สำหรับใครที่ชอบทำสีผม สีผมโทนอ่อน สีผมโทนสว่าง หรือ สีสันสดใส คงหนีไม่พ้น การกัดสี หรือ การฟอกสี ซึ่งจะเป็นการปรับสีผมให้อ่อนลง ก่อนการเปลี่ยนสีผมของเราเป็นสีอื่นนั่นเอง สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า การกัดสีผมเป็นยังไง บทความนี้เรามีคำตอบ มาดูกันว่า การกัดสีผมเป็นยังไง และ วิธีเลือกน้ำยากัดสีผม ต้องเลือกจากอะไร สาวกทำสีผม ห้ามพลาด !
น้ำยากัดสีผมทำงานยังไง?
น้ำยากัดสีผม หรือ น้ำยาฟอกสีผม เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ว่าจะทำให้สีผมของเรานั้นอ่อนลง ซึ่งการทำงานของน้ำยา ปกติแล้วจะทำงานโดยการผสมผงฟอกสี และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้าด้วยกัน
ส่วนผสมจะเกิดปฏิกิริยาเคมี ที่ช่วยให้สารฟอกผม สามารถทำงานได้ และได้โทนสีที่ชัดมากขึ้น แต่อาจก่อความระคายเคืองให้กับผิวได้ เพราะเป็นการทำงานของสารเคมี ดังนั้นหากจะฟอกสีผมด้วยตนเอง ควรระมัดระวังในการทำเป็นอย่างมาก
กระบวนการฟอกสีผม หรือ กัดสีผม จะใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ในการผสมกับสารฟอกผม ซึ่งสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จะทำหน้าที่ช่วยเปิดผม และออกซิเดชั่นเม็ดสีที่อยู่ในเส้นผม ทำให้เส้นผมเปลี่ยนสี และมีสีอ่อนลงนั่นเอง
วิธีเลือกความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
การเลือกความเข้มข้นของเปอร์ออกไซด์ จะช่วยกำหนดความเข้ม และอ่อนของสีผม แต่หากเลือกไม่ดี ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดอาการหนังศีรษะไหม้ เกิดการระคายเคือง และทำให้ผมเสียรุนแรงได้ แต่ต้องทำใจไว้ก่อนเลยว่า การกัดสีผมนั้น ไม่มีทางที่ผมจะไม่เสีย หรืออ่อนแอลงเลย
การทำงานของสารฟอกผม จะเป็นการค่อย ๆ ปรับให้สีผมของเรา อ่อนลงเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีการล้างออก ดังนั้นควรเลือกระดับความอ่อน ด้วยการสังเกตให้ดี ว่าสีผมเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนแล้ว หากทิ้งไว้นานเกินไป อาจทำให้ผมขาด หลุด ร่วง ได้อย่างง่ายดาย
ความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มีกี่ระดับ ?
