เลี้ยงลูกยุคใหม่ ต่างจากที่คุณพ่อคุณแม่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเรารู้ดีว่า การเปลี่ยนแปลงจากยุคอนาล็อกสู่ยุคดิจิทัลนั้นไปเร็วอย่างมาก ดังนั้น การเลี้ยงลูกยุคใหม่ จะต้องปรับตัว ปรับความคิดอย่างไร ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ต้องเรียนรู้ไปกับเด็กๆ ด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง วิธีเลี้ยงเด็กยุคใหม่ พ่อแม่ต้องทำไงไม่ให้ลูกกลายเป็นเด็กดื้อด้าน..ไม่รู้จักโต
เลี้ยงลูกยุคใหม่ พ่อแม่ต้องเข้าใจอะไรบ้าง?
ความยากไม่ได้อยู่ที่ยุคสมัย แต่อยู่ที่ความเข้าใจและเรียนรู้ไปกับเด็กๆ พร้อมกัน ที่สำคัญ การเลี้ยงลูกยุคใหม่ ผู้ปกครองต้องใจกว้างเปิดรับการเป็นตัวของตัวเองของเด็กยุคใหม่เรื่องการแสดงออกและความคิดเห็นคอยชี้แนะและปฏิบัติตัวในสังคมอย่างมีความสุข เช่น
1. การเรียนไม่ได้อยู่ในตำรา
การเรียนรู้ของเด็กยุคใหม่ไม่ได้อยู่เพียงแค่ในตำราแล้วค่ะ สมัยนี้การแสดงความคิดเห็นสำคัญมากๆ และการเรียนอยู่ในสื่อเทคโนโลยีอย่างในอินเทอร์เน็ตที่เด็กๆ สามารถท่องโลกออนไลน์ เพื่อเสิร์ชหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักใช้อินเทอร์เน็ต ค้นข้อมูล ควรอธิบายให้ลูกรู้ถึงพิษภัยที่แอบแฝงมาด้วย ดังนั้นควรแนะนำเว็บไซต์การเรียนรู้ภาษา สวนสัตว์ โลกดาราศาสตร์ ประวัติศาสตร์หรือเว็บไซต์ที่มีความรู้สำหรับเด็ก
2. การเรียนรู้ …การเล่น
ปัจจุบันของเล่นที่ดีสำหรับลูกไม่ใช่แค่ตุ๊กตา หุ่นยนต์ แต่นั่น คือ พ่อแม่ ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากสักเพียงใดก็ตาม เด็กทุกคนก็ยังต้องการพ่อแม่ อยากเล่นกับพ่อแม่ ดังนั้น อย่ามองข้ามการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และช่วยพัฒนาสมองได้ดีกว่าการให้ลูกเล่นเกมออนไลน์ที่มีการสื่อสารเพียงด้านเดียว ในบางวันคุณพ่อคุณแม่จึงควรปิดโซเชียลฯ และเกมคอมพิวเตอร์ต่างๆ หันมาใช้เวลากับลูกๆ อย่างธรรมชาติบ้าง หรือพากันไปออกกำลังกาย วิ่งเล่น ทำกิจกรรมบริเวณบ้าน เข้าควรช่วยกันทำอาหาร ปลูกต้นไม้
3. เรียนรู้เรื่องโภชนาการ
อาหารและโภชนาการเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้ร่างกายและสมองของลูกเจริญเติบโต ให้มีน้ำหนักส่วนสูงที่เพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ โดยเฉพาะนมแม่และอาหารที่ครบคุณค่า 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสม ดังนั้น อย่าให้ลูกรับประทานอาหารตามกระแส เช่น อาหารไม่มีประโยชน์ ขนมกรุบกรอบ อาหารขยะที่อุดมไปด้วยแป้ง น้ำตาล เกลือ ที่สำคัญเมื่อลูกถึงวัยเข้าเรียน อย่าปล่อยให้ลูกอดมื้อเช้าเพราะจะส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของสมอง ควรให้ลูกดื่มนม กินขนมปังหรืออาหารที่จัดเตรียมง่ายๆ แต่ดีกับสมอง
4. เรียนรู้ภาษาที่ 2
คุณพ่อคุณแม่ต้องส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้ภาษามากกว่าหนึ่ง ไม่ว่าภาษาที่ 2 จะเป็นอังกฤษ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส การมีภาษาที่ 2 ติดตัวย่อมได้เปรียบในทุกด้าน โดยเฉพาะการประกอบอาชีพการงานในอนาคต อีกทั้งลูกจะได้รับโอกาสที่ดี ได้รับการยอมรับ ไปสู้โลกกว้างอย่างมั่นใจ
5. พ่อแม่คือเพื่อนคู่คิด
การเปิดโลกกว้างทางความคิดที่ดีคือ การเป็นพ่อแม่ที่รับฟังทุกอย่างที่ลูกพูดคุย ปรึกษา แสดงความคิดเห็น พ่อแม่ต้องยอมรับในตัวลูก การพูดคุยตอบโต้ กระตุ้นให้ลูกได้คิด สนใจและไต่ถามถึงความเป็นไปในสิ่งรอบตัว เหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดการเรียนรู้ การพัฒนาของสมองได้ทั้งสิ้น ที่สำคัญต้องยอมรับทุกอย่างในสิ่งที่ลูกเป็น พร้อมทั้งอธิบายว่าสิ่งไหนถูกผิด สิ่งไหนควรทำ ไม่ควรทำ โดยทำเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกได้ซึมซับรับเป็นแบบอย่างในทุกเรื่อง
6. การออกกำลังกายที่เหมาะสม
อย่าให้ยุคเทคโนโลยีมาทำร้ายร่างกายลูกๆ สมัยนี้เด็กมักนั่งจมอยู่กับหน้าจอสมาร์ทโฟน พูดคุยโทรศัพท์ หรือใช้คอมพิวเตอร์มากกว่าออกไปวิ่งเล่น หรือทำกิจกรรม ทำให้เห็นว่าเด็กยุคนี้เป็นโรคอ้วน มีปัญหาสุขภาพและพัฒนาการล่าช้ากันมาก ดังนั้น ควรพาเด็กๆ ไปออกกำลังกาย เช่น กระโดดเชือก เตะบอล ปีนป่ายของเล่น วัย 7-10 ขวบให้ขี่จักรยาน ตีปิงปอง ว่ายน้ำ ถ้าอายุ 10 ขวบขึ้นไปชวนเต้นแอโรบิก ฮูลาฮูป ปั่นจักรยานในสวนสาธารณะ
7. รู้จักเข้าสังคม
มีงานวิจัยกล่าวว่า เด็กที่มีเพื่อนก่อนหรือตั้งแต่เตรียมอนุบาล จะสามารถปรับตัวได้ดีกว่า เด็กที่มีเพื่อนตอนเข้าโรงเรียน เพราะการมีเพื่อนจะช่วยให้ลูกเรียนรู้ทักษะสังคมที่เป็นประโยชน์ เช่น การทำงานเป็นกลุ่ม การเข้าหาผู้อื่น การเอาใจเขามาใส่ใจเรา การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การจัดการปัญหาร่วมกัน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกผูกมิตร เช่น เพื่อนบ้าน รู้จักนำขนมไปฝากเพื่อนบ้าน และคุ้นเคยที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น สอนให้เขาให้สวัสดีเมื่อเจอและบอกลา รู้จักแบ่งปันขนมหรือของเล่นให้เพื่อน เพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนก็ช่วยให้ลูกอยู่ในสังคมโรงเรียนได้อย่างมีความสุข
บทความที่เกี่ยวข้อง: 5 วิธีเลี้ยงลูกยุคใหม่ ให้ดีได้โดยไม่ต้องลงไม้ลงมือ
เด็กแต่ละยุคมีความแตกต่างกันอย่างไร?
เดี๋ยวนี้จะเลี้ยงลูก การจะมายกตัวอย่างว่า “สมัยก่อนแม่ของแม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้กับแม่นะ” คงจะเปรียบเทียบไม่ได้กับหลาย ๆ สถานการณ์ เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากแล้ว เพราะในแต่ละยุคสมัยมีความเปลี่ยนทางสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี ไม่ใช่แค่เลี้ยงลูก คุณพ่อคุณแม่ยังต้องเติบโตไปกับลูก เพื่อเป็นเสาหลักในการเป็นเกราะป้องกัน และเป็นที่ปรึกษาของเด็กๆ ต่อไป
1. คน Generation X
คนที่เกิดปี ค.ศ. 1965-1980 เป็นกลุ่มที่ตอนเด็กก็เคารพผู้ใหญ่ เชื่อฟังพ่อแม่ พ่อแม่สั่งอะไรก็ทำตาม คนยุคนี้ประสบความสำเร็จสูงแต่ส่วนมากด้วยความขยันอดทน
2. คน Generation Y
คนที่เกิดปี ค.ศ. 1980-2000 บางคนตอนนี้อาจจะเป็นพ่อแม่เองแล้ว จะเป็นคนที่มีความมั่นใจสูง รู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างพิเศษและจะเชื่อว่าตัวเองมีความสามารถ
3. เด็ก Generation Z
คนที่เกิดหลังปี 2000 จะมีความรู้สึกว่าตัวเองพิเศษยิ่งกว่า และเชื่อมั่นยิ่งกว่า อะไร ๆ ก็ต้องให้ได้เดี๋ยวนั้น ชีวิตมีเทคโนโลยีมาเป็นส่วนสำคัญ และค่อนข้างติดสบาย
ทั้งนี้ ดร.กุลวดี ทองไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยากับการศึกษา กล่าวว่า เลี้ยงลูกยุคใหม่ ต้องเข้าใจก่อนว่า เด็กยุคใหม่เกิดมาพร้อมกับความปลอดภัยที่สูงขึ้น โลกไม่ค่อยมีสงคราม ความสะดวกสบายมีมากขึ้น ความลำบากน้อยลง พ่อแม่ส่วนใหญ่มีลูกแค่คนเดียวหรือสองคน เด็กจะได้รับการเอาใจใส่มาก หรือมากเกินไปด้วยซ้ำ แต่ข้อดีของเด็กยุคนี้ คือ เขาจะมีความคิดจิตสาธารณะ รักษาสิ่งแวดล้อม มีชีวิตที่มีแบบแผนเป็นระเบียบ และมีความเคารพกฎหมายมากกว่าคนยุคก่อน ๆ เพราะได้รับการปลูกฝังมาดี
ความต้องการของเด็กยุคใหม่โดยทั่วไป (Gen Y และ Z)
- ข้อมูล – ยุคนี้เป็นโลกแห่งเทคโนโลยี ข้อมูลหาได้ไม่ยาก และเด็กจะเคยชินกับการหาคำตอบของทุกอย่างได้ พ่อแม่ก็ควรใฝ่หาความรู้เพื่อตามให้ทันลูก ๆ ด้วย
- Feedback – เด็กโตมาพร้อมกับการอ่านคอมเม้นท์มากมายในเฟสบุ๊ค เขาจะยอมรับได้กับความเห็นจากคนอื่น และก็ต้องการให้คนอื่นเข้ามาสนใจและให้ความเห็นเกี่ยวกับเขาด้วย
- ความเข้าใจเทคโนโลยี – พ่อแม่ควรตามลูกให้ทันเรื่องเทคโนโลยี จะได้คุยกับลูกรู้เรื่อง
- ความเท่าเทียมกัน – นี่คือสิ่งที่ลูก ๆ ได้รับการสอนมาจากทั้งในโรงเรียนและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เพราะฉะนั้น เมื่อไหร่เขาเห็นว่าคุณให้คนอื่นมากหรือน้อยกว่าเขา เด็กจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจ
- ความยุติธรรมและมีเหตุผล – คุณจะสั่งลูกให้ทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลเหมือนที่แม่คุณทำสมัยก่อนไม่ได้หรอก คำว่า “แม่บอกก็ทำสิ” จะใช้ไม่ค่อยได้ผลกับเด็กยุคนี้แล้ว
- การรับฟัง – เหมือนกับที่ลูกพร้อมจะฟังคอมเม้นท์คนอื่น เขาก็อยากให้คนอื่นมารับฟังเขาด้วย อย่างที่บอกไปเด็กมักคิดว่าเขาคือคนพิเศษเสมอ
- คำแนะนำ – เมื่อลูกไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร สิ่งที่เราต้องทำคือเป็นพ่อแม่ที่รอบรู้และให้คำแนะนำ เมื่อเด็กมีความคิดสงสัย เขาจะไม่เก็บไว้คนเดียว
- ความเคารพ – เด็กยุคนี้ต้องการให้พ่อแม่เคารพเขาด้วย ทั้งเคารพเรื่องความคิด การตัดสินใจ ฯลฯ
- กฎระเบียบ – ด้วยการศึกษาที่สอนเรื่องกฎระเบียบมากขึ้น เด็กก็จะคาดหวังให้ทุกอย่างมีระเบียบ และคุณก็ต้องทำตามกฎด้วยนะคะ เพื่อให้ลูกเคารพคุณมากขึ้น
บทความนี้รวบรวมมาจากการบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ จัดโดย International Parenting Network (IPN) ภายใต้หัวข้อ “Challenges of the Millennial Generation: What Parents Need to Know” โดย ดร.กุลวดี ทองไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยากับการศึกษา และอาจารย์สาขาวิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
พ่อแม่ที่อยากหาเครือข่ายผู้ปกครอง เพื่อช่วยพัฒนาการเลี้ยงลูกของตัวเองและพบปะพ่อแม่คนอื่น ๆ สามารถเข้าไปหากิจกรรมและเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับ International Parenting Network (IPN) ได้ที่ ipnthailand.com
บทความที่น่าสนใจ
สอนลูกให้มีความมั่นคงทางอารมณ์
ที่มา: motherandcare