ความต้องการที่เรียนในโรงเรียนนานาชาติที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็วของโรงเรียนนานาชาติในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงเรียนนานาชาติทั้งหมด 175 โรง และเป็นสมาชิกของสมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทย (ISAT) ทั้งหมด 127 โรง โดย 2 ใน 3 เป็นโรงเรียนนานาชาติในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ในปี 2560 เพียงปีเดียว มีโรงเรียนนานาชาติเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 20% นับเป็นการขยายตัวแบบก้าวกระโดด ในธุรกิจที่มีขนาดของตลาดรวมประมาณ 60,500 ล้านบาท/ปี (อ้างอิงจาก ISAT) ก่อให้เกิดการแข่งขันอย่างรุนแรงในแวดวงโรงเรียนนานาชาติ
แม้โรงเรียนนานาชาติที่เปิดอยู่เดิมจะได้เปรียบโรงเรียนนานาชาติที่เปิดใหม่บ้างในด้านชื่อเสียงและการเป็นที่รู้จัก แต่โรงเรียนนานาชาติใหม่ๆ ก็มีโอกาสดีในการพัฒนาจุดแข็งที่แตกต่าง และตอบโจทย์ให้กับสังคมมากกว่าหลายโรงเรียนที่เปิดทำการเรียนการสอนอยู่เดิม ดังนั้น มร.มาร์ค แมคเวย์ (Mark McVeigh) ครูใหญ่โรงเรียนนานาชาติ Denla British School (DBS) ผู้มากประสบการณ์จากโรงเรียนชั้นนำทั้งในประเทศอังกฤษ และเอเชีย จึงมุ่งเน้นไปที่คุณภาพการเรียนการสอน และสภาพแวดล้อมที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ให้เด็กๆ ค้นพบทิศทางและความถนัดของตนเอง และพัฒนาได้เต็มศักยภาพ
สำหรับเป้าหมายและทิศทางของ DBS ในปี 2019 นั้น มร. แมคเวย์ กล่าวว่า DBS มีความตั้งใจที่จะพัฒนาจุดเน้นทั้ง 4 เรื่องของ DBS ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ได้แก่ 1. การใช้หลักสูตรและรูปแบบการจัดการเรียนการสอนจากโรงเรียนเอกชนชั้นนำของประเทศอังกฤษ ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านวิชาการและด้านกิจกรรม มาปรับปรุงให้เข้ากับบริบทของสังคมไทย รวมถึงการเสริมภาษาจีน และภาษาไทยเข้าไปในหลักสูตรเพื่อให้เข้ากับความต้องการของโลกอนาคต (Enhanced British Curriculum) 2. การส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมีสัมฤทธิผลทางวิชาการเต็มศักยภาพ (Academic Excellence for All) 3. การพัฒนาและปลูกฝังทักษะความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) เช่น ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ความกล้าหาญในการตัดสินใจและลงมือทำ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในอนาคต และ 4. การปลูกฝังพื้นฐานภาษาและวัฒนธรรมไทยที่เข้มแข็งให้กับนักเรียน (Preserving Thainess)
มร.มาร์ค แมคเวย์ (Mark McVeigh)
มร. แมคเวย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปีนี้ DBS รับบุคลากรครู และพนักงาน ที่มีความเชี่ยวชาญมาเสริมทีมให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อรองรับนักเรียนที่เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษาที่แล้ว และเพื่อเตรียมพร้อมเปิดการเรียนการสอนแผนกมัธยมปลาย (Senior School) สำหรับนักเรียนที่จะไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก
นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงสนามกีฬากลางแจ้งส่วนหนึ่งให้กลายเป็นสนามกีฬาในร่มขนาดใหญ่ ซึ่งเด็กนักเรียนสามารถเล่นกีฬาได้หลายประเภทในสนามกีฬาแห่งใหม่ ซึ่งรวมถึงสนามบาสเกตบอล 2 สนาม คอร์ทแบดมินตัน 6 คอร์ท และสนามเน็ตบอล 2 สนาม รวมถึงยังมีโครงการที่จะปรับปรุงอาคารสถานที่ส่วนอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่จะส่งเสริมการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะให้กับเด็กนักเรียนในทุกชั้นปีอีกด้วย ด้วยแผนการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ มร. แมคเวย์มั่นใจว่า DBS จะเป็นที่รู้จักในฐานะโรงเรียนนานาชาติชั้นนำของประเทศไทยในเวลาอันใกล้อย่างแน่นอน
สำหรับภาพรวมของตลาดการศึกษานานาชาติในประเทศไทย ผศ. ดร. ต่อยศ ปาลเดชพงศ์ กรรมการบริหารโรงเรียนนานาชาติ DBS กล่าวว่า ปัจจุบันมีกลุ่มทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนธุรกิจการศึกษาในประเทศไทยหลายชาติ โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย รัสเซีย และอังกฤษ ซึ่งข้อมูลนี้มาจากสำนักงานพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ
ดร.เต็มยศ ปาลเดชพงศ์
