ปู่ย่าตายายชอบตามใจหลาน พ่อแม่ควรทำอย่างไรดี
ปู่ย่าตายายชอบตามใจหลาน ปัญหาโลกแตกที่หลายแบบต้องเจอ พอบอกว่าอย่าตามใจหลานมากเกินไป อย่าทำแบบนั้นนะเดี๋ยวหลานจะเสียนิสัย หรือบอกให้ท่านเลี้ยงหลานแบบนี้สิ ทำแบบนั้นไม่ดี พอคุณบอกพ่อแม่ท่านก็โกรธ แล้วก็ชวนทะเลาะกันบ่อยๆ ปัญหาเหล่านี้ควรแก้ไขอย่างไร พ่อแม่ที่ต้องให้ปู่ย่าตายายช่วยเลี้ยงหลานควรทำอย่างไร วิธีสงบศึกระหว่างพ่อแม่กับปู่ย่าตายาย มีดังนี้
1. พยายามทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนคงเจอปัญหาเรื่องความเชื่อ หรือวิธีการเลี้ยงลูกตามสไตล์คนยุคเก่าจากปู่ย่าตายายกันาบ้าง เพราะท่านเคยทำมาแบบนั้นแล้วไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้น คุรควรทำความเข้าใจกับท่านก่อน แล้วค่อยอธิบายถึงแนวคิดและวิธีการของคุณเอง เนื่องจากผู้สูงอายุหลายท่านยังมีความเชื่อที่ถูกปลูกฝั่งมาอย่างยาวนาน การจะให้ท่านเปลี่ยนเลยคงเป็นเรื่องยาก ต้องใช้ความอดทนแะการอะิบายให้ท่านฟังอยู่บ่อยๆ ค่ะ
2. ต้องอธิบายให้ชัดเจน
วิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้ปู่ย่าตายายเข้าใจ คือ การเล่าหรืออธิบายถึงความคิด แนวทาง และความคาดหวังของตัวพ่อแม่เอง บองถึงที่มาที่ไป สาเหตุและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เช่น ถ้าต้องการบอกกับปู่ย่าฯ ว่า อย่าให้ลูกกินขนมนะ มันไม่ดี ปู่ย่าฯ ก็อาจรับฟัง แต่ก็ยังแอบให้หลานกินอยู่ และทนเห็นหลานอ้อนไม่ไหว ซึ่งคุรต้องธิบายให้ฟังยาวกว่านั้น
ตัวอย่าง “แม่ อย่าให้หลานทานทานขนมนะ เพราะเดี๋ยวทานขนมแล้วเขาจะไม่กินข้าว พอเขาไม่กินข้าว หรือกินข้าวได้น้อย จะทำให้สุขภาพของหลานแย่นะ ป่วยง่าย ร่างกายเจริญเติบโตช้า ถ้าอยากให้หลานกิน บอกให้หลานกินข้าวก่อนเท่านั้นนะ”
3. ให้ความเคารพท่าน
พ่อแม่หลายคนคงบอกว่า ตอนนี้ก็เคราพท่านอยู่นะ ถึงไม่ก้าขัดใจท่าน แล้วแบบนี้ควรทำอย่างไรดี การเคารพกันเป็นการแสดงความรู้สึกขอบคุณด้สนคำพูดและการกระทำในท่าทางให้ท่านรู้สึกว่า ตัวเขาเองยังมีคุณค่าอยู่ เช่น คุณอาจจะบอกปู่ย่าฯ เวลาที่ท่านช่วยเลี้ยงลูก โดยอาจพูดว่า “ขอบคุณแม่นะ ที่ช่วยเลี้ยงหลานให้ แม่ช่วยได้มากเลยจริงๆ” “แม่ทำอาหารอร่อยมาก ขอบคุณมากนะ”
หลังจากนั้นก็อาจจะพาท่านไปซื้อของให้ท่าน หรือพาท่านไปเลือกซื้อของให้หลานด้วยกันบ้าง ให้ท่านรู้สึกว่าท่านได้มีส่วนร่วม และยังเป็นคนสำคัญของคุรอยู่ แล้วคุณก็คอยอธิบายว่าสิ่งนี้ซื้อไปทำอะไรบ้าง ท่านจะได้เห็นว่าสมัยนี้มีสินค้ามากมายสำหรับเด็ก และออกมาช่วยในเรื่องอะไรบ้างค่ะ
