19 ไอเท็มเด็ด สำหรับ คุณแม่มือใหม่ ที่คุณไม่ควรพลาด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เป็นคุณแม่มือใหม่ทั้งที มีหรือจะยอมเอ๊าท์ ขนซื้อของใช้ให้ลูกน้อยกระหน่ำกันเลยดีกว่า แต่เอ๊ะ!!! แล้วของที่เราซื้อมาใช้ได้จริงหรือ มีประโยชน์กับลูกจริงหรือไม่ แล้วคุ้มค่ากับการใช้จ่ายมาก – น้อยแค่ไหน ของบางอย่าง จำเป็นจะต้องซื้อใช้จริงหรือ เรามาแกะกล่อง 19 ไอเท็มเด็ด สำหรับ คุณแม่มือใหม่ ที่คุณแม่ ๆ ไม่ควรพลาด กันดีกว่า จ่ายเงินไปแล้วต้องใช้ได้จริง และคุ้มค่าเงินที่เสียไปจริงไหมคะ?

 

19 ไอเท็มเด็ด สำหรับ คุณแม่มือใหม่ ที่คุณไม่ควรพลาด

 

 

 

1. เครื่องปั้มนมไฟฟ้า

ไอเท็มตัวนี้ จำเป็นจะต้องมีก่อนใครเพื่อนค่ะ แม้ว่าจะไม่ใช่ไอเท็มเด็ดของเจ้าตัวน้อย แต่มันคือไอเท็มสำคัญเพื่อเจ้าตัวน้อยของคุณนั่นเอง แต่ต้องบอกก่อนว่า ไอเท็มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้นมลูกด้วยตัวเองนะคะ ส่วน คุณแม่มือใหม่ คนไหนที่คิดว่าตัวเองมีปัญหาในการให้นมบุตรให้หยุดความคิดในการซื้อสินค้าตัวนี้ไว้ก่อนเลยค่ะ

การปั้มนมมีความสำคัญอย่างมากสำหรับคุณแม่ที่ให้นมบุตรด้วยน้ำนมตัวเองค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นการกระตุ้นน้ำนมให้สามารถไหล และผลิตได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ยังจำเป็นจะต้องปั้มนมออกให้หมด เพื่อไม่ให้เกิดอาการคัดเต้านม จนทำให้ตัวคุณแม่เองรู้สึกเจ็บได้ ยิ่งคุณสมบัติของเครื่องปั้มนมไฟฟ้าดีเท่าไหร่ ความสามารถในการปั้มจนเกลี้ยงเต้า ก็จะดีมากยิ่งขึ้นเท่านั้น นอกจากจะได้น้ำนมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพแล้ว ยังทำให้คุณแม่รู้สึกสบายตัว สบายเต้าได้อีกด้วยค่ะ

 บทความที่เกี่ยวข้อง : แนะนำ 8 เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าที่ดีที่สุด ตอบโจทย์คุณแม่ที่มีเวลาน้อย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

2. ถุงเก็บน้ำนม

เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่จะต้องมีเมื่อคุณตัดสินใจในการปั้มนม การมีถุงเก็บน้ำนมจะสามารถแบ่งออกได้เป็นมื้อ ๆ ของการดื่มน้ำนมสำหรับลูกน้อย เพราะเมื่อนำออกมาจากตู้แช่แล้ว ก็จะนำไปอุ่นให้ลูกได้ทานกันมื้อต่อมื้อ ทำให้มีความสะดวกสบายทั้งกับคุณแม่ และมีความสะอาดปลอดภัยกับตัวลูกน้อยอีกด้วยค่ะ

โดยการเก็บนมในถุงน้ำนมที่ดีนั้น ควรจะแยกตามวันที่ปั้มน้ำนมออกมา และเขียนระบุให้ชัดเจน เพื่อที่เราจะได้รู้ว่า นมที่เรานำมาให้ลูกดื่มนั้น เป็นน้ำนมเก่าหรือใหม่กันแน่ แต่โดยมาก หากน้ำนมถูกจัดเก็บได้อยางถูกวิธี จะทำให้สามารถเก็บไว้ได้นานแรมเดือนโดยที่น้ำนมนั้นยังมีโภชนาการที่ครบถ้วนสมบูรณ์เสมือนดูดนมจากเต้านั่นเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่เกี่ยวข้อง : ถุงเก็บน้ำนม น่าใช้! รวม 5 อันดับถุงเก็บน้ำนม พร้อมวิธีการเลือกซื้อให้ได้ของดีโดนใจ

 

3. ที่อุ่นนม

สำหรับคุณแม่ที่ให้เลี้ยงลูกด้วยนมของตัวเองนั้น การต้องอุ่นน้ำนมการน้ำนมที่เก็บสต๊อกเอาไว้ โดยเครื่องอุ่นนี้จะสามารถตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม ให้เสมือนกับอุณหภูมิที่เด็กได้ดูดโดยตรงจากเต้าของคุณแม่ค่ะ ซึ่งการอุ่นด้วยเครื่องอุ่นเฉพาะนี้ จะช่วยให้คุณค่าของน้ำนมที่เก็บไว้นั้นไม่ถูกทำลายด้วยความร้อนในกรณีที่นำไปอุ่นโดยการแช่ในน้ำอุ่น แต่สิ่งสำคัญคือ ไม่ควรนำน้ำนมที่สต๊อคไว้ไปอุ่นในน้ำร้อน หรือเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟเด็ดขาดค่ะ เพราะจะทำให้น้ำนมที่คุณแม่พยายามเก็บสต๊อคเอาไว้นั้นหมดประโยชน์ไปในทันที

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

4. ที่นึ่งขวดนม

และแน่นอนค่ะ อีกหนึ่งไอเท็มสำคัญที่ไม่ควรขาด นั่นก็คือที่นึ่งขวดนม ซึ่งเป็นการทำความสะอาดที่ดี และปลอดภัยไร้ความกังวลถึงแบคทีเรียต่าง ๆ ที่จะสะสมอยู่ในขวดนมของลูกน้อย ซึ่งราคาก็แล้วแต่ความสะดวกของคุณแม่ ๆ ค่ะ เพราะมีตั้งแต่ราคาประหยัด จนไปถึงราคาหลักหมื่นกันเลยทีเดียว