สอบเข้า ป.1 กำลังจะถูกกำจัด พ่อแม่เห็นด้วยหรือไม่ถ้ามีการปฎิรูป

สอบเข้า ป.1 สนามสอบของเด็กที่กำลังขึ้นชั้นประถม ยิ่งถ้าเป็นโรงเรียนเรียนดังยิ่งมีการแข่งขันที่ดุเดือด ทำให้พ่อแม่คาดหวังในตัวลูกสูงมากจึงให้ลูกเรียนพิเศษเพิ่มเติมมากมาย จากปัญหานี้ทำให้มีข่าวมาว่าจะยกเลิกการสอบของเด็ก จริงหรือไม่ มาหาคำตอบกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สอบเข้า ป.1 กำลังจะถูกกำจัด จริงหรือไม่?

สอบเข้า ป.1 ช่วงนี้พ่อแม่ที่มีลูกน้อยอยู่ในวัยที่ต้องเข้าเรียนขั้นประถมคงลุ้นกันตัวโก่ง ว่าลูกจะเข้าโรงเรียนที่หวังไว้หรือเปล่า เพราะใครๆ ก็อยากให้ลูกได้เรียนโรงเรียนดีๆ มีชื่อเสียงกันทั้งนั้น แน่นอนว่าจำนวนนักเรียนที่แต่ละโรงเรียนสามารถรับได้นั้นมีปริมาณน้อยกว่านักเรียนที่มาสมัครหลายเท่า ทำให้อัตราการแข่งขันค่อนข้างสูงถึง 1:30 จากปัญหานี้จึงมีกระแสออกมาว่าจะงดให้เด็กสอบเข้า ป.1 สรุปแล้วตอนนี้ดำเนินการถึงไหนแล้ว ทาง TheAsianparent จะพาไปหาคำตอบกันคะ

เมื่อการแข่งขันสูง อัตราเด็กที่สมัครสอบต่อจำนวนที่รับได้ช่างต่างกันมากขนาดนี้ พ่อแม่จึงยิ่งคาดหวังให้ลูกสอบติดเข้าไปใหญ่ จึงพากันให้ลูกเรียนกวดวิชากันตั้งแต่เล็กๆ เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่สงครามแย่งชิงที่นั่งในโรงเรียนดังๆ กันอย่างเข้มข้นเลยทีเดียว บางคนก็พาลูกตะเวนไปสมัครสอบหลายๆ สนามเพื่อให้ลูกเก็บไว้เป็นตัวเลือกอีกด้วย

ล่าสุดที่สนามสอบของโรงเรียนสาธิตแห่งหนึ่งมีเด็กมาสมัครสอบมากถึง 3,000 คน แต่โรงเรียนสามารถรับนักเรียนได้เพียง 100 คนเท่านั้น เป็นการแข่งที่ดุเดือดมากจริงๆ ส่วนโรงเรียนสาธิตอีกแห่งหนึ่ง พบว่ามีผู้ปกครองพาลูกๆ ไปสมัครสอบกันตั้งแต่เช้า ทำให้สนามสอบแห่งนี้มีจำนวนมากกว่า 2,000 คน แต่รับได้เพียง 100 คนเท่านั้น

สอบเข้า ป.1

เนื่องจากการแข่งขันที่สูงตลอดหลายปี ทางคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาจึงได้มีการยกร่างกฎหมายการปฐมวัยแห่งชาติว่าด้วยมาตรา 31 เพื่อเป็นการปกป้องพัฒนาการเด็กปฐมวัย ห้ามมิให้สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ และโรงเรียนตามกฎหมาย โรงเรียนเอกชนรับเด็กปฐมวัยเข้าศึกษาโดยใช้วิธีการสอบคัดเลือกหรือทดสอบสมรรถนะ คุณลักษณะ ความรู้ หรือความสามารถอื่นใดของเด็กปฐมวัยรวมถึงการฝากเด็กปฐมวัยเข้าเรียนในสถานศึกษาด้วย

ทั้งยังมีร่าง พ.ร.บ.ปฐมวัย ที่ระบุห้ามไม่ให้มีการสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียนชั้น ป.1 ในโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อป้องกันเด็กและลดการสร้างความกดดันในเด็กปฐมวัย ที่มีอายุตั้งแต่ 0 ขวบไปจนถึง 8 ขวบ และจะเป็นทางออกสำคัญในการสร้างการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเด็กในอนาคต ซึ่งขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. นี้ได้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องผ่านความเห็นก่อน

รับสมัครสอบเข้า ป.1

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การปฏิรูปครั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักๆ คือ ต้องการไม่ให้มีการสอบคัดเลือกในระดับปฐมวัย ซึ่งหมายถึงเด็กในวัยอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เนื่องจากเด็กวัยนี้ยังต้องการที่จะเล่นและรู้จักตนเองอย่างสนุกสนาน มากกว่าการที่เรียนอัดความรู้ทางวิชาการ เพราะอาจเป็นผลกระทบที่ไม่ดีสำหรับเด็ก เนื่องจากการสอบแข่งขันเข้า ป.1 ส่วนใหญ่เป็นความต้องการของพ่อแม่มากกว่า

 

ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว กล่าวว่า เพราะพ่อแม่มีความกลัว กลัวว่าลูกไม่เก่งเหมือนคนอื่น กลัวลูกไม่ฉลาดเท่าคนอื่น และถ้าเข้าโรงเรียนดีๆ ได้ แสดงว่าจะได้เจอแต่เด็กเก่งๆ ถ้าคิดแบบนี้แสดงว่าผู้ปกครองกำลังยัดเยียดการสอบแข่งขันให้กับเด็กแบบไม่ถูกต้อง แล้วสมัยนี้คนออกข้อสอบก็ออกข้อสอบยากกว่าเดิมมากกว่าแค่บวกลบคูณหารที่เด็กวัยนี้ต้องรู้ กลับเป็นข้อสอบแก้สมการทางคณิตศาสตร์ที่ยากกว่าเดิม แน่นอนว่าเด็กต้องเรียนมากกว่าเพื่อที่จะได้ทำข้อสอบได้นั่นเอง

ข้อสอบสอบเข้า ป.1

ทาง รศ.ดารณี ในฐานะอดีตอาจารย์ใหญ่โรงเรียนสาธิตฯ เกษตรศาสตร์ และสอนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้มานานกว่า 30 ปี กล่าวว่า “แม้ร่าง พ.ร.บ.ปฐมวัย จะมีมาตราที่ห้ามสอบ พร้อมกับบทลงโทษว่าหากโรงเรียนใดฝ่าฝืนเปิดสอบแข่งขัน จะมีโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท แต่ก็มีอีกเสียงจากคณะกรรมการเห็นว่า หากฝ่าฝืนเกิน 3 ครั้งก็ควรจะยึดใบอนุญาตโรงเรียนไปเลย ซึ่งบางส่วนก็เห็นว่าเหมาะสม และอีกบางส่วนก็เห็นว่ารุนแรงเกินไป แต่ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะต้องผ่านการระดมความคิดเห็นกันอีก ก่อนจะเสร็จอย่างสมบูรณ์ ซึ่งขณะนี้ยังคงเป็นเพียงแนวทางเท่านั้น”

“โรงเรียนควรมีสัดส่วนระหว่างครูกับนักเรียนที่เหมาะสม ไม่ใช่ว่ามากระจุกในห้องเรียนถึง 50-60 คน เด็กจะได้รับการใส่ใจที่มากกว่า และโรงเรียนดังๆ มักจะแข่งขันกันแต่เรื่องของวิชาการมากกว่าการเล่นเพื่อเรียนรู้ เด็กที่ยังไม่พร้อมแต่เข้าไปเรียนได้ก็ต้องสอบตกถามว่าเด็กจะมีความสุขหรือไม่ โรงเรียนที่ดังๆ ทั้งหลายก็ไม่ได้การันตีความสุขให้กับเด็ก เด็กสมควรที่จะต้องมารับความกดดันขนาดนี้หรือไม่” รศ.ดารณี ตั้งคำถาม

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พ.ร.บ. ที่ออกมาก็เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กมีการสอบคัดเลือกเข้าเรียนเพราะจะทำให้เด็กกดดัน และถูกยัดเยียดให้เรียนพิเศษเพื่อจะได้แข่งกับคนอื่นได้ แล้วกรณีที่โณงเรียนดังๆ มีเด็กที่เข้าสมัครสอบแข่งขันจำนวนมากจะทำอย่างไร จะเป็นช่องว่างในการใช้เงินเพื่อเข้าเรียนหรือเปล่าอันนี้ต้องรอดูต่อไปว่าการปฎิรูปจะออกมาแนวไหน แล้วคุณพ่อคุณแม่ล่ะคิดอย่างไรบ้าง ถ้าลูกเราต้องมาเจอกฎแบบนี้

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ที่มา: posttoday, moe, thaipbs


The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว

การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง

เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

พ่อแม่กดดันลูก คาดหวังลูกมากเกินไป ระวังลูกป่วยเป็นจิตเวช

สอนลูกให้มีวินัย ฉลาดสมวัยต้องเลี้ยงลูกแบบ EF

ปิดเทอมให้ลูกทำอะไรดี กิจกรรมช่วงปิดเทอมที่ลูกทำแล้วไม่เบื่อ

ฝึกลูกวัยเรียนนั่งถูกท่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้

เคล็ดลับบำรุงสมอง และเตรียมร่างกายลูกรักให้แข็งแรง พร้อมสำหรับการเรียนรู้อยู่เสมอ

ทำไมถึงเลือก โรงเรียนนานาชาติเอกมัย ประสบการณ์ตรงจากคุณแม่ (School Hit)

แม่ต้องรู้! 2 สารอาหารมหัศจรรย์ เพื่อการเรียนรู้ไวกว่า ทางรอดเดียวของเด็กยุคโลกหมุนไว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Khunsiri