4. พยายามพูดถึงพัฒนาการของลูกร่วมกัน
คุณพ่อคุณแม่อาจจะคุยกับปู่ย่าฯ เรื่องของลูกบ้างว่า ตอนนี้หลานมีพฤติกรรมอย่างไร มีพัฒนาการถึงไหนแล้ว ขั้นตอนต่อไปควรทำอย่างไร พร้อมกับตั้งกฎกติกา และแนวทางในการเลี้ยงลูกร่วมกัน รวมถึงต้องอธิบายให้ชัดเจนว่าถ้าลูกเป็นแบบนี้ควรทำอย่างไร ต้องจัดการแบบนี้ และควรรับมืออย่างไร เพราะเชื่อว่าผู้ใหญ่หลายคนมักจะไม่ทันเด็ก เนื่องจากเด็กจะรู้ว่าคนไหนดุ ไม่ดุ คนไหนที่อ้อนได้ อ้อนไม่ได้ค่ะ
ทำไมต้องมีการเลี้ยงลูกให้เป็นแนวทางเดียวกัน
หลายครอบครัวคงมีแนวทางการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกัน แต่ในครอบครัวของคุณก็อาจมีวิธีการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันไปอีก เช่น พ่อเลี้ยงอีกอย่าง แม่เลี้ยงอีกอย่าง ปู่ย่า ตายายก็เลี้ยงหลานไปอีกแบบ ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะส่งผลเสียต่อเด็กมากกว่า เอาง่ายๆ ว่า คุณเคยเป็นไหมที่เวลาเราอยู่กับพ่อแม่เป็นแบบหนึ่ง อยู่กับตายายก็อีกแบบหนึ่ง ทำให้เด็กเลือกที่จะปฎิบัติตัว บ่อยครั้งพ่อแม่จึงไม่ค่อยเห็นเรื่องผิดๆ กับลูก หรือเวลาที่ลูกทำผิดคุณก็ไม่เชื่อคนอื่น เพราะคุณไม่เคยเห็นลูกทำตัวแบบนั้น ใช่ค่ะ! คุณไม่เคยเห็น เพราะลูกไม่เคยแสดงให้เห็นมากกว่า
ดังนั้น พ่อแม่จึงต้องพยายามเลี้ยงลูกให้เป็นแนวเดียวกัน ลูกจะได้ปฎิบัติตัวเหมือนเดิมกันทั้งต่อหน้าและหลับหลัง โดยที่สมาชิกครอบครัวต้องให้ความร่วมมือ ปฎิบัติตามกฎ และระเบียบเหมือนๆ กันค่ะ แต่ถ้ามีความรู้สึกว่า คุยกับปู่ย่าฯ ทีไรเหมือนจะคุยกันไม่รู้เรื่องต้องทะเลาะกันทุกที อย่าทะเลาะกันต่อหน้าเด็กนะคะ พยายามหาที่คุยกันให้รู้เรื่องจะดีกว่าค่ะ
ปู่ย่าตายายชอบโอ๋หลานเวลาที่ทำผิด ควรทำอย่างไร
ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายถึงวิธีการเลี้ยงลูกให้ท่านเข้าใจก่อน โดยบอกว่าการเลี้ยงแบบนี้เพื่อเป็นการปรับพฤติกรรมของลูกน้อย พยายามหาเหตุผลอธิบายให้ท่านเข้าใจ จากนั้น ลองให้ปู่ย่าฯ มีส่วนร่วมในการตั้งกฎกติกาให้กับลูกน้อย และต้องคอยกำชับให้ท่านรักษากฎด้วยกัน พร้อมๆ กับให้ท่านได้คอยเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเด็กด้วย ปู่ย่าฯ จะได้เห็นถึงผลที่ตามมาร่วมกันค่ะ
ที่มา: Family Health Service
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกแบบนี้ไง ลูกถึงเป็นโรคพฤติกรรมเกเรก้าวร้าว แม่อย่าเมิน! ไม่ใช่เรื่องเล็ก
9 เรื่องจริงจากหัวอก แม่ที่เลี้ยงลูกเอง เท่านั้นจะรู้ซึ้งงงง!!
7 วิธีหลีกเลี่ยง ดราม่าเรื่องลูกกับปู่ย่าตายาย