-
ความเข้มข้น 10 Vol 3% เปอร์ออกไซด์
ความเข้มข้น 3% เป็นความเข้มข้นในระดับต่ำที่สุด ที่ใช้ในการย้อมสีผม ซึ่งหากตอนนี้สีผมของเรา ไม่เคยผ่านการย้อมมาก่อน หรือเป็นสีธรรมชาติ การย้อมสีผมในระดับ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ระดับนี้ จะช่วยให้สีผมอ่อนลง ได้เพียง 1-2 ระดับเท่านั้น หากผมเป็นสีดำ การย้อมในระดับนี้อาจไม่ค่อยเห็นผลนัก
2. ความเข้มข้น 20 Vol 6% เปอร์ออกไซด์
ความเข้มข้น 6% เป็นความเข้มข้นมาตรฐาน ที่นิยมใช้ฟอกสีผมด้วยตัวเอง ซึ่งสามารถทำให้สีผมอ่อนลงได้ 2-3 ระดับ ซึ่งเพียงพอที่จะช่วยเปลี่ยนสีเป็นสีบลอนด์ แต่ถ้าพื้นผมเดิมมีสีเข้มมาก อาจจะต้องทำการฟอกซ้ำอีกรอบ
3. ความเข้มข้น 30 Vol 9% เปอร์ออกไซด์
ความเข้มข้น 9% เป็นระดับเพิ่มความแรงขึ้นมาอีกระดับ ซึ่งจะช่วยทำให้สีผมอ่อนลงได้ 3-4 ระดับ แต่จะทำให้คนส่วนมาก เกิดความระคายเคืองได้ หากทิ้งไว้นานจนเกินไป หากต้องการความรวดเร็วในการฟอก ระดับความเข้มข้นนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ต้องระมัดระวังกันด้วย
4. ความเข้มข้น 40 Vol 12% เปอร์ออกไซด์
ความเข้มข้น 12% เป็นระดับความเข้มข้นสูงสุด คือรุนแรง และเข้มข้นมากที่สุด ซึ่งควรระมัดระวังไม่ให้สัมผัสกับผิว เพราะจะเกิดอาการแสบ ระคายเคือง และอาจรุนแรงถึงหนังศีรษะไหม้ ซึ่งหากทำการกัดสีด้วยตนเอง ไม่แนะนำให้เลือกระดับนี้ เพราะหากทำไม่ถูก อาจเกิดความไม่ปลอดภัยได้
ข้อควรรู้ก่อนฟอกสีผม
- หากผมของคุณ เคยผ่านการทำสี ยืด หรือ ดัด ในช่วง 1-6 เดือนที่ผ่านมา แนะนำว่าไม่ควรทำการฟอกสีผม เพราะเส้นผม ผ่านการถูกทำร้าย ด้วยสารเคมี และความร้อนมาก่อน ทำให้ผมอาจเกิดการช็อต แห้ง เสีย หลุดร่วง ได้
- ก่อนการทำสี หรือ ฟอกสีผม ควรดูแลสุขภาพเส้นผมให้ดีก่อน ด้วยการทำทรีทเมนต์ อบไอน้ำ หรือ หมักผม ให้ผมสุขภาพแข็งแรง เพื่อช่วยให้ผมถูกทำร้ายน้อยลง จากการกัด หรือ ฟอกสี นั่นเอง
- ก่อนการทำสีผม หรือ การกัดสีผม ควรทดสอบการแพ้ก่อน โดยการให้นำน้ำยาฟอกสี มาทาบริเวณท้องแขน แล้วทิ้งไว้ ประมาณ 30 นาที จากนั้นให้สังเกตอาการแพ้ ว่ามีอาการคัน ระคายเคือง หรือแสบร้อนหรือเปล่า
- การฟอกสีผม ควรดูสีผม และสภาพผมปัจจุบัน ก่อนทำการฟอกสี เพื่อดูว่าสีผมที่เราต้องการทำ ต้องฟอกกี่ครั้ง และต้องใช้น้ำยากัดสีผม ในปริมาณความเข้มข้นเท่าไหร่ เพื่อสีผมที่ถูกใจ
เป็นยังไงบ้าง กับเทคนิค วิธีเลือกน้ำยากัดสีผม ซึ่งการฟอกสีผมด้วยตัวเอง ไม่ใช่เรื่องยากนัก สามารถทำได้ แต่ต้องทำอย่างระมัดระวัง ควรศึกษาวิธีการที่ถูกต้องก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ผมเสีย ขาด หลุด ร่วงหรืออันตรายจากศีรษะไหม้ และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกใจ ทำแล้วไม่ต้องเสียดาย เสียใจที่หลังนะคะ
ที่มาข้อมูล : bestreview . thairath
บทความที่น่าสนใจ :
วิธีย้อมผมด้วยตัวเอง ทำสีผมสวยง่าย ๆ ได้ที่บ้าน ไม่ต้องพึ่งร้าน
วิธีเลือกสีผมให้เข้ากับสีผิว เลือกยังไงให้ได้สีผมสวย แถมขับผิว ออร่าพุ่งปรี๊ด
เทรนด์สีผม 2023 ตามโทนสี ปลุกความเป็นตัวแม่ ทำสีผมสวยนำเทรนด์แฟชั่น