ในช่วงหลังคลอดใหม่ ๆ ผ้าอนามัยหลังคลอด (Maternity pads) เป็นสิ่งที่แม่ควรใส่ใจไม่แพ้อุปกรณ์ดูแลลูกน้อยขั้นพื้นฐานอย่าง เสื้อผ้า ขวดนม ที่นอน เปล หรือผ้าอ้อมเลย เพราะหลายคนอาจต้องเผชิญกับ เลือดออกหลังคลอด หรือร่างกายมีน้ำคาวปลา (Lochia) จึงจำเป็นจะต้องใช้ผ้าอนามัยหลังคลอด เพื่อให้การดูแลทารกแรกเกิดทำได้อย่างคล่องตัว ไม่ต้องกังวลว่าจะซึมเปื้อน บทความนี้เราชวนมาดูกันว่าผ้าอนามัยหลังคลอดแบบไหนจะตรงใจแม่มากที่สุด
สารบัญ
ผ้าอนามัยหลังคลอด สำคัญอย่างไร ?
คุณแม่หลายคนอาจต้องเผชิญกับเลือดออกหลังคลอดและน้ำคาวปลา ที่มักจะเริ่มมีอาการภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือภายในเวลา 2-3 วัน หลังการคลอด โดยร่างกายของคุณแม่จะขับของเหลวนี้ออกเป็นจำนวนมาก และจะมีอาการต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ ซึ่ง 2 ภาวะนี้ เกิดขึ้นได้กับทั้งแม่ที่คลอดเองและแม่ที่ผ่าคลอด ผ้าอนามัยหลังคลอดจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญ ที่คุณแม่ควรเตรียมไว้ก่อนเข้าห้องคลอด
ของเหลวที่ออกมาจะมีลักษณะคล้ายประจำเดือน โดยจะเป็นสีชมพู และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองในระยะสุดท้าย ซึ่งจะเป็นช่วงที่ร่างกายหลังคลอด กำลังปรับตัวกลับสู่ภาวะปกติ ส่วนน้ำคาวปลา จะเป็นของเหลวที่มีลักษณะเป็นเมือก ผสมกับเลือดและเนื้อเยื่อจากในบริเวณที่รกเชื่อมติดกับผนังมดลูก และอาจเป็นลิ่มขนาดเล็กด้วยในบางครั้ง
วิธีการเลือกผ้าอนามัยหลังคลอด ควรดูจากอะไรบ้าง ?
เนื่องจากน้ำคาวปลาหลังคลอด อาจมีมากกว่าประจำเดือนทั่วไป แม่จึงจำเป็นที่จะต้องใส่ใจรายละเอียดของผ้าอนามัยหลังคลอดที่จะเลือกใช้เป็นอย่างมาก เช่น
- ชนิดของผ้าอนามัยหลังคลอด เช่น แบบใช้แล้วทิ้ง หรือแบบที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หลังผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อแล้ว เป็นต้น
- รูปทรงของผ้าอนามัยที่ชอบ อย่างผ้าอนามัยหลังคลอดแบบแผ่น หรือแบบกางเกง
- วัสดุที่ใช้ในการผลิต โดยวัสดุที่เป็นส่วนประกอบของผ้าอนามัยหลังคลอดนั้น จะต้องช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายได้มากที่สุด
- ประสิทธิภาพในการซึมซับ ข้อสำคัญที่คุณแม่ต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะหากผ้าอนามัยหลังคลอดที่ใช้ซึมซับได้ไม่ได้ ก็อาจทำให้เปรอะเปื้อน หรือซึมออกมาได้
- ขนาดที่เหมาะสมต่อการใช้งาน เพราะปริมาณของน้ำคาวปลาแต่ละคนไม่เท่ากัน แม่จึงควรเลือกขนาดที่เหมาะสม เข้ากับรูปร่าง มีความยาวที่พอดี ครอบคลุมพื้นที่ที่อาจเปรอะเปื้อน เพื่อป้องกันการเลอะระหว่างวัน
