ช่วงเวลาที่ลูกน้อยเริ่มหัดกิน หัดหยิบของเข้าปาก หนึ่งในอุบัติเหตุที่คนเป็นพ่อแม่กลัวที่สุด ก็คือ การสำลักอาหาร หรือสิ่งแปลกปลอมติดคอ สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนั้นคือ “สติ” ที่จะนำไปสู่ “การช่วยเหลือที่ถูกวิธี”ค่ะ และวันนี้ เรามีข้อมูลที่สำคัญมากๆ ซึ่งเป็นการอัปเดตครั้งใหม่ล่าสุดสำหรับปี 2025 เกี่ยวกับ วิธีช่วยเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปีสำลักอาหาร มาฝาก โดยเพจห้องฉุกเฉินต้องรู้ แชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัยทารกต้องรู้ วิธีใหม่ที่แนะนำ และวิธีไหนควรเลิกทำ ดังนี้
วิธีช่วยเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปีสำลักอาหาร ฉบับปรับปรุงใหม่ ปี 2025
ช่วยเด็กอายุน้อยกว่าหนึ่งปีสำลักอาหาร ฉบับปรับปรุงใหม่ ปี ค.ศ. 2025
สำลักอาหารสมบูรณ์หรือรุนแรง หมายถึง อาหารหรือสิ่งแปลกปลอมติดคอหรือหลอดลม เด็กร้องไม่มีเสียง ตัวเขียว
การช่วยเหลือ ให้เปิดอ้าปาก หากเห็นอาหาร หรือสิ่งแปลกปลอมในปาก ให้ใช้นิ้วหยิบออก
แต่หากไม่เห็น ไม่แนะนำให้ล้วงไปมั่วๆครับ เพราะอาจทำให้เศษอาหารถูกดันลงลึกมากขึ้น
หากไม่เห็นเศษอาหาร ให้จับเด็กนอนคว่ำใช้ส้นมือตบไปกลางหลังตำแหน่งกึ่งกลางสะบักของเด็ก ทุบไปห้าครั้ง เศษอาหารอาจหลุดออกมา
หากไม่หลุด ให้จับเด็กนอนหงายใช้ส้นมือตบที่กึ่งกลางหน้าอก ห้าครั้งเศษอาหารอาจหลุดออกมา

X ท่าที่ไม่แนะนำอีกแล้ว X คือ ใช้สองนิ้วกดหน้าอกอีกเนื่องจากแรงกดลึกไม่พอที่เศษอาหารจะหลุดได้
หากเศษอาหารยังไม่หลุดอีกให้ตบหลัง 5ครั้ง และตบหน้าอก ห้าครั้งสลับกันไป
หากเด็กหมดสติไปแล้ว ในสันนิษฐานว่าหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว ระหว่างนี้ตะโกนขอความช่วยเหลือ
เริ่มทำการปั๊มหัวใจกดหน้าอกทันที

การปั๊มหัวใจเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี X ไม่แนะนำกดหน้าอกด้วยสองนิ้วมือเดียวอีกแล้ว X หมายถึงใช้มือเดียว แต่เอานิ้วชี้กับนิ้วกลางประกบกันคล้ายตะเกียบ วิธีนี้ไม่แนะนำ เพราะแรงกดหน้าอกไม่มากพอ
ยังคงแนะนำให้ใช้การโอบรอบหน้าอกเด็ก ด้วยสองมือของเราและใช้นิ้วโป้งของสองมือกดตรงกลางหน้าอกของเด็ก เพื่อปั๊มหัวใจ

