ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจคำว่าบีทียูกันสักนิด คำว่า BTU นั้นย่อมาจาก British Thermal Unit ซึ่งค่านี้จะแสดงถึงขนาดความสามารถในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ คํานวณแอร์ โดยที่ 1 ตันความเย็น = 12,000 บีทียู/ ชั่วโมง
การที่เราจะเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศได้นั้นจำเป็นต้องทราบก่อนว่าห้องที่จะติดตั้งนั้นต้องการเครื่องปรับอากาศที่มีความสามารถในการทำความเย็นกี่บีทียู ซึ่งเมื่อดูค่าโดยประมาณตามตารางด้านล่าง จะสังเกตเห็นว่าขนาดของห้อง ฟังก์ชั่นการใช้งานของห้อง รวมไปถึงเรื่องของแสงแดดล้วนเป็นปัจจัยที่มีผลต่อค่าบีทียู
เมื่อทราบขนาดพื้นที่ห้อง คุณก็สามารถคำนวณค่าบีทียูได้ง่ายๆ ด้วยตนเองจากสูตรต่อไปนี้
คํานวณบีทียูแอร์ คํานวณ BTU แอร์ = พื้นที่ห้อง x ค่าคงที่*
*ค่าคงที่นี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามประเภทของห้อง และความร้อนของห้องจากการที่ห้องโดนแดดมากหรือน้อย ดังนี้
- ห้องนอนที่โดนแดดช่วงเช้า มีความร้อนน้อย ใช้ค่าคงที่เท่ากับ 700 แต่ถ้าโดนแดดช่วงบ่าย มีความร้อนมาก ใช้ค่าคงที่เท่ากับ 800
- ห้องรับแขก ค่าคงที่ 800 ถ้าอยู่ด้านที่โดนแดดเล็กน้อย และ 900 โดนแดดมาก ตั้งอยู่ทิศตะวันตก
- ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย ซึ่งรับแดดมากหรืออยู่ชั้นบนสุด ใช้เครื่องปรับอากาศตอนกลางวัน ใช้ค่าคงที่ 900-1,000
- สำหรับร้านค้า หรือห้องที่มีผู้คนเข้าออกตลอดเวลา ใช้ค่าคงที่ 1,000-1,200
- ห้องที่มีเพดานสูงกว่า 2.5 เมตร หรือมีคนอยู่จำนวนมากให้เพิ่มค่าบีทียูขึ้นอีก 5% จากค่าที่คำนวณได้
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมจะต้องเสียเวลามานั่งคำนวณให้ยุ่งยาก คำตอบก็คือการเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่มีขนาดเหมาะสมมีผลต่อค่าไฟ นอกจากนี้ การใช้เครื่องปรับอากาศที่มีบีทียูสูงเกินไปจะทำให้ห้องชื้น สิ้นเปลืองพลังงานจากการที่คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อยเกินไป ขณะที่การใช้เครื่องปรับอากาศที่มีบีทียูต่ำเกินไปจะทำให้รู้สึกร้อน เปลืองไฟจากการที่คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานตลอดเวลาแต่ไม่สามารถทำความเย็นได้ตามอุณหภูมิที่ควรจะเป็น
ขอบคุณข่าวอสังหาฯ-บทความจาก DDproperty.com เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
เปิดแอร์อย่างไร สบายใจเงินในกระเป๋า