คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อลูกน้อยของแม่ ๆ ที่อยู่ในครรภ์ได้ และในบางเรื่องอาจจะไม่มีข้อห้ามสำหรับคนท้องแต่ก็อยากจะให้แม่ท้องทำตัวอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ของคุณแม่นั้นมีโอกาสที่จะคลอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบและแข็งแรงมากที่สุด เรามาดูกันดีกว่าว่า คนท้องเล่นน้ำทะเลได้ไหม ?
คนท้องไปเที่ยวทะเล สามารถลงเล่นน้ำได้หรือไม่?
คนท้องนั้นสามารถที่จะลงเล่นน้ำทะเลได้นะคะ เพราะด้วยระบบของคนเราแล้ว น้ำทะเลไม่สามารถที่จะเข้าไปถึงเจ้าตัวน้อยของเราที่อยู่ในครรภ์ได้ แต่อย่างไรก็ตามแม่ท้องก็ควรที่จะระมัดระวังด้วย เพราะเราก็ไม่อาจทราบได้ว่าในน้ำทะเลมีสารอะไรปนเปื้อนไหม หรือมีเชื้อโรคต่าง ๆ นา ๆ ปนมากับน้ำหรือเปล่านั้นเองค่ะ
คนท้องสามารถที่จะนั่งเรือได้หรือไม่?
แม่ท้องสามารถที่จะนั่งเรือได้นะคะ แต่ต้องนั่งเรือที่ไม่มีแรงกระแทกอย่างรุนแรง หรือแม่ ๆ ลองนึกภาพตามนะคะเรือที่เป็นเรือโดยสารลำใหญ่ ๆ ที่มีคนเยอะ ๆ อันนั้นแม่ ๆ สามารถนั่งได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่อประเภท เรือหางยาว เรือสปีดโบ๊ท ประเภทที่กระแทกกับคลื่นแบบรุนแรงแบบนั้น ไม่แนะนำให้แม่ ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์นั่งค่ะ เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อลูกน้อยได้ค่ะ
แม่ท้องสามารถที่จะนั่งเครื่องบินได้หรือเปล่า?
คนท้องนั้นสามารถที่จะนั่งเครื่องบินได้ค่ะ แต่ในบางเคสที่แบบว่าอายุครรภ์อ่อน ๆ แล้วมีอาการแท้งคุกคาม หรือสภาวะที่เสี่ยงต่าง ๆ ไม่แนะนำให้เดินทางโดยเครื่องบินค่ะ เพราะอาจเกิดแรงกระแทกหรือเครื่องบินตกหลุมอากาศได้ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 14รสชาติ โซจู ต้องลอง แต่แม่ท้องกินโซจูได้ไหม เปรี้ยวปากอยากดื่มทำไงดี
ข้อห้ามสำหรับแม่ท้อง สิ่งสำคัญที่แม่ท้องไม่ควรทำระหว่างตั้งครรภ์
- งดแอลกอฮอร์ทุกชนิด
การดื่มแอลกอฮอร์ไม่ว่าจะปริมาณน้อยหรือมากแม่ท้องก็ไม่ควรดื่มเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะแอลกอฮอร์นั้นสามารถที่จะส่งผ่านรกเข้าไปสู่ลูกน้อยของเราได้อย่างรวดเร็ว คุณแม่ท่านไหนที่ดื่มแอลกอฮอร์บ่อยจะส่งผลกระทบกับสมองและระบบเซลล์ต่าง ๆ ของลูกน้อยทำให้เซลล์เหล่านั้นไม่พัฒนา หรือเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ หรือไม่มีโอกาศที่จะได้กำเนิดออกมาลืมตาดูโลกเลยก็ว่าได้ค่ะ
- ลดคาเฟอีน
อาหารที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนนั้นสามารถรับประทานได้ในระหว่างที่ตั้งครรภ์ แต่การที่รับประทานมากจนเกินไปก็ส่งผลกระทบได้ค่ะ ทั้งคาเฟอีนจากกาแฟ โกโก้ ชา น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง หรือแม้แต่ช็อกโกแลต ต่างก็มีการเชื่อมโยงกับโอกาสที่สามารถแท้งบุตรได้ง่าย โดยการวิจัยพบว่า บุคคลที่ปริโภคคาเฟอีนใน 200 มิลลิกรัม/วัน ขึ้นไปหรือเทียบเท่าประมาณกาแฟสด 1 แก้วมีโอกาสต่อการแท้งบุตรมากขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ไม่ดื่มคาเฟอีน โดยเฉพาะในช่วง 3-4 เดือนแรกของการตั้งท้อง
- ไม่ควรที่จะละเลยนัดของคุณหมอ