อีกวิธีใหม่ในฉบับปรับปรุงปี ค.ศ. 2025 คือการใช้ส้นมือเดียวกดหน้าอก
งานวิจัยพบว่ากดหน้าอกได้ลึกมากกว่าการใช้วิธีสองนิ้วโป้งกดเสียอีก เพิ่มประสิทธิภาพให้เลือดออกจากหัวใจไปเลี้ยงสมองขณะปั๊มหัวใจได้ดี
แต่มีข้อควรระวัง คือ อัตราเร็วในการกดหน้าอกอาจทำได้ไม่ดีเท่าการกดด้วยวิธีสองนิ้วโป้ง
คุณหมอได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมไว้ว่า..
ข้อคิดเห็นของผมเอง ในภาพนี้ผมถ่ายทำเอง ในตำราของสมาคมโรคหัวใจอเมริกา มีเพียงภาพวาด
ผมก็ไม่เคยเห็นใครใช้ส้นมือเดียวกดหน้าอกเด็กอายุน้อยกว่า1ปีมาก่อนเลย ผมจึงจำลองสถานการณ์ครับ แต่ผมเพิ่มรายละเอียดของภาพโดยใช้มืออีกข้างของผมจับหน้าผากเด็กเพื่อเปิดทางเดินหายใจไปพร้อมกัน และช่วยยึดให้ลำตัวเด็กอยู่นิ่ง ไม่เคลื่อนไปมาตามแรงกดหน้าอกครับ
คาดว่าน่าจะมีภาพและความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญฉุกเฉินและสถาบันการศึกษาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ลำดับถัดไปครับ
ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
เนื้อหาเพื่อการศึกษาเท่านั้น
#PediatricBasicLifeSupport
2025 American Heart Association and American Academy of Pediatrics Guidelines for Cardiopulmonary Resuscitation and Emergency Cardiovascular Care
ที่มา: เพจห้องฉุกเฉินต้องรู้
“กันไว้ดีกว่าแก้” วิธีป้องกันลูกสำลักอาหาร
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณแม่ได้ทราบ วิธีช่วยเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปีสำลักอาหาร อย่างถูกต้องแล้ว แต่ความรู้ที่ดีที่สุดคือ การป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นค่ะ เราจึงมีคำแนะนำ วิธีป้องกันลูกสำลักอาหารมาฝาก ดังนี้
1. หั่นอาหารให้ถูกขนาด
สำหรับเด็กเล็กวัย BLW หรือหัดกิน
- อาหารทรงกลม (อันตรายที่สุด!): องุ่น มะเขือเทศราชินี ลูกชิ้น ไส้กรอก ต้องหั่น 4 ส่วน โดยหั่นครึ่ง แล้วหั่นครึ่งอีกทีเสมอ ห้ามให้ทั้งลูก!
- อาหารเนื้อแข็ง: แอปเปิ้ล แครอท ควรนึ่งหรือต้มให้นิ่มก่อน หรือขูดเป็นฝอย
- อาหารเหนียว: เนยถั่ว ชีสยืด ควรทาบางๆ บนขนมปัง อย่าให้เป็นก้อน ชีสควรหั่นฝอย
- อาหารต้องห้าม (สำหรับวัยนี้): ถั่วลิสง หรือถั่วทั้งเมล็ด ป๊อปคอร์น มาร์ชเมลโล่
2. สร้างบรรยากาศการกินที่ปลอดภัย
- นั่งกินเสมอ: ให้ลูกนั่งบน High Chair หรือนั่งกินเป็นที่เป็นทาง ห้ามเดินไปกินไป หรือนอนกิน
- ไม่เร่ง ไม่ป้อนยัด: ให้ลูกใช้เวลาของตัวเองในการเคี้ยวและกลืน
- ไม่ดุ ไม่แกล้ง: อย่าทำให้ลูกหัวเราะ ร้องไห้ หรือตกใจขณะที่อาหารเต็มปาก
3. สำรวจสิ่งแวดล้อม (นอกเหนือจากอาหาร)
เด็กวัยนี้ชอบหยิบทุกอย่างเข้าปาก จึงควรเก็บของชิ้นเล็กๆ ให้พ้นมือลูก เช่น เหรียญ กระดุม แบตเตอรี่ก้อนเล็ก ของเล่นชิ้นเล็กๆ ยางลบ ฯลฯ
สรุป
การเปลี่ยนแปลงหลักๆ สำหรับ วิธีช่วยเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปีสำลักอาหาร ในปี 2025 ที่เราต้องจำให้ขึ้นใจคือ “ไม่แนะนำการใช้สองนิ้ว” ทั้งในการช่วยสำลัก และการ CPR แบบเก่า และหันมาเน้น “การใช้ส้นมือ” ที่ให้แรงกดได้ลึกและมีประสิทธิภาพมากกว่า
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ แต่การเตรียมพร้อมคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด TheAsianparent อยากให้คุณแม่ ลองหาตุ๊กตามาซ้อมจัดท่า ตบหลัง ตบหน้าอกด้วยส้นมือดูค่ะ และที่สำคัญที่สุด แบ่งปันบทความนี้ให้ทุกคนในบ้านอ่าน ทั้งคุณพ่อ คุณปู่คุณย่า และพี่เลี้ยงเด็ก ทุกคนที่ดูแลลูกต้องรู้วิธีที่ถูกต้องเหมือนกัน
ขอให้คุณแม่มั่นใจนะคะว่า ถ้าวันนั้นมาถึง คุณแม่จะตั้งสติและช่วยเหลือลูกน้อยได้อย่างถูกต้องแน่นอนค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
วิธีดูแลลูกเมื่อมีไข้ โดยราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ ฉบับอัพเดทล่าสุด!
วิธีเคาะปอด ระบายเสมหะ ช่วยลูกหายใจโล่ง (มีคลิป) ทำตามได้เลย!
แม่แชร์ “อุทาหรณ์ลูกเป็นหวัด” แต่กลับต้องผ่าตัดที่เท้า!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!