- ใส่แล้วเคลื่อนไหวสะดวก เนื่องจากเลือดอาจไหลเวียนมากขึ้นเมื่อคุณแม่ทำกิจกรรม หรือเคลื่อนไหวร่างกายในท่าทางต่าง ๆ เช่น การให้นม การลุกจากเตียงหรือการทำกิจกรรมที่ต้องออกแรง เป็นต้น
หลายคนก็อาจสงสัยว่า สามารถใช้ผ้าอนามัยสำหรับประจำเดือนทั่วไปได้หรือไม่ ? คำตอบคือ คุณแม่สามารถใช้ผ้าอนามัยสำหรับประจำเดือน แทนผ้าอนามัยหลังคลอดได้เช่นกัน แต่โดยทั่วไปแล้ว การซึบซับของผ้าอนามัยหลังคลอดจะดีกว่าผ้าอนามัยทั่วไปอย่างน้อย 2 เท่า และผ้าอนามัยหลังคลอดนั้น มักผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อผิว ลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง อาการคัน การเกิดผื่น หรือการติดเชื้อในบริเวณดังกล่าวได้
9 ผ้าอนามัยหลังคลอดน่าใช้ เลือกได้ตามสไตล์ที่แม่ชอบ
ผ้าอนามัยหลังคลอด VANDA
ผ้าอนามัยหลังคลอดราคาประหยัด
|
Buy now |
ผ้าอนามัยหลังคลอด Kaili
ผ้าอนามัยหลังคลอดกันซึมได้เป็นอย่างดี
|
Buy now |
ผ้าอนามัยหลังคลอด Laurier
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่มาพร้อมเทคโนโลยีเฉพาะตัว
|
Buy now |
ผ้าอนามัยหลังคลอด Sanita
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่ซึบซับได้ดีด้วยเจล
|
Buy now |
ผ้าอนามัยหลังคลอด Tammé
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่รองรับของเหลวได้ดี
|
Buy now |
ผ้าอนามัยหลังคลอด SOFY
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่ช่วยซึมเปื้อนได้รอบทิศทาง
|
Buy now |
ผ้าอนามัยหลังคลอด Quiescent
ผ้าอนามัยที่มีบรรจุภัณฑ์สะดุดตา
|
Buy now |
ผ้าอนามัยหลังคลอด Kotex
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่เหมาะกับอากาศร้อน
|
Buy now |
ผ้าอนามัยหลังคลอด Ten-M
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่ผลิตจากจากฝ้าย
|
Buy now |
1.แวนด้าบิ๊กไซส์ ผ้าอนามัยหลังคลอด
ผ้าอนามัยหลังคลอดราคาประหยัด
ผ้าอนามัยหลังคลอดแบรนด์นี้มาในรูปแบบกางเกง ใส่สบาย มีสายคาดเอวซึ่งจะช่วยให้สามารถปรับขนาดให้กระชับ พอดี และแบรนด์นี้ผลิตด้วยวัสดุที่นุ่มหนา ซึมซับได้ดี มีขนาดยาวเป็นพิเศษ เป็นผ้าอนามัยหลังคลอดเหมาะสำหรับแม่ที่คลอดเอง และผ่าคลอดทางหน้าท้อง อีกทั้งยังสามารถใส่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนอีกด้วย
สิ่งที่เราชื่นชอบ
- ราคาประหยัด
- สามารถซึบซัมของเหลวได้มาก
- สวมใส่ง่าย ไม่เคลื่อนที่แม้ทำกิจกรรมทั้งวัน
2.Kaili maternity pads ผ้าอนามัยหลังคลอด
ผ้าอนามัยหลังคลอดกันซึมได้เป็นอย่างดี
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่จะช่วยป้องกันการซึมเปื้อน จากเลือดออกหลังคลอดและน้ำคาวปลา ทำให้เหมาะสำหรับคุณแม่หลังคลอดโดยเฉพาะ โดยมีลักษณะเป็นแบบห่วงกระดุม ช่วยให้สวมใส่ได้ง่าย สบาย มีผิวสัมผัสที่นุ่ม ระบายอากาศได้ดี ไม่ระคายเคืองผิว อีกทั้งยังสามารถเลือกใช้ได้หลากหลายขนาด เหมาะสำหรับผู้ที่มีขนาดรอบเอวตั้งแต่ 23 นิ้วขึ้นไป
