การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินอาหาร ในเด็ก ที่แม่ไม่ควรมองข้าม

แม้อาการไม่สบายท้องกับลูกรักนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่หากเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ก็อาจเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คิด มาหาคำตอบที่ใช่ในการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดกันค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สำหรับเด็กเล็กนั้น ปัญหา ลูกไม่สบายท้อง ท้องอืด เรอหรือผายลมนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่เมื่อลูกของคุณมี การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากระบบทางเดินอาหารของเขานั้นยังไม่สมบูรณ์ เติบโตไม่เต็มที่ จึงทำให้อาจเกิดปัญหาไม่สบายท้องได้ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะว่าเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อพัฒนาการของลูกรัก

 

ข้อสังเกตว่าลูกมี การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินอาหาร

  • งอแง ร้องไห้โยเย ร้องกวน แสดงท่าทางไม่สบายตัว
  • มีอาการโคลิก
  • มีอาการเบื่ออาหาร และทานยาก
  • แหวะนมบ่อย
  • ท้องเสียบ่อย ๆ
  • แน่นท้อง เนื่องจากมีลม มีแก๊สในช่องท้อง
  • ท้องอืด ท้องป่องบ่อย
  • ผายลมบ่อย
  • ตื่นเร็ว นอนยาก หลับไม่สนิท เพราะไม่สบายท้อง น้ำหนักไม่ขึ้น

 

 

สัญญาณ การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินอาหาร

ลูกมีอาการโคลิก

เป็นอาการที่มักพบได้บ่อยในลูกน้อยของคุณ สามารถสังเกตอาการโคลิกได้ง่าย ๆ คือ ลูกของคุณจะมีอาการปวดท้องแบบเจ็บแปลบ ท้องอืดเหมือนมีลม ร้องไห้ไม่หยุดโดยเฉพาะเวลา 6 โมง ถึง 4 ทุ่ม ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นช่วงเวลาหลังจากมื้ออาหารไปแล้วครึ่งชั่วโมงเป็นเวลาเดิมทุกวัน ซึ่งนั่นย่อมหมายความว่า ที่ลูกของคุณร้องนั้นอาจจะไม่ใช่เพราะอาการหิวนมแต่อาจจะเป็นอาการโคลิกนั่นเอง และในบางรายเมื่อเวลาร้องหน้าจะแดง ขางอขึ้นและหดเกร็ง อาการแบบนี้แหละที่เป็นสัญญาณที่คุณควรพาลูกน้อยเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอาการโคลิก ซึ่งถ้าจำเป็นแพทย์จะให้ยาชนิดหยอดเป็นยาคลายการหดเกร็งของลำไส้และยาให้นอนหลับ  ที่เหลือก็อยู่ที่คุณพ่อคุณแม่แล้วล่ะที่ต้องดูแลเรื่องการเลือกขวดนม สิ่งแวดล้อมภายในบ้าน และไล่ลมทุกครั้งหลังจากให้ลูกดูดนม

 

ลูกสะอึก

เป็นอาการที่ไม่ร้ายแรงอะไรมากนัก สามารถพบได้ในเด็กเกือบทุกรายในช่วง 1-2 เดือนแรก ซึ่งอาการนี้มักจะพบหลังจากให้นมคุณหนู ๆ เสร็จ หากเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพบว่าลูกของคุณสะอึก ให้อุ้มลูกน้อยขึ้นพาดบนบ่าแล้วตบหลังเบา ๆ เพื่อไล่ลม หลังจากนั้นอาการสะอึกก็จะหายไปเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ลูกท้องอืด ท้องมีลม

