การเรียนพิเศษดูเหมือนจะสำคัญยิ่งกว่าการเรียนในห้องเรียนเข้าไปทุกทีแล้ว ทั้งการเรียนพิเศษตอนเย็นหลังเลิกเรียน และเรียนพิเศษในวันหยุดที่เด็ก ๆ ควรจะต้องพักผ่อนมีเวลาอิสระได้ทำในสิ่งที่ชอบ
ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กเตรียมอนุบาลและอนุบาลเอง ที่พ่อแม่ก็เริ่มมีการวางแผนในการเรียนต่อโรงเรียนประถมที่มีชื่อเสียงเอาไว้ตั้งแต่คุณแม่เริ่มท้องก็มี ถึงขั้นมีการจองโรงเรียนตั้งแต่ทราบข่าวว่าท้องในไตรมาสแรกกันเลยทีเดียว และเมื่อลูกเริ่มสื่อสารรู้เรื่อง ก็มีทั้งที่คุณพ่อคุณแม่ติวเข้มเอง จ้างครูสอนพิเศษแบบเข้มข้น เพื่อเวลาสอบเข้าโรงเรียนต่าง ๆ ลูกจะได้ทำได้
แต่…นี่มันเป็นการฝืนธรรมชาติของเด็ก ๆ หรือ เตรียมความพร้อมให้ลูกมีอัจฉริยภาพรอบด้านกันแน่นะ
การพัฒนาสมองของลูก
ตั้งแต่ตัวอ่อนพัฒนาจนคลอด
- เซลล์ประสาทและการเชื่อมต่อ เติบโตขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรจะเครียดในระหว่างที่กำลังท้อง ร่างกายควรได้รับกรดโฟลิก วิตามินบี 6 และบี 12
- นอกจากนี้ คุณแม่ยังช่วยกระตุ้นให้สมองของลูกพัฒนาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการพูดคุย และการสัมผัสท้อง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือสูดดมสารพิษทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ควันบุหรี่ โลหะหนัก แอลกอฮอล์ และยาเสพติด
ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี
- สมองจะมีการพัฒนาเพื่อเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อต่าง ๆ ได้อย่างที่ต้องการ
- อยู่ในช่วงของการพัฒนาเหตุและผล การรับรู้ต่าง ๆ
- สมองกลีบหน้า (Frontal lobe) ซึ่งเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของสมอง จะมีการพัฒนาในเรื่องของอารมณ์และความผูกพัน การวางแผน ความจำ และการรับรู้
- เด็กจะอยู่ในช่วงที่เรียนรู้ความรู้สึกของตัวเอง เรียนรู้จากประสบการณ์ต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของอารมณ์
- เมื่ออายุได้ 6 ปี สมองของเด็ก ๆ จะมีน้ำหนักเป็น 95% ของสมองของผู้ใหญ่ และเป็นช่วงที่มีการใช้พลังงานสูงที่สุดค่ะ
- คุณพ่อคุณแม่จึงควรต้องเลี้ยงดูลูกอย่างใกล้ชิด และพูดคุยกับลูกเป็นประจำทุกวัน
- ความเครียด ความกดดัน ความรุนแรง และพลังงานด้านลบต่าง ๆ จะส่งผลให้เด็ก ๆ มีอารมณ์ไม่คงที่ เป็นผลเสียต่อไปได้ในอนาคตค่ะ
เร่งลูกตั้งแต่เล็ก เพื่อความภูมิใจของพ่อแม่
แล้วตกลงว่า การเร่งลูกตั้งแต่เล็ก ให้อ่านออกเขียนได้ ทำข้อสอบได้ มีข้อดีหรือข้อเสียกันแน่ ที่พ่อแม่ต้องรู้ หลัก ๆ เลย คือ เด็ก ๆ ในช่วงปฐมวัยนี้ หน้าที่ คือ เล่น เล่น เล่น และ เล่น! เท่านั้นค่ะ การเล่นบางอย่าง อาจจะต้องสร้างกล้ามเนื้อมัดเล็กให้แข็งแรง เพื่อรองรับการขีดเขียนเมื่ออายุมากกว่านี้ ดังนั้น การที่จับลูกมาติว และคาดหวังในสิ่งที่ลูกอาจจะชอบหรือไม่ชอบไม่รู้ แต่พ่อแม่ต้องการ มันอาจจะเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำกัน แต่รู้หรือไม่ว่า นั่นอาจจะเป็นผลเสียต่อลูกระยะยาวได้เช่นกันค่ะ
ที่มา nancyguberti
บทความที่น่าสนใจ
จิตแพทย์ชี้วัย อนุบาล 3 ขวบ อย่าเพิ่งยัดเยียดให้ลูกอ่าน-เขียน ยังไม่ต้องรีบ 5 ขวบก็ไม่สาย!!
รวมค่าเทอมโรงเรียนอนุบาล ปี 2561