สิ่งที่เราชื่นชอบ
- ระบายอากาศได้ดี ใส่แล้วไม่ร้อน
- ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ เพราะไม่ระคายเคือง
- มีไซส์ขนาดใหญ่พิเศษให้เลือก
3.Laurier pant ultra slim
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่มาพร้อมเทคโนโลยีเฉพาะตัว
ผ้าอนามัยหลังคลอดแบรนด์นี้ มีนวัตกรรม Ultra-absorbent pad ซึ่งจะช่วยป้องกันการซึมเปื้อน เพราะช่วยซึมซับได้มาก และแผ่นซึมซับยังยาวถึง 48 เซนติเมตร ทำให้สามารถป้องกันการซึมเปื้อนไปถึงด้านหลัง อีกทั้ง เป็นผ้าอนามัยหลังคลอดที่มีนวัตกรรม wearable type ร่วมกับดีไซน์รูปทรงกางเกงแบบพิเศษ มีขอบขาเว้าสูงคล้ายกางเกงชั้นใน ทำให้ผ้าอนามัยกระชับ สวมใส่สบาย และเหมาะกับทุกสรีระเมื่อสวมใส่
สิ่งที่เราชื่นชอบ
- แผ่นซึมซับยาว ไม่เปื้อนไปด้านหลัง
- ใช้แล้วไม่เกิดผื่น
- เหมาะสำหรับใส่ตอนกลางคืนหรือช่วงมามาก
4.Sanita Maternity Loop
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่ซึบซับได้ดีด้วยเจล
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่มีส่วนประกอบของเจล ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซึบซับได้ดียิ่งขึ้น ทำให้คุณแม่รู้สึกแห้ง สบาย ไร้การซึมหรือเปื้อน อีกทั้งยังป้องกันการเปื้อนและการห่อตัวของผ้าอนามัย เพราะมีแนวปกป้องรอบด้าน และเป็นผ้าอนามัยที่ผลิตด้วยแผ่นใยชนิดพิเศษ ทำให้รู้สึกนุ่มสบายเมื่อสวมใส่ ทั้งนี้ การสวมผ้าอนามัน และปรับให้กระชับ พอเหมาะกับสรีระจะช่วยให้แม่สวมใส่ได้อย่างผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่เราชื่นชอบ
- ใส่แล้วไม่รู้สึกชื้นหรืออึดอัด
- ไม่เปื้อนทะลุผ้าอนามัย
- ปรับได้หลายระดับตามสรีระ
5.Tammé ผ้าอนามัยคุณแม่หลังคลอด
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่รองรับของเหลวได้ดี
แทมเม่ (Tammé) เป็นผ้าอนามัยหลังคลอดรูปทรงกางเกง ที่คุณแม่สามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย เพราะไม่ระคายเคืองผิว มีเนื้อสัมผัสหนา นุ่ม และกระชับรอบด้าน รองรับปริมาณของเหลวได้ประมาณ 200 มิลลิลิตร สามารถใส่ได้ทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน อีกทั้งยังมีขนาดให้เลือกตามขนาดของสะโพก เริ่มตั้งแต่ 26 นิ้ว ไปจนถึง 48 นิ้วเลยทีเดียว
สิ่งที่เราชื่นชอบ
- มีหลายขนาดให้เลือก
- ตัวกางเกงเป็นยางยืดรอบด้าน ทำให้สวมใส่ง่าย
- ใส่แล้วไม่ตุงหรือเห็นเป็นทรงผ้าอนามัย
6.Sofy maternity pant
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่ช่วยซึมเปื้อนได้รอบทิศทาง