เป็นอาการที่พบได้บ่อยในลูกน้อยเช่นกัน ซึ่งคุณจะสังเกตได้ง่าย ๆ เลยก็คือท้องของลูกน้อยจะป่อง ๆ อืด ๆ ลักษณะดูเหมือนอึดอัดและไม่สบายตัว มีอาการโยเยและงอแงผายลม ลูกแหวะนมหรืออาเจียน ถ่ายเหลว บางครั้งมีน้ำมูกร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดจากการที่กินนมเข้าไปเยอะหรืออาจจะเรอออกไม่เต็มที่ในตอนที่คุณแม่อุ้มเรอนม ซึ่งอาการลูกท้องอืดนี้คุณแม่สามารถรักษาให้หายได้เองในเบื้องต้นด้วยการลอง อาจลดปริมาณนมเล็กน้อย ถ้าอาการลูกท้องอืดดีขึ้นจึงค่อยกลับมาให้นมในปริมาณเท่าเดิม แต่หากลูกมีอาการท้องผูกหรือท้องเฟ้อร่วมด้วยคุณแม่อาจจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาต่อไป

 

ลูกมีฝ้าน้ำนม มีคราบสีขาวบนลิ้น และในช่องปาก

เป็นลักษณะฝ้าขาวเกาะอยู่บนลิ้น ช่องปาก กระพุ้งแก้ม ซึ่งบางครั้งก็อาจจะไม่ใช่เป็นเพียงแค่ฝ้าน้ำนมธรรมดา แต่เป็นเชื้อราในปากที่มักพบได้บ่อยในเด็กที่กินนมผสมแล้วคุณแม่อาจจะล้างจุกนมไม่สะอาดทำให้มีสารปนเปื้อนอยู่ ซึ่งคุณสามารถลองแก้ในเบื้องต้น ด้วยวิธีการเอาผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดที่ลิ้นของคุณหนู ๆ ดู หากรอยฝ้ายังไม่ออกควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาต่อไปเพราะอาจเป็นไปได้ว่าเป็นเชื้อราในช่องปากมากกว่าเป็นฝ้าน้ำนมธรรมดา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ลูกแหวะบ่อย สำรอกบ่อย ทำอย่างไรดี วิธีไหนช่วยไม่ให้ลูกแหวะนม

 

 

ลูกแหวะนม

เป็นอาการที่พบได้ทั่วไปในเด็กแรกเกิด ซึ่งอาการก็จะมีลักษณะเป็นเหมือนเศษนมไหลออกจากปากเล็กน้อย ไม่ใช่ลักษณะของการอาเจียนหรือพุ่งออกมา ดังนั้นคุณแม่ไม่ต้องกังวลไปเพราะการแหวะนมนี้เป็นอาการที่เกิดจากหูรูดบริเวณปากกระเพาะอาหารยังไม่กระชับนักทำให้เมื่อหนูน้อยดูดนมมากก็จะเกิดการไหลย้อนเอ่อออกมาทางปากนั่นเอง และเมื่อโตขึ้นอาการลูกแหวะนมนี้ก็จะหายไปในที่สุด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ลูกอาเจียน

อาการอาเจียนจะเป็นอาการที่แตกต่างจากการแหวะนมธรรมดา เพราะเป็นลักษณะที่นมจะพุ่งออกมาอย่างรุนแรงจากปากเด็ก และน้ำนมที่ออกมาจะมีกลิ่นเปรี้ยว ๆ คุณแม่สามารถจัดการอาการเหล่านี้ได้ด้วยการตบไล่ลมเบา ๆ ทุกครั้งหลังดูดนม หากไม่หายหรืออาเจียนออกมาเป็นสีของน้ำดี สีเขียว ๆ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจมีโรคอื่นแทรกซ้อน

 

ไวรัสลงกระเพาะในเด็ก

โรคนี้ส่วนใหญ่จะพบในเด็กโตขึ้นมาสักหน่อย จะมีลักษณะอาการคล้าย ๆ กับไข้หวัดทั่วไป มีไข้ ตัวร้อน ไอ จาม และในบางรายอาจมีอาการอาเจียน ไม่รับประทานอาหารหรือนม หรือถ่ายเหลวร่วมด้วย ซึ่งความรุนแรงของอาการจะขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของเด็กด้วย คุณแม่สามารถดูแลในเบื้องต้นด้วยการให้ยาลดไข้ หากอาเจียนก็ให้ดื่มเกลือแร่ ดูแลสุขภาพอนามัยความสะอาดให้ดี ล้างมือทุกครั้งก่อนทำอาหาร และหากพบว่ามีอาการอาเจียน ไม่ดีขึ้นและเป็นหนักควรไปพบแพทย์ทันที

