ภาวะซึมเศร้าจากการทำงาน  วิธีดูแลสุขภาพจิตในช่วงทำงานที่บ้าน

แน่นอนว่าไม่ได้เกิดกับคุณเพียงคนเดียว ความเศร้าความวิตกกังวลการสูญเสียแรงจูงใจ ความยากลำบากในการจดจ่อกับงาน หรือบางครั้ง การร้องไห้ที่ไม่สามารถอธิบายได้ และความเบื่อหน่าย เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของอาการที่เกิดขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภาวะซึมเศร้าจากการทำงาน  วิธีดูแลสุขภาพจิตของคุณในการทำงาน เชื่อว่าคุณแม่และสาวๆ เหล่า Working Women ทั้งหลาย บางครั้งอาจมีอาการแบบนี้ ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว หากคุณรู้สึกหดหู่เวลาทำงาน ต้องบอกเลยว่า ช่วงพักหลังมานี้บทความสุขภาพจิต หลายบทความชี้แจ้งว่า  ภาวะซึมเศร้าจากการทำงาน เกิดขึ้นได้ง่ายและมากยิ่งขึ้น การปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต  จาก ศูนย์สุขภาพจิตอาจเป็นสิ่งจำเป็น  และในยุคนี้เป็นเรื่องทั่วไปและการรักษาสุขภาพจิตเป็นเรื่องเข้าถึงง่ายขึ้น

ดังนั้นหากคุณมีอาการนี้การดูแลสุขภาพจิตควรเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ และแน่นอนว่าไม่ได้เกิดกับคุณเพียงคนเดียวอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายในยุคสมัยนี้ ความเศร้าความวิตกกังวลการสูญเสียแรงจูงใจ ความยากลำบากในการจดจ่อกับงาน หรือบางครั้ง การร้องไห้ที่ไม่สามารถอธิบายได้ และความเบื่อหน่าย เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของอาการที่เกิดขึ้น

จากข้อมูลเชิงสถิติพบว่า ภาวะซึมเศร้าจากการทำงาน ส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่ชาวอเมริกันมากกว่า 17 ล้านคนในแต่ละปี และข้อมูลจากการสำรวจ State of Mental Health สุขภาพจิตภาษาอังกฤษในอเมริกาปี 2021 แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ขอความช่วยเหลือสำหรับภาวะซึมเศร้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากปี 2019 จนมาถึง ปี2021 และปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต มากขึ้นเช่นกัน

วิธีดูแลสุขภาพจิตของคุณในการทำงาน Work From Home

มีผู้ที่เข้ารับการสำรวจภาวะซึมเศร้าเพิ่มขึ้น 62 เปอร์เซ็นต์และในบรรดาคนเหล่านั้น 8 ใน 10 คนได้รับการทดสอบในเชิงบวกสำหรับอาการของภาวะซึมเศร้าในระดับปานกลางถึงรุนแรง หากคุณพิจารณาดูดีดีจะเห็นว่า พนักงานประจำใช้เวลาโดยเฉลี่ย 8.5 ชั่วโมงต่อวันในการทำงานในวันธรรมดา และ 5.5 ชั่วโมงในการทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดตามสถิติของสำนักงานแรงงาน

ดังนั้นการดูแลสุขภาพจิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่น่าแปลกใจเลยที่พนักงานจำนวนมากจะมีอาการซึมเศร้า ขณะอยู่ในงาน หรือความรับผิดชอบจากงานที่ต้องทำ แม้กระทั่งวันหยุดก็ยังแทบไม่ได้หยุดนั้น จึงอาจเกิดภาวะซึมเศร้าจากการทำงานได้ เหตุใดงานจึงอาจกระตุ้นให้เกิดอาการซึมเศร้า และมีหนทางใดที่คุณสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แต่รู้สึกดีและมีความสุขมากขึ้น วันนี้เรามาแนะนำไอเดีย และการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต และการศึกษาข้อมูลสุขภาพจิตคืออะไร เรามีคำตอบและคำแนะนำในบทความนี้

 

ภาวะซึมเศร้าจากการทำงาน คืออะไร?

ศูนย์สุขภาพจิต ให้ข้อมูลเพิ่มเติม แม้ว่างานจะไม่ก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้า แต่สภาพแวดล้อมอาจทำให้อาการแย่ลงสำหรับผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าอยู่แล้ว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภาวะซึมเศร้าจากการทำงาน

 

“ สถานที่ทำงานหรืองานใด ๆ อาจเป็นสาเหตุที่เป็นไปได้หรือปัจจัยที่เอื้อให้เกิดภาวะซึมเศร้าขึ้นอยู่กับระดับของความเครียดได้” จิตแพทย์จาก Community Psychiatry ศูนย์สุขภาพจิต กล่าวไว้ จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (World Health OrganizationTrusted Source: WHO) เน้นย้ำ สภาพแวดล้อมในการทำงานเชิงลบสามารถนำไปสู่:

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ความกังวลด้านสุขภาพจิตและร่างกาย
  • การขาดงาน
  • สูญเสียผลผลิต
  • การใช้สารเพิ่มขึ้น

Mental Health America บทความสุขภาพจิต ข้อมูลสุขภาพจิตภาษาอังกฤษรายงานว่าภาวะซึมเศร้าเป็นปัญหาสามอันดับแรกในที่ทำงาน สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือพนักงาน เช่นเดียวกับสภาวะสุขภาพอื่น ๆ ดังนั้น กล่าวว่าการรับรู้และการตรวจพบในระยะแรกเป็นกุญแจสำคัญมากค่ะ

“ อาการซึมเศร้าเป็นภาวะที่ซับซ้อนซึ่งมีการแสดงออกของความคิดความรู้สึกและพฤติกรรมที่หลากหลายซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทุกคนที่มีอาการนี้และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและไม่เกี่ยวข้องกับงานอาจมีบทบาทมากขึ้น ต้องพิจารณารายบุคคล”

อะไรคือสัญญาณของภาวะซึมเศร้าในการทำงาน?

 

วิธีดูแลสุขภาพจิตของคุณในการทำงาน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ศูนย์สุขภาพจิต ให้ข้อมูลว่า อาการของโรคซึมเศร้าในที่ทำงานคล้ายกับอาการซึมเศร้าทั่วไป และนำไปสู่ภาวะทางสุขภาพจิต ที่กล่าวว่าบางคนอาจดูเฉพาะเจาะจงมากขึ้นสำหรับสถานที่ทำงาน ภาวะซึมเศร้านี้จะส่งผลต่อระดับการทำงานของคุณเช่นเดียวกับการทำงานที่บ้าน  หรือ Work From Home

อาการซึมเศร้าในการทำงานที่พบบ่อย ได้แก่ :

  • เพิ่มระดับความวิตกกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องจัดการกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดหรือคิดถึงงานเมื่อคุณไม่อยู่จากงาน ความรู้สึกโดยรวมของความเบื่อหน่ายและไม่มีความพึงพอใจเกี่ยวกับงานของคุณ
  • พลังงานต่ำและขาดแรงจูงใจในการทำสิ่งต่างๆซึ่งบางครั้งอาจแสดงให้เห็นว่าเป็นความเบื่อหน่ายในงาน
  • ความรู้สึกเศร้าหรืออารมณ์ต่ำอย่างต่อเนื่องหรือเป็นเวลานาน
  • การสูญเสียความสนใจในงานในที่ทำงานโดยเฉพาะหน้าที่ที่คุณเคยรู้สึกประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ แต่กลับไม่ภูมิใจในตัวเองในช่วงเวลานี้ และกล่าวโทษตัวเอง
  • ความรู้สึกสิ้นหวังหมดหนทางไร้ค่าหรือรู้สึกผิดอย่างท่วมท้น
  • ไม่สามารถมีสมาธิหรือใส่ใจกับงานการทำงานและปัญหาในการเก็บรักษาหรือจดจำสิ่งต่างๆโดยเฉพาะข้อมูลใหม่ ๆ
  • ทำข้อผิดพลาดมากเกินไปในงานประจำวัน
  • การเพิ่มหรือลดน้ำหนักหรือความอยากอาหารมากจนเกินไป ในด้านใดด้านหนึ่ง
  • การเจ็บปวดทางร่างกายเช่นปวดหัวอ่อนเพลียและปวดท้อง
  • ขาดลาเพิ่มขึ้นหรือมาสายและออกก่อนเวลาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
  • ความสามารถในการตัดสินใจบกพร่องและลดน้อยลง
  • ขาดความมั่นใจในการทำงาน ประสิทธิภาพการทำงานลดลงอย่างชัดเจน
  • ความหงุดหงิดเพิ่มความโกรธและความอดทนต่อความขุ่นมัวรู้สึกไม่ดีกับตัวเองและผู้อื่นอยุ่ตลอดเวลา
  • บางครั้งร้องไห้หรือน้ำตาไหลในที่ทำงานโดยมีหรือไม่มีสิ่งกระตุ้นใด ๆ ที่ชัดเจน
  • ปัญหาในการนอนหลับหรือนอนหลับมากเกินไป (เช่นการงีบหลับในเวลาทำงานปกติ)
  • การใช้ยาด้วยตนเอง หรือใช้แอลกอฮอล์ในการบำบัดหรือสารต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรระวัง

 

เมื่อเราทราบอาการ ที่เกิดขึ้น เรามาหาสาเหตุ ว่าทำไมคุณอาจรู้สึกหดหู่ในการทำงานและส่งผลให้เกิดโรคซึมเศร้าจากการทำงาน กรมสุขภาพจิตความเครียดชี้แจงจากข้อมูลการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิจตามประสบการณ์ของบุคคลรายบุคลลที่พบเจอ ซึ่งสรุปให้เห็นว่าสถานการณ์โดยรวมต่อไปนี้ อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าในการทำงานได้ ได้แก่

อาการซึมเศร้าในการทำงานที่พบบ่อย พร้อมวิธีแก้

  • รู้สึกเหมือนคุณควบคุมปัญหาเรื่องงานไม่ได้
  • รู้สึกว่างานของคุณตกอยู่ในอันตราย รู้สึกไม่ปลอดภัย
  • ทำงานในสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษ
  • ทำงานหนักเกินไปหรือได้รับค่าจ้างน้อยเกินไป
  • ประสบปัญหาการล่วงละเมิดในที่ทำงานหรือการเลือกปฏิบัติ
  • ทำงานผิดปกติหลายชั่วโมงติดกันเป็นเวลานาน
  • ขาดความสมดุลระหว่างที่ทำงานและที่บ้าน
  • ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่ตรงกับค่านิยมส่วนตัวของคุณ
  • ทำงานที่ไม่ทำให้เป้าหมายในอาชีพของคุณไกลขึ้น
  • ประสบกับสภาพการทำงานที่ไม่ดีหรือไม่ปลอดภัยทางร่างกายและจิตใจ

 

ความเครียดจากการทำงานเทียบกับภาวะซึมเศร้าจากการทำงาน

เป็นเรื่องปกติ ที่จะประสบกับความเครียดในที่ทำงาน แต่อย่าเพิกเฉยต่อความรู้สึกหดหู่ สิ่งสำคัญคือต้องทราบความแตกต่าง เพราะดูแล้วอาจมีอาการใกล้เคียงกัน ต้องพิจารณาดีดี

 

  • ความเครียดจากการทำงาน
  • ความเครียดที่ลดลงเมื่องานนั้นๆผ่านไป
  • ความรู้สึกกังวลและหงุดหงิดเป็นครั้งคราว
  • ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อหรือปวดหัวบางครั้งคราว
  • ภาวะซึมเศร้าในการทำงาน
  • เพิ่มความรู้สึกเศร้าและร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ
  • ความรู้สึกวิตกกังวลอย่างต่อเนื่อง จนไม่สามารถหาทางออกได้
  • ขาดโฟกัสและสมาธิอย่างหนัก ในการทำงาน
  • รู้สึกเบื่อและไม่สมหวังในงานของคุณไม่พอใจกับงาน ท้อแท้ สิ้นหวัง และรุ้สึกไม่ภูมิใจในตัวเองเป็นระยะเวลานาน

 

เมื่อเราทราบอาการและสาเหตุแล้ว ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ช่วงนี้อาจเป็นช่วงที่คุณแม่หรือสาวๆหลายๆท่าน ทำงาน Work From Home แต่อย่างไรก็ตาม ภาวะซึมเศร้า จากการทำงาน อาจเพิ่มมากขึ้นซะด้วยซ้ำการดูแลสุขภาพจิตที่ดี ถ้างานหนักและไม่เป็นระบบมากกว่าเดิม ดังนั้น เรามีวิธีแก้ไข และเป็นเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆมาฝากกันค่ะ สำหรับช่วงเวลาการทำงานที่บ้าน เพื่อทำให้ไม่เกิดภาวะซึมเศร้านี้เคล็ดลับในการปรับสุขภาพจิตของคุณในขณะทำงานWork From Home

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความสุขภาพจิต แนะนำว่า หากการทำงานจากที่บ้านเป็นเรื่อง “ปกติ” ใหม่ของคุณ อย่างน้อยตอนนี้คุณอาจกำลังรู้สึกวิตกกังวลความเครียดและภาวะซึมเศร้าเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหลาย ๆ คนอาจจะทำงานมากกว่าปกติหลายชั่วโมงเนื่องจากอาจเป็นเรื่องยากที่จะติดตามงานเวลาขณะอยู่ที่บ้านจริงไหมคะ

เคล็ดลับในการปรับสุขภาพจิตของคุณในขณะทำงานWork From Home

“ เป็นเรื่องธรรมดามากที่จะจมดิ่งจากปัจจัยเหล่านี้และรู้สึกหดหู่หรือวิตกกังวลมากยิ่งขึ้น”  แนะนำว่าการทำงานระยะไกลเป็นเวลานานสามารถสร้างอุปสรรคทางอารมณ์ร่างกายและการเงินมากมายสำหรับแต่ละบุคคลต่อไปนี้ กรมสุขภาพจิตความเครียดแนะนำว่า มีวิธีแก้ที่คุณสามารถทำได้เมื่อความรู้สึกเหล่านั้นปรากฏขึ้นนะคะ

  • ออกจากบ้านไปเดินเล่นบ้าง หรือนั่งพักในสวนหน้าบ้านหรือระเบียงคอนโดค่ะ
  • แยกพื้นที่ทำงานของคุณออกจากส่วนอื่น ๆ ของบ้าน
  • กำจัดความยุ่งเหยิงรอบโต๊ะทำงานของคุณ
  • ฝึกสติสมาธิ 5 นาทีในตอนเช้าตอนบ่ายและก่อนที่จะเริ่มการทำงาน
  • โทรหาเพื่อนที่ไม่ได้ทำงานร่วมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงประเด็นการทำงานที่ต้องเจอในทุกวัน
  • ถอยห่างจากหน้าจอคอมบ้าง อย่าอยู่หน้าจอตลอดทั้งวัน
  • หยุดพัก 10 นาทีจากโต๊ะทำงานหรือที่ทำงาน
  • เดินเล่นอย่างรวดเร็วในช่วงพักแม้ว่าจะอยู่ในร่ม แต่การออกกำลังกายก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับสุขภาพจิต
  • ใช้เวลาบางวันฝึกสุขภาพจิต ฝึกสติสัมปชัญญะสักสองสามนาที
  • รวมแบบฝึกหัดการหายใจเข้าลึก ๆ เข้ากับวันทำงานของคุณ
  • ช่วงพักควรพัก หรือพักดูวิดีโอตลก ๆ คลายเครียดก็ช่วยได้ค่ะ
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะยิ่งเครียดเรามีแนวโน้มจะหยิบสิ่งที่ไม่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้น วางผลไม้หรือธัญพืชไว้ข้างตัวเสมอค่ะ

สร้างบรรยากาศชวนทำงาน

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วการส่งเสริมสุขภาพจิต แนะนำว่า การมีอาการซึมเศร้าขณะทำงานอาจทำให้รู้สึกหนักใจแน่ๆจริงไหมคะ ยิ่งมีสัญญาณรุนแรงมากขึ้น เช่นวิตกกังวลร้องไห้ เบื่อและขาดความสนใจยิ่งทำให้การทำงานลดประสิทธิภาพ และกำลังใจยิ่งถดถอย

หากคุณกังวลเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้าในการทำงาน ให้ลองปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต กับคนที่คุณไว้ใจ หรืออาจเจรจาและติดต่อหัวหน้างานหรือฝ่ายทรัพยากรบุคคล และนอกจากนั้น คุณยังสามารถขอรับการรักษาผ่านนักบำบัดโรคหรือนักจิตวิทยา ถือเป็นเรื่องปกติ ในการขอคำปรึกษาค่ะ  จำไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว และสามารถข้ามผ่านช่วงเวลาตรงนี้ได้อย่างแน่นอนค่ะ

อาจลองเอาเทคนิคที่ทางเรานำฝากไปลองใช้ดู ผ่อนคลายลง แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ไม่สามารถควบคุมได้แล้วจริงๆ  หากคุณไม่พร้อมที่จะติดต่อที่ทำงาน ให้นัดหมายกับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต หรือโทร Hotline เกี่ยวกับสุขภาพจิต ติดต่อกรมส่งเสริมสุขภาพจิต หรือแม้แต่คุยกับเพื่อนที่ไม่เกี่ยวข้องกับที่ทำงาน หาบทความสุขภาพจิตเพิ่มเติม ก็เป็นทางออกที่ดีที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ

ที่มา : healthline

บทความประกอบ :

ที่ปรึกษาสุขภาพจิตคืออะไร? รู้ได้อย่างไรว่าต้องได้รับการรักษา ควรปรึกษากับใคร?

แค่เศร้า หรือเข้าข่ายเป็น “โรคซึมเศร้า” โรคซึมเศร้าในวัยรุ่น

โรคซึมเศร้า พาคุณแม่มาเช็คอาการโรคซึมเศร้า คุณมีอาการเหล่านี้หรือยัง?

บทความโดย

Thippaya Trangtulakan