ลูกมีอาการไข้ ไอ และหายใจหอบเหนื่อย ระวังโรคปอดบวมนะคะ

lead image

น้องต้นหอมอายุ 4 ปี มีอาการ ไข้ ไอ มากขึ้นเรื่อยๆใน 3 วัน คุณแม่พามาพบหมอหลังจากที่สังเกตว่าน้องเริ่มมีอาการหายใจเร็ว ซึมลง และบ่นว่าเหนื่อย เมื่อตรวจแล้วหมอจึงให้การวินิจฉัยว่าเป็น ”โรคปอดบวม” ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคยอดฮิตสำหรับฤดูหนาวเช่นนี้ และได้อธิบาย ให้ข้อมูลแก่คุณแม่เพิ่มเติมดังนี้ค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โรคปอดบวมในเด็ก

โรคปอดบวมคืออะไร?

โรคปอดบวม หรือโรคปอดอักเสบติดเชื้อ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ ได้ทั้ง ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา เกิดได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทำให้ร่างกายมีปฏิกริยาทำลายเชื้อโรค มีการอักเสบ ซึ่งส่งผลให้เซลล์ที่เป็นส่วนประกอบของปอดบวมและมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อเชื้อโรคถูกกำจัดจะเกิดปฏิกริยาของร่างกายทำให้มีของเหลวอยู่ในถุงลมของปอด ทำให้ปอดทำงานได้ไม่เต็มที่ ผู้ป่วยจึงมีอาการหายใจเหนื่อยได้

อาการของโรคปอดบวมมีอะไรบ้าง?

ผู้ป่วยโรคปอดบวมจะมีอาการ ไข้ ไอ หายใจเร็วกว่าปกติ และหอบเหนื่อย โดยช่วงแรกอาจมีอาการไข้ต่ำ ๆ ไอนิด ๆ หน่อย ๆ คล้ายกับเป็นไข้หวัดธรรมดา ต่อมาจึงมีอาการไอมากขึ้นจนเหนื่อย และหายใจเร็วผิดปกติ

คุณพ่อคุณแม่สามารถนับอัตราการหายใจของลูกได้ โดยนับ การหายใจเข้าและออกเป็น 1 ครั้ง นับให้ครบ 1 นาที อัตราการหายใจปกติตามอายุเด็กเป็นดังนี้ค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อายุน้อยกว่า 2 เดือน หายใจ ไม่เกิน 60 ครั้ง ต่อ นาที
อายุ 2 เดือน ถึง 1 ปี หายใจ ไม่เกิน 50 ครั้ง ต่อ นาที
อายุ 1 ปีขึ้นไป ถึง 5 ปี หายใจ ไม่เกิน 40 ครั้ง ต่อ นาที

หากมีการหายใจที่เร็วกว่านี้ ถือว่าผิดปกติ โดยขณะที่นับเด็กควรจะสงบ ไม่ร้องดิ้นหรือกลั้นหายใจ ถ้ามีอาการหายใจและชายโครงบุ๋มหรือมีเสียงดังร่วมด้วยแสดงว่ามีอาการมาก

ทั้งนี้ ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ไม่แน่ใจว่าลูกมีอาการหอบเหนื่อยหรือไม่ก็ควรรีบมาพบคุณหมอเพื่อประเมินอาการนะคะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ลูกติดเชื้อโรคปอดบวมมาได้อย่างไร?

เนื่องจากโรคปอดบวมเป็นโรคติดต่อของระบบทางเดินหายใจ การติดต่อจึงเหมือนกับไข้หวัดธรรมดา จะเกิดขึ้นตอนที่ผู้ป่วยไอ-จาม แล้วลูกได้หายใจเอาเชื้อโรคเข้าไปในปอดโดยตรง โดยเฉพาะในบริเวณที่สาธารณะมีคนอยู่มาก ๆ

รวมทั้งโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือ ลูกได้เข้าไปคลุกคลีใกล้ชิด สัมผัสเพื่อน ๆ หรือผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นโรคปอดบวมโดยไม่รู้ตัว จึงเป็นสาเหตุให้โรคนี้ติดกันง่ายโดยเฉพาะในเด็ก ๆ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

หากลูกเป็นโรคปอดบวมควรทำอย่างไร?

หากสงสัยว่าลูกเป็นโรคปอดบวม คุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาไปพบคุณหมอเพื่อประเมินอาการและความรุนแรงของโรคทันทีนะคะ ถ้าคุณหมอตรวจแล้วว่ามีอาการไม่รุนแรงก็จะให้ยามาทานและดูอาการที่บ้าน โดย ดื่มน้ำเยอะ ๆ ทานอาหารให้เพียงพอ พักผ่อนมาก ๆ แต่หากลูกมีอาการหายใจเหนื่อยมากขึ้น ซึม ไข้สูง ทานอาหารและดื่มน้ำไม่ได้ ก็ควรรีบกลับไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลค่ะ

เราจะสามารถป้องกันไม่ให้ลูกเป็นโรคปอดบวมได้อย่างไร?

คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันลูกจากการเป็นโรคนี้ได้โดยหลีกเลี่ยงการพาลูกไปยังสิ่งแวดล้อมที่มีคนหนาแน่น เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ โดยเฉพาะเด็กเล็กซึ่งมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ควรสอนให้ลูกหลีกเลี่ยงการไปใกล้ชิดกับผู้ป่วยหรือเพื่อนที่มีอาการไอ-จาม สอนลูกให้รู้จักการล้างมือที่ถูกต้อง นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกไปรับวัคซีนป้องกันโรคปอดบวมจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ นิวโมคอคคัส และ ฮิบ ได้ โดยอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับวัคซีนเหล่านี้ได้ในบทความเรื่อง “มารู้จักวัคซีนเสริมสำหรับเด็กกันดีกว่า” ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 ที่หมอเคยเขียนไว้ค่ะ

ลูกมีอาการคันตามากเกิดจากเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ได้หรือไม่?

5 อาการป่วยของลูกที่ยังไม่ต้องรีบไปพบคุณหมอ