ผ้าอนามัยหลังคลอดแบรนด์นี้ จะช่วยป้องกันการซึมเปื้อนให้กับคุณแม่ได้ในทุกองศารอบด้าน และกระชับเข้ากับร่างกาย ไม่ว่าคุณแม่จะเคลื่อนไหวท่าไหนก็ไม่ซึมเปื้อน อีกทั้งยังมีผิวสัมผัสที่นุ่ม ระบายอากาศได้ดี จึงทำให้ไม่เกิดการอับชื้นเมื่อสวมใส่ นอกจากนี้ ยังเป็นผ้าอนามัยหลังคลอดที่มีให้เลือกถึง 3 ขนาด รองรับขนาดรอบเอวตั้งแต่ 23 นิ้วขึ้นไป และขนาดรอบสะโพกตั้งแต่ 31 นิ้วขึ้นไป
สิ่งที่เราชื่นชอบ
- เคลื่อนไหวได้ทุกท่าเพราะกระชับ
- ระบายอากาศ ไม่อับชื้น
- ใส่ได้สบาย เหมาะสำหรับใส่ตอนกลางคืน
7.Quiescent
ผ้าอนามัยที่มีบรรจุภัณฑ์สะดุดตา
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่ผลิตจากฝ้ายธรรมชาติเป็นหลัก ปลอดจากสารเรืองแสง สารฟอกขาว และน้ำหอม ผ่านการทดสอบ Hypoallergenic แม่จึงมั่นใจได้ว่าผ้าอนามัยหลังคลอดแบรนด์นี้ จะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ผื่นแดง และอาการแพ้อื่น ๆ เมื่อต้องสวมใส่ติดต่อกันเป็นเวลานาน อีกทั้งยังเป็นผ้าอนามัยที่ซึมซับ ระบายความร้อน และระบายอากาศได้ดี มีให้เลือกถึง 3 ขนาดเลยทีเดียว
สิ่งที่เราชื่นชอบ
- ผิวผ้านุ่ม ใส่แล้วไม่แพ้
- พกพาง่าย สีสันสวยงาม
- ซึมซับในระหว่างวันได้ดีอย่างเห็นได้ชัด
8.Kotex maternity pant ผ้าอนามัยหลังคลอด
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่เหมาะกับอากาศร้อน
ผ้าอนามัยหลังคลอดรูปทรงกางเกงชั้นใน ที่จะช่วยปกป้องการซึมเปื้อนให้แม่ได้อย่างรอบด้าน ซึมซับของเหลวและระบายอากาศได้ดี ผิวสัมผัสนุ่ม ไม่ระคายเคืองแม้เป็นผิวบอบบาง อีกทั้งขอบทรงกางเกงยังสามารถยืดได้ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการกดทับแผลในกรณีที่คุณแม่ผ่าคลอด เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีขนาดรอบสะโพกประมาณ 30 ไปจนถึง 48 นิ้ว
สิ่งที่เราชื่นชอบ
- ระบายอากาศในระหว่างวันได้เป็นอย่างดี
- เหมาะกับคุณแม่ผ่าคลอด
- คุณแม่ผิวบอบบางก็ใช้ได้
9.Ten-M
ผ้าอนามัยหลังคลอดที่ผลิตจากจากฝ้าย
ผ้าอนามัยหลังคลอดแบบกระดุมแบรนด์นี้ ผลิตจากฝ้ายธรรมชาติ จึงทำให้รู้สึกนุ่ม สบาย ระบายอากาศ และความร้อนได้ดีเมื่อสวมใส่ ดูดซึมไว ป้องกันการรั่วซึมเป็นพิเศษ อีกทั้งยังผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว คุณแม่จึงมั่นใจได้ว่า จะสามารถสวมใส่ผ้าอนามัยหลังคลอดแบรนด์นี้ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล
สิ่งที่เราชื่นชอบ
- ซึบซับไวอย่างรู้สึกได้
- ปลอดภัยเพราะผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว
- ไม่อับชื้น ระบายอากาศได้ดี
ผ้าอนามัยหลังคลอด ควรกำจัดอย่างไร ? และควรหยุดใช้เมื่อไหร่ ?