ดร. เต็มยศ ปาลเดชพงศ์ กรรมการบริหารโรงเรียนนานาชาติ DBS อีกท่านเสริมว่า จากการที่รัฐบาลมีแนวทางส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษานานาชาติของภูมิภาคอาเซียน ทำให้จำนวนนักเรียน และนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาศึกษาในประเทศไทยที่มีอัตราเพิ่มขึ้น ในอีกประมาณ 3 ปีข้างหน้า DBS มีแผนที่จะเปิดรับนักเรียนประจำ (Boarding School) เพื่อรองรับนักเรียนจากต่างประเทศ อาทิ จีน พม่า เกาหลีใต้ และเวียดนาม และนักเรียนไทยที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดด้วย
ผศ. ดร. ต่อยศ กล่าวด้วยความมั่นใจว่า ด้วยประสบการณ์อันยาวนานด้านการศึกษา จากการบริหารจัดการโรงเรียน Marlborough College ซึ่งเป็นโรงเรียนสหศึกษาเอกชนชื่อดังในประเทศอังกฤษ และผลงานที่ยอดเยี่ยมในการพัฒนาโรงเรียน Marlborough College Malaysia ประกอบกับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกลุ่มโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า โรงเรียนนานาชาติDBS จะมีคุณภาพการศึกษาทัดเทียมโรงเรียนนานาชาติชั้นนำของโลก
เกี่ยวกับ DBS
โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า (Denla British School) หรือ DBS เป็นโรงเรียนในเครือของกลุ่มโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า ที่เปิดสอนโดยใช้หลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนเอกชนในประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 45 ไร่ ถนนราชพฤกษ์ โดยมีคณะผู้บริหาร คือ อาจารย์อารย์ ปาลเดชพงศ์ (ประธานกรรมการบริหารโรงเรียนนานาชาติ DBS) ผศ. ดร. ต่อยศ ปาลเดชพงศ์ (กรรมการบริหารโรงเรียนนานาชาติ DBS) และดร. เต็มยศ ปาลเดชพงศ์ (กรรมการบริหารโรงเรียนนานาชาติ DBS) เปิดรับนักเรียนอายุระหว่าง 3-18 ปี เข้าเรียนในระดับ Early Year 1 จนถึง Year 13 (เทียบเท่าชั้นอนุบาล 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6)
หลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะกับการศึกษาของนักเรียนไทย โดยมีส่วนช่วยเติมเต็มการเรียนรู้ ศักยภาพ และการใช้ชีวิตของนักเรียนได้อย่างมีเอกลักษณ์ โรงเรียนยังสรรหาบุคลากรในระดับแนวหน้าของวงการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีเยี่ยมเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับนักเรียนทุกคน ในปีการศึกษา 2561 เปิดการเรียนการสอนในระดับชั้นอนุบาล 1 (Early Year 1) จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 2 (Year 8) อายุระหว่าง 3-12 ปี และจะเปิดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนถึง Year 13 (อายุ 18 ปี) ในปีต่อๆ ไป
โรงเรียนนานาชาติ Denla British School (DBS) มุ่งเน้นการพัฒนาและส่งเสริมนักเรียนไปตามทิศทางความถนัดของแต่ละคน เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สนุกและน่าสนใจ ทำให้มีความรู้ลึกซึ้งในระดับที่สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้จริง โดยมีครูผู้เชี่ยวชาญคอยชี้แนะแนวทางให้นักเรียนบรรลุเป้าหมายตามศักยภาพของแต่ละคน รวมถึงสามารถสื่อสารได้หลากหลายภาษา ทั้งอังกฤษ ไทย และจีน ได้ดีตามแบบฉบับของเจ้าของภาษา ผนวกกับการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพการเรียนการสอนให้อยู่ในระดับมาตรฐานโลก
ด้านการเรียนการสอน DBS จะใช้ระบบ Extended Day หรือการใช้วันเรียนที่ยาวขึ้น ซึ่งจะเสริมกิจกรรมต่างๆ ให้กับนักเรียนในช่วงเย็น รวมถึงชมรม (Club) ต่างๆ และช่วงเวลาในการทำการบ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวันต่อไป (Prep) ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องอยู่ภายใต้ดูแลอย่างใกล้ชิดของคุณครูประจำ
ที่ DBS มี อาคารสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพเทียบเท่าระดับสากล เช่น อาคารเรียน และห้องเรียนขนาดใหญ่พิเศษ อุปกรณ์การเรียนการสอนครบครัน และเกือบ 50% ของพื้นที่ 45 ไร่ถูกพัฒนาให้เป็นพื้นที่กิจกรรม อาทิ สนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน ปูด้วยหญ้าระดับแข่งขัน (FIFA Preferred 2 Star) พร้อมลู่วิ่งมาตรฐานขนาด 400 เมตร สนามบาสเกตบอล สนามเทนนิส สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ สระว่ายน้ำ (สระน้ำเกลือ) โรงยิมในร่มขนาดใหญ่ โรงละคร ห้องดนตรี ห้องสมุด ห้องศิลปะ 2D และ 3D ห้องเรียนเต้น และห้องกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์: www.dbsbangkok.ac.th
Facebook: www.facebook.com/DBSBangkok
Twitter: DBSBangkok
Line: @DBSBangkok
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!