 

ลูกสำลักนม

ส่วนใหญ่แล้วหากคุณแม่ให้ลูกดูดนมจากแม่โดยตรงก็มักจะไม่พบปัญหาอะไร เพราะน้ำนมจะไหลต่อเมื่อลูกดูดเท่านั้น แต่หากในคุณแม่ที่ให้น้ำนมจากขวดนม น้ำนมจะไหลไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าคุณหนู ๆ จะดูดหรือไม่ก็ตาม จึงทำให้เกิดการสำลักได้ง่าย ยิ่งหากจุกนมผิดขนาดแล้วก็จะยิ่งทำให้ลูกสำลักได้ง่ายยิ่งขึ้น เมื่อมีการสำลักรุนแรง ไอรุนแรง และมีอาการหน้าเขียวร่วมด้วย คุณแม่อาจลองเปลี่ยนขนาดของจุกนมใหม่ให้เหมาะกับลูกน้อยในวัยนั้น ๆ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ลูกสำลักนม เกิดจากอะไร จะเป็นอันตรายหรือไม่ พ่อแม่ควรรับมืออย่างไรดี

 

 

การเลือกอาหารสำหรับลูกน้อยวัย 0-1 ปี

แน่นอนว่าอาหารที่เหมาะกับลูกน้อยของคุณมากที่สุดในช่วง 1 ปีแรกคงจะหนีไม่พ้นนมแม่ ซึ่งโดยปกติแล้วเราจะเน้นให้นมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 0-3 เดือนแรก และเมื่อเริ่มเข้าสู่เดือนต่อ ๆ มาก็จะยังคงมีการให้นมแม่เหมือนเช่นเดิมแต่อาจจะเพิ่มอาหารอื่น ๆ เข้าไปด้วย อย่างเช่น ในเดือนที่ 4 คุณแม่จำเป็นต้องเพิ่มข้าวบดผสมไข่แดงสุก ¼ ฟอง และน้ำแกงจืด สลับกับกล้วยน้ำว้าสุกบด พอเดือนที่ 5 ให้เปลี่ยนเป็นข้าวบดผสมเนื้อปลาบดและน้ำแกงจืด สลับไข่แดงต้มสุก 1 ฟอง เพื่อเพิ่มสารอาหารที่จำเป็น พอเข้าสู่เดือนที่ 6 คุณแม่อาจจะเพิ่มการให้ผักสุกบดและผลไม้สุกเข้าไปด้วย และเพิ่มเนื้อสัตว์หรือตับบดสลับกับปลาและไข่ เข้าไปในมื้ออาหารเมื่อถึงเดือนที่ 7 หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่เดือนที่ 8-10 ให้คุณแม่เพิ่มการให้อาหารอื่น ๆ เป็น 2 มื้อ และเมื่อใกล้ครบขวบปีแรกแล้วคุณแม่ก็สามารถให้อาหารลูกน้อยได้เหมือนในเดือนที่ผ่าน ๆ มาแต่เปลี่ยนเป็น 3 มื้อแทน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

อาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน

สำหรับวัยนี้เป็นวัยแห่งการเจริญเติบโตของเด็ก ซึ่งช่วงนี้เด็กจะมีพัฒนาการที่รวดเร็วมาก และสิ่งหนึ่งที่คุณแม่ควรใส่ใจคือเรื่องของอาหารการกินของลูกน้อย ดังนั้นใน 1 วัน คุณแม่ควรเลือกอาหารที่เหมาะสมและไม่ควรให้คุณหนูๆ ขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต ซึ่งจะประกอบไปด้วย นม 2 ถ้วย, ไข่ (สุก) 1 ฟอง หรือ 3-4 ช้อนโต๊ะ, เนื้อสัตว์ (สุก) 2-3 ช้อนโต๊ะ, ข้าวสวยหรืออาหารแป้งและผัก 1/2 – 1 ถ้วย, ผลไม้ มื้อละ 1/2 – 1 ผล และไขมันหรือน้ำมัน 2 ช้อนชา เพียงเท่านี้ลูกน้อยของคุณก็จะได้สารอาหารที่ครบใน 1 วัน

