โรคลืมลูก (Forgotten Baby Syndrome) แม่คนไหนก็เป็นได้

คุณอาจคิดว่า ไม่มีวันที่คุณจะลืมลูกไว้ในรถแน่นอน แต่แม่เชื่อไหม โรคลืมลูก Forgotten Baby Syndrome เป็นกลุ่มอาการที่พบได้บ่อยกว่าที่คุณคิด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โรคลืมลูก Forgotten Baby Syndrome

หากคุณขับรถโดยมีเจ้าตัวน้อยนั่งอยู่ด้านหลังในคาร์ซีทและร้องเพลง “The Wheels On The Bus” ไปพร้อมๆ กับลูก คุณอาจคิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่คุณจะลืมลูกไว้ในรถ แต่ถ้าเจ้าตัวน้อยนอนหลับไม่ได้ส่งเสียงอ้อแอ้ให้คุณได้ยินล่ะ? หรือถ้าปกติคุณพ่อเป็นคนไปส่งลูกที่เนอสเซอรี่ แต่วันนี้คุณพ่อไม่สบาย และคุณต้องทำหน้าที่นี้แทนล่ะ?

คุณมีโอกาสที่จะลืมลูกได้จริงๆ และเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คิด ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา จำนวนการเสียชีวิตของเด็กทั่วโลกจากการถูกลืมทิ้งไว้ในรถมีมากถึง 200 คน

พ่อแม่ลืมลูกของตัวเองได้อย่างไร?

กลุ่มอาการโรคหลงลืมเด็กทารก (Forgotten baby syndrome: FBS) เป็นศัพท์ “เทียม” ทางการแพทย์ (Pseudo-medical term) ของการหลงลืมเด็กทารกภายใต้ความดูแลของตนจนเด็กได้รับอันตรายในเวลาต่อมา แม้ว่ากลุ่มอาการโรคนี้จะไม่ใช่อาการทางการแพทย์ แต่ก็เป็นที่ใช้กันแพร่หลายในสื่อต่างๆ

นายแพทย์เดวิด ไดมอนด์ นักประสาทวิทยาและอาจารย์มหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา อธิบายถึงกลุ่มอาการโรคหลงลืมเด็กทารก หรือ Forgotten Baby Syndrome (FBS) ว่าเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมอง 2 ระบบ

Habit Memory คือ เมื่อเราทำอะไรที่เป็นกิจวัตร เราจะทำสิ่งนั้นโดยอัตโนมัติ เช่น ใส่รองเท้าก่อนออกจากบ้าน และล็อคประตูบ้านทุกครั้ง
Prospective Memory คือเมื่อเราวางแผนจะทำอะไรบางอย่างที่ไม่ได้เป็นกิจวัตรที่ต้องทำทุกวัน เช่น ต้องแวะปั๊มน้ำมัน เพื่อเติมน้ำมัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ความจำแบบ Prospective Memory อาจถูกครอบงำด้วยความจำแบบ Habit Memory และทำให้ลืมในสิ่งที่วางแผนไว้ แต่ประสาทอัตโนมัติกลับสั่งให้ทำในสิ่งที่เคยชินแทน

ในกรณีที่คุณไม่ใช่บุคคลหลักที่ไปรับไปส่งลูกที่เนอสเซอรี่ หรือเมื่อคุณต้องพาลูกขึ้นรถไปกับคุณเพื่อทำในสิ่งที่ไม่ใช่กิจวัตรประจำวัน โรคหลงลืมเด็กทารก (Forgotten Baby Syndrome) อาจเกิดกับคุณ

ไม่เว้นแม้แต่สิ่งที่คุณทำเป็นประจำ คุณก็ยังมีโอกาสที่จะลืมได้ ถ้ามีหลายเรื่องที่ต้องจำในเวลาเดียวกัน

ยกตัวอย่างเคสของคริสเตียนเด็กชายวัย 3 ขวบที่คุณแม่ฝากให้คุณยายช่วยไปส่งและไปรับกลับจากเนอสเซอรี่แทน เนื่องจากวันหนึ่งแม่ของคริสเตียนต้องรีบไปทำงาน แต่คุณยายบังเอิญลืมคริสเตียนไว้ในคาร์ซีทเป็นเวลา 10 ชั่วโมง โดยรถของเธอถูกจอดไว้นอกอาคารท่ามกลางความร้อนระอุ เป็นเหตุให้คริสเตียนเสียชีวิต

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อ่านผลที่ตามมาของ โรคลืมลูก และการป้องกัน คลิกหน้าถัดไป

ผลที่ตามมาจากการหลงลืมทารก

คริสโตเฟอร์ เฮนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ที่โรงพยาบาลเด็กคริสโตเฟอร์ในฟิลาเดเฟีย (สหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า ในวันที่มีอุณหภูมิเพียง 22 องศาเซลเซียส แต่อุณหภูมิภายในรถสามารถเพิ่มขึ้นได้ถึง 30-40 องศาภายในหนึ่งชั่วโมง และ 70% ของอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นนี้ เกิดขึ้นใน 30 นาทีแรก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เด็กที่นั่งอยู่ในรถร้อนๆ อาจเกิดฮีทสโตรกหรือโรคลมแดด ซึ่งทำให้เกิดอาการชัก หมดสติ โคม่า การหายใจ ไต และอวัยวะล้มเหลว สมองเกิดความเสียหาย หัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตในที่สุด

บทความแนะนำ ทิ้งเด็กไว้ในรถเพียงครู่เดียวก็เสี่ยงเสียชีวิตจากฮีทสโตรก

เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบเสี่ยงที่สุด

เด็กในช่วงอายุที่มักตกเป็นเหยื่อการเสียชีวิตเพราะถูกลืมไว้ในรถยนต์ ที่พบบ่อยที่สุด คือเด็กอายุน้อยกว่า 1 ขวบ รองลงมาคืออายุน้อยกว่า 2 ขวบ ทั้งนี้เพราะ เด็กทารกยังพูดและบอกคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ว่า เขาถูกลืมทิ้งไว้ในรถ และเขาก็ยังเด็กเกินไปที่จะสามารถหาทางออกจากรถเองได้ ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดสำหรับคุณพ่อคุณแม่และผู้ดูแลเด็กคือ ควรดูให้ดีก่อนล็อครถทุกครั้ง
และแม้ว่าคุณอาจคิดว่า มันจะไม่เกิดขึ้นกับคุณหรอก แต่เพื่อความปลอดภัย เรามีคำแนะนำเพื่อป้องกันการหลงลืมลูกไว้ในรถ มาฝากค่ะ


1. ตรวจเช็คเบาะหลัง และคาร์ซีทให้เป็นนิสัยก่อนที่คุณจะล็อครถทุกครั้ง
2. วางกระเป๋า กระเป๋าสตางค์ รองเท้า โทรศัพท์มือถือไว้ที่เบาะหลัง เพราะเมื่อถึงจุดหมายปลายทางคุณจะได้เปิดประตูหลังเพื่อหยิบข้าวของเหล่านั้น
3. ตั้งระบบเตือนความจำจากโทรศัพท์มือถือก่อนออกเดินทาง ว่าต้องเช็คเบาะหลังก่อนลงจากรถ
4. เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณให้ลูกนั่งอยู่ที่เบาะหลัง ให้วางตุ๊กตาตัวใหญ่ๆ ไว้ที่เบาะหน้าข้างคนขับ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่า เจ้าตัวน้อยของคุณนั่งอยู่ข้างหลังนะ
5. ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในเวลาที่คุณยุ่งมากๆ หรือมีการเปลี่ยนกำหนดการใดๆ หรือเพิ่งมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียด อาจทำให้คุณพะวงกับสิ่งเหล่านั้นมากเกินไปจนลืมเจ้าตัวน้อยของคุณ
6. คุยกับสามีหรือคุณครูพี่เลี้ยงของลูก ให้ช่วยเป็นหูเป็นตา และสามารถแจ้งเตือนคุณแม่เมื่อมีบางอย่างผิดปกติ
7. ไม่ทิ้งลูกไว้ในรถตามลำพัง แม้เพียงไม่กี่นาที เพราะการทำเช่นนี้อาจกลายเป็นนิสัยที่ไม่ดีติดตัวคุณไป และมีโอกาสที่จะลืมลูกได้ในสักวัน
8. ดาวน์โหลดแอพ “Mom I Am Here” ไว้ในมือถือของคุณ เพื่อเตือนว่า เจ้าตัวน้อยของคุณยังอยู่ในรถ
9. ในกรณีที่เจ้าตัวน้อยไปกับคุณพ่อ หรือคุณตาคุณยาย เมื่อถึงจุดหมายปลายทางให้เขาช่วยถ่ายรูปเจ้าตัวน้อยส่งมาให้คุณ เพื่อคุณจะได้มั่นใจว่า จะไม่เกิดการลืมเด็กไว้ในรถโดยไม่ได้ตั้งใจ

ที่มา sg.theasianparent.com

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

เจ๋ง! อุปกรณ์ช่วยเด็กติดในรถ พร้อมส่งสัญญาณแจ้งเตือน

อย่าให้เด็กนั่งอยู่ในรถคนเดียว! 15 นาทีอาจเสียชีวิตได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา