ใช้สิทธิ ประกันสังคม ตรวจไวรัสโคโรน่า (COVID-19)
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ทุกคนเฝ้าระวังเชื้อไวรัสกัน เพราะเริ่มมีการแพร่ระบาดมากขึ้น โดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ประเทศกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ถ้าหากสงสัยว่าตัวเองติดเชื้อหรือไม่ แล้วอยากตรวจหาเชื้อไวรัส จะต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ไขข้อสงสัย การใช้สิทธิ ประกันสังคม ตรวจไวรัสโคโรน่า ตรวจ COVID-19 เบิกได้มั้ย มีค่าใช้จ่ายส่วนไหนบ้าง
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ไวรัสอู่ฮั่น หรือโควิด-19 (COVID-19) ทำให้คนที่มีอาการเป็นหวัด ไข้ขึ้น เริ่มเกิดความสงสัย ว่าตัวเองติดเชื้อไวรัส COVID-19 หรือไม่ หรือเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา แต่การตรวจหาเชื้อไวรัสชนิดนี้ ก็ยังต้องใช้เวลา แถมยังมีค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร
ทางด้านสำนักงานประกันสังคม ก็ได้เผยข้อมูลไว้ว่า สำหรับผู้ประกันตนที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ มีอาการไข้ขึ้นสูง ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หรือหายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และขอให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาพยาบาลที่ผู้ประกันตนเลือก
กรณีหากพบว่าผู้ประกันตนมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยได้ประสานให้สถานพยาบาลคู่สัญญา 242 แห่ง และเครือข่ายทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมในการรักษา ตามขั้นตอนกระบวนการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยผู้ประกันตนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ถ้าหากเริ่มสงสัยว่าตัวเองจะติดเชื้อไวรัส COVID-19 แล้วอยากใช้สิทธิรักษาฟรีจากประกันสังคม คือต้องมีอาการที่บ่งบอกว่าเสี่ยงติดเชื้อไวรัสค่ะ เช่น ไข้สูง ไอ มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ รวมไปถึงมีประวัติการเดินทางกลับจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยง หากไปโรงพยาบาล แล้วหมอวินิจฉัยว่าเข้าค่ายกลุ่มเสี่ยง ตรงส่วนนี้ประกันสังคมครอบคลุม แพทย์จะส่งตรวจโคโรน่า โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
แต่ถ้าหากว่ามีประวัติเดินทางไปต่างประเทศมา แต่ยังไม่แสดงอาการใดใด แค่สงสัยว่าตัวเองจะติดเชื้อไวรัส COVID-19 หรือไม่ แล้วอยากตรวจหาเชื้อไวรัสเองเพื่อความสบายใจ ตรงส่วนนี้ประกันสังคมไม่ครอบคลุมค่ะ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อเอง ซึ่งราคาค่อนข้างสูง อยู่ที่ประมาณ 7,000 บาทขึ้นไป แล้วแต่โรงพยาบาล
ทั้งนี้มีคนที่สงสัยว่าตัวเองจะติดเชื้อ ก็เลยไปตรวจ COVID-19 โดยใช้สิทธิประกันสังคม แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดใดมาแล้ว เธอได้แชร์ประสบการณ์และขั้นตอนการตรวจผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เราเลยขอหยิบเคสนี้มาแชร์ให้ดูกันค่ะ
เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Plernpin Jintakan ได้ออกมาเล่าเรื่องราวขั้นตอนใช้สิทธิประกันสังคม ตรวจไวรัสโคโรน่า โดยเธอเล่าว่าได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมา ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศว่า ประเทศญี่ปุ่นมีเชื้อไวรัสแพร่กระจายอยู่ในระดับ 3 ถ้าไม่จำเป็นให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปเที่ยว แต่ตอนนั้นเธออยู่ญี่ปุ่นแล้ว
ระหว่างที่อยู่ญี่ปุ่นก็เซฟตัวเองอย่างดี พอกลับมาสักพักแล้วไข้ขึ้น ปวดเมื่อยตามร่างกาย แต่ไม่มีอาการจาม ไม่มีน้ำมูก ไม่มีอาการเหนื่อยหอบ ไม่ได้เจ็บคอรุนแรง แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เลยรีบมาพบแพทย์ โดยเธอได้ใช้สิทธิประกันสังคมที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พอมาถึงพยาบาลพาไปที่ห้องแยก เป็นห้องคัดกรองเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวังโคโรน่า ปิดโซนเพื่อไม่ให้มีผู้ป่วยประเภทอื่นเข้ามา
STEP 1 : 8.30 – 10.00 น. ตรวจเบื้องต้น
ตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด ตรวจจมูกแบบไข้หวัดใหญ่ (ไม้ยาวแหย่ลงจมูก) เนื่องจากเรามี ประวัติการเดินทางไปที่ประเทศที่มีภาวะเสี่ยง
STEP 2 : 11.00 น. เข้าพบคุณหมอ
คุณหมอและพยาบาลมาในชุดป้องกัน ร่างกาย ตา จมูก เพราะเราถือว่าเป็นผู้เข้าข่ายต้องเฝ้าระวัง แล้วก็ซักประวัติ ว่าเรามีพฤติกรรมตอนไปเที่ยวต่างประเทศอย่างไร เก็บตัวอย่าง การตรวจจมูกแบบไข้หวัดใหญ่ (ไม้ยาวแหย่จมูก) ตรวจคอ (ไม้ยาวแหย่ลงคอ)
STEP 3 : 12.00 น. พยาบาลแจ้งว่าเป็นผู้ป่วยเฝ้าระวัง
พยาบาลมาแจ้งว่า เราได้ขึ้นทะเบียนกับสาธารณสุขว่าเป็นผู้ป่วยต้องเฝ้าระวัง ต้องทำการกักตัวและดูอาการที่ห้องปลอดเชื้อ ICU พอเซ็นเอกสารยืนยันเข้ารับการรักษา ก็รอเข้าไปที่ห้อง ICU
STEP 4 : 13.00 น. เข้ามาที่ห้อง ICU
ห้องปลอดเชื้อ เป็นห้องเดี่ยว ๆ ที่ไม่มีอากาศภายนอกเข้ามาได้ ไม่มีทีวี มีแต่เครื่องตรวจวัดตามร่างกาย 5 จุด เครื่องให้ออกซิเจน และเครื่องวัดความดัน ที่จะวัดทุก ๆ 1 ชั่วโมง รายงานผลจอมอนิเตอร์ แล้วจะมีการวัดไข้ทุก 4 ชั่วโมง แล้วต้องใส่ออกซิเจนเพิ่มเติม เพราะว่าร่างกายมีออกซิเจนต่ำ ห้ามลงจากเตียง เจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาในห้องทุกครั้งต้องสวมชุดป้องกันหมด
STEP 5 : 17.00 น. คุณหมอเข้ามาตรวจ
คุณหมอได้เข้ามาตรวจปอด ตรวจคอ ตรวจออกซิเจนในร่างกาย แล้วพูดคุยกับเรา รวมถึงอธิบายให้ฟัง ว่าผลตรวจที่กำลังจะออกเป็นผลที่แน่ชัด มีการตรวจลึกถึงรหัสพันธุกรรม ถ้าเกิดไม่มีเชื้อก็สามารถกลับบ้านได้ แต่ถ้ามีเชื้อก็ต้องทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
STEP 6 : 01.00 น. ผลตรวจเลือดออกมาแล้ว แต่ตอนนั้นเราหลับอยู่ พยาบาลไม่ได้ปลุก
STEP 7 : 05.30 น. พยาบาลมาแจ้งผลตอนเช้า
ผลตรวจออกมาว่าเป็นลบ ไม่มีเชื้อโคโรน่า เป็นแค่ไข้ธรรมดา พยาบาลเอาใบผลมาให้เราดูเพื่อความสบายใจ และพยาบาลก็มาแจ้งให้เราย้ายไปห้องปกติ เพื่อรอพบคุณหมอช่วงเช้า
STEP 8 : 07.00 น. พยาบาลมาตรวจคลื่นหัวใจ แล้วสแกนปอดอีกครั้ง
STEP 9 : 14.00 น. หมอให้กลับบ้านได้ หมอแจ้งว่าร่างกายปลอดภัยจากไวรัส 100% แต่ถ้าหากมีไข้ในระยะนี้ให้กลับมาโรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อเช็คเชื้อไวรัสอีกรอบ เพราะอาจจะมีเปอร์เซ็นต์ที่อาจจะติดก็ได้แม้ว่าจะน้อยมาก ให้กักตัวเองต่ออีกจนครบ 14 วัน แล้วกลับมาพบแพทย์ตามนัดอีกครั้ง
ทั้งนี้เธอได้ย้ำว่า ประกันสังคมดูแลทุกค่าใช้จ่าย ครอบคลุมทุกการรักษา ดังนั้นถ้าหากเดินทางไปต่างประเทศมา ร่างกายแสดงอาการสุ่มเสี่ยง ให้รีบเดินทางไปโรงพยาบาลโดยด่วน ถ้าหากแจ้งข้อมูลแล้วหมอวินิจฉัยให้ส่งตรวจโคโรน่า สามารถใช้สิทธิประกันสังคมตรวจฟรีได้เลย ตรวจเร็ว รู้เร็ว เซฟทั้งตัวเอง และลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปสู่คนรอบข้างด้วยค่ะ
ที่มา : 1 www.facebook.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
7 วิธีป้องกันไวรัสโคโรน่า ไวรัสอู่ฮั่น นอกเหนือจากการใส่หน้ากากอนามัย
อาหารต้านโรค! สุดยอด 10 อาหารต้านไวรัส ยิ่งกิน ยิ่งแข็งแรง
ดีใจด้วยจ้า! หญิงท้องแก่ติดไวรัสโคโรนา คลอดลูกน้อยแล้ว ปลอดภัยทั้งแม่ลูก