 

เมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารในเด็ก คุณแม่อาจจะลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต หรือหนังสือ เพื่อแก้ไขในเบื้องต้นก่อน หากลองแล้วยังไม่ดีขึ้น อยากให้คุณแม่ลองปรึกษาแพทย์ดูเพื่อแก้ไข เพราะอาการต่าง ๆ ของเด็กนั้นอาจรุนแรงและมีความเสี่ยงอื่น ๆ ตามมาได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความสะอาดเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเด็ก ไม่ว่าจะเป็น การล้างขวดนม จุกนม หรือการทำอาหารให้กับลูกน้อย ล้างภาชนะ ล้างผักและผลไม้ให้สะอาดทุกครั้ง ก็เป็นสิ่งที่คุณแม่สามารถทำได้เองเพื่อลดการเกิดโรคระบบทางเดินอาหารและช่วยให้โภชนาการในเด็กมีสุขอนามัยที่ดี ให้ลูกน้อยที่น่ารักของคุณจะได้แข็งแรงสมบูรณ์ เจริญเติบโตตามวัยต่อไป

 

ความสำคัญของระบบทางเดินอาหาร ต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของลูก

อาการท้องอืด รวมถึงอาการอื่น ๆ เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารของลูกนั้น เป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่ต้องใส่ใจ เพราะระบบทางเดินอาหารนั้นเป็นกลไกสำคัญของชีวิต มีความสำคัญต่อพัฒนาการทั้งร่างกาย สมอง และจิตใจของลูกรักโดยตรง การดูแลให้ลูกรักมีสุขภาพของระบบทางเดินอาหารที่ดี จะช่วยให้ระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายรวมถึงสมอง ทำงานได้เป็นปกติ มีพัฒนาการที่แข็งแรง เปิดโอกาสในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องของลูกรัก

 

นมสูตรย่อยง่าย คำตอบที่ใช่ ช่วยให้ลูกสบายท้อง

เมื่อลูกเติบโตขึ้น ระบบทางเดินอาหารของพวกเขานั้นจะค่อย ๆ แข็งแรงขึ้นตามวัย แต่ถ้าหากลูกยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารอยู่ เช่นยังแหวะนม ท้องอืดหลังกินนม คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์และขอคำแนะนำเกี่ยวกับ นมสูตรย่อยง่าย หรือหากสังเกตที่ข้างกระป๋อง จะมีคำว่า PHP (Partially Hydrolyzed Protein) เป็นจุดสังเกตให้คุณแม่สามารถหาได้ง่ายขึ้น ซึ่งนมสูตรนี้จะมีการย่อยขนาดของโปรตีนในนมให้เล็กลง มีแล็กโทสต่ำ เพื่อให้ลูกสามารถย่อยและดูดซึมได้ง่ายขึ้น และสามารถช่วยลดอาการไม่สบายท้องของลูกลงได้ และเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางสมองและระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ก็ควรเลือกนมสูตรย่อยง่ายที่มี MFGM และ DHA ด้วยนะคะ

และคุณแม่ก็ควรดูแลอาหารมื้อหลักให้มีสารอาหารครบถ้วนครบ 5 หมู่ เพื่อให้ลูกได้รับโภชนาการที่เหมาะสม และเสริมด้วยนมสูตรย่อยง่าย ที่มีส่วนผสมของ PHP โปรตีนนมที่ผ่านการย่อยบางส่วน ก็จะช่วยให้ระบบทางเดินอาหารมีสุขภาพดี สบายท้อง และพร้อมเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ลูกเบื่ออาหาร ควรทำยังไง? มารับมือกับสิ่งเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กัน

7 วิธีสังเกตอาการ ลูกร้องโคลิก

10 อาหารที่ลูกกินได้ก่อนอายุ 1 ขวบ อาหารอะไรบ้างที่เด็กอ่อนต้องการ

ที่มา : yanhee

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team