ในช่วงที่ต้องสวมผ้าอนามัยหลังคลอดอยู่ตลอดเวลา แม่ควรสวมใส่ชุดที่ง่ายต่อการเปลี่ยนผ้าอนามัยในระหว่างวัน เมื่อต้องการเปลี่ยนผ้าอนามัยหลังคลอด และกำจัดผ้าอนามัยผืนเก่า ก็ควรห่อใส่ถุงหรือกระดาษให้มิดชิด ก่อนจะทิ้งลงในถังขยะ หากเป็นไปได้ อาจทิ้งแยกกับถังขยะที่ตั้งไว้สำหรับทิ้งผ้าอนามัยทุกชนิดโดยเฉพาะ เพื่อให้ง่ายต่อการคัดแยกและกำจัดต่อไป ทั้งนี้ คุณแม่ไม่ควรทิ้งผ้าอนามัยหลังคลอดลงชักโครก เพราะจะทำให้เกิดการอุดตันได้ในภายหลัง
ส่วนระยะเวลาการสวมใส่ผ้าอนามัยหลังคลอดนั้น อาจขึ้นอยู่กับการขับน้ำคาวปลาของแต่ละบุคคล แม่อาจสังเกตปริมาณของเหลวที่ร่างกายขับออกมาในแต่ละวัน หากพบว่ามีปริมาณน้อยลง แม่ก็อาจค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปใช้ผ้าอนามัยหลังคลอดที่บางลง หรือเปลี่ยนไปใช้ผ้าอนามัยแบบทั่วไป ก่อนจะเลิกสวมใส่ในที่สุด เมื่อพบว่าร่างกายหยุดการขับของเหลวจากภาวะดังกล่าวแล้ว
ผ้าอนามัยหลังคลอด เป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ไม่ควรลืม เพราะหลังการคลอดเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็อาจเกิดภาวะเลือดออกหลังคลอดหรือร่างกายอาจขับน้ำคาวปลาออกมาได้ ดังนั้น แม่จึงควรพกผ้าอนามัยหลังคลอดติดกระเป๋าไว้เสมอ
ยี่ห้อ | ราคา | ปริมาณ (ชิ้น) | ราคาต่อปริมาณ |
แวนด้าบิ๊กไซส์ |
28 บาท | 10 ชิ้น | 2.8 บาท |
Kaili maternity pads |
54 บาท | 1 ชิ้น | 54 บาท |
Laurier pant |
215 บาท | 6 ชิ้น | 35.8 บาท |
Sanita Maternity Loop |
84 บาท | 30 ชิ้น | 2.8 บาท |
Tammé |
28 บาท | 10 ชิ้น | 2.8 บาท |
Sofy maternity |
358 บาท | 10 ชิ้น | 35.8 บาท |
Quiescent |
253 บาท | 12 ชิ้น | 21 บาท |
Kotex maternity | 142 บาท | 4 ชิ้น | 35.5 บาท |
Ten-M | 115 บาท | 3 ชิ้น | 38.3 บาท |
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
น้ำคาวปลา หลังคลอดกี่วันถึงจะหมด ทำไมน้ำคาวปลามีหลายสี สีไหนผิดปกติ
ดูแลตัวเองหลังคลอด ด้วย 7 วิธีนี้ รับรองกลับมาสวยเร็วชัวร์!
แต่งตัวแบบไหนไปคลอด จัดกระเป๋าไปคลอด แบบไหนใช่ แบบไหนไม่ควร
ที่มา : womenshealthmag, theAsianparent Philippines, asda., healthline, allaboutincontinence, parenting.firstcry