แม่ ๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการฝากครรภ์เมื่อรู้ตัวเองว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ โดยการฝากครรภ์ครั้งแรกนั้นควรฝากในช่วง 8-12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ ในระหว่างนี้สูตินรีแพทย์จะสอบเกี่ยวกับเรื่องประจำเดือนของคณแม่ว่ามาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ประวัติทางการแพทย์ ประวัติการแพ้ยา พฤติกรรมการใช้ชีวิต อาหารแพ้ท้อง และถ้าหากว่าเป็การตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 ก็อาจจะถามถึงการตั้งครรภ์ในครั้งแรกด้วย รวมไปจนถึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ และให้คำแนะนำระหว่างการตั้งครรภ์ เช่นการกิน การนอน การออกกำลังกาย และนอกจากนี้ยังมีการตรวจอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ ตรวจเลือด และตรวจวัดความสูง น้ำหนัก เพื่อคำนวนดัชนีนวลกายของแม่ ๆ อีกด้วย
- ไม่ควรที่จะลืมรับประทานยา วิตามิน ที่จำเป็น
การรับประทาน กรดโฟลิก เป็นสิ่งสำคัญมากอีกอย่างหนึ่งสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ในแม่ ๆ บางท่านอาจจะรับประทานตั้งแต่กำลังวางแผนการตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากยังไม่ได้รับประทานก็ควรที่จะเริ่มรับประทานทันที หลังจากที่แพทย์ตรวจแล้วว่าแม่ ๆ กำลังตั้งครรภ์อยู่ เพราะว่าเป็นสารอาหารที่สำคัญสามารถที่จะช่วยปกป้องลูกน้อยจากความพิการทางสมองได้ สามารถที่จะซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป และสารอาหารที่สำคัญต่อคุณแม่เช่นเดียวกันนั้นก็คือ วิตามิน ดี หรือแม่ ๆ อาจจะเลือกทานในรูปแบบวิตามินรวมก็ได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องประจำเดือนขาดกี่วัน ถึงจะตรวจพบว่าตั้งครรภ์ 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 1
อาหารที่แม่ท้องไม่ควรรับประทาน
สิ่งที่แม่ท้องทั้งหลายควรหลีกเลี่ยงการรับประทานระหว่าที่กำลังตั้งครรภ์ มีดังนี้
- เนื้อหรือสัตว์น้ำที่ปรุงไม่สุกทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น หอยกาบ หอยแมลงภู่ หอยแครง หรือหอยนางรม เนื้อวัวและสัตว์ปีกที่ไม่ผ่านความร้อนจนสุกหรือที่เรียกันว่า กึ่งดิบกึ่งสุก รวมไปจนถึงไข่ดิบ หรืออาหารใด ๆ ก็ตามที่มีไข่ดิบเป็นส่วนผสม เพราล้วนแต่อาจเจือปนเชื้อ ท็อกโซพลาสมา ที่เป็นต้นเหตุของอาการเป็นพิษได้
- เนื้อปรุงสำเร็จ เช่น เนยแข็งชนิดอ่อน และผลิตภัณฑ์จากนมที่ผ่านผ่านการฆ่าเชื้อ เพราะสามารถที่จะมีการปนเปื้อนของแบคทีเรีย ลิสทีเรีย ซึ่งจะไปกระตุ้นให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษขึ้นได้ เชื้อชนิดนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว สามารถที่จะแทรกตัวผ่านรก และแพร่เชื้อเข้าสู่ตัวทารกได้ในที่สุด ใกรณีที่เกิดการติดเชื้อในมดลูก ยังอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้กระแสเลือดได้อีกด้วย และยังทำอันตรายต่อทารกถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ว่าได้ หากต้องการที่จะรับประทานอาหารจำพวกดังกล่าวนี้ ควรปรุงด้วยความร้อนอีกครั้งเพื่อทำการฆ่าเชื้อ
- ปลาบางชนิด เพราะในปลางบางชนิดอาจมีสารปรอดในระดับที่สูง เช่น ปลาอินทรี ส่วนปลาทูน่าที่แม่ ๆ หลายท่านนิยมทาน บางชนิดก็พบสารชนิดนี้ด้วยเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามถ้าจะให้ปลอดภัยไว้ก่อน ก็ไม่ควรจะรับประทานบ่อยจนเกิดไป
นอกจากอาหารเหล่านี้แล้วที่แม่ ๆ ควรเลี่ยง คุณแม่ยังสามารถที่จะรับประทานอาหารประเภทอื่น ๆ ได้ ทนแทนอาหารให้ครบ 5 หมู่ และอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยควรเน้นทานอาหารประเภท ผัก ผลไม้ อาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันชนิดดี และให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อสุขภาพของตัวแม่เอง และลูกน้อยในครรภ์ของคุณแม่นะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : อยากกินแตงโมก็โดนดุ จะดื่มน้ำมะพร้าวก็สั่งห้าม ทำไมใครๆ ก็ห้ามแม่ท้องกิน 2 อย่างนี้
แหล่งที่มา : (pobpad), (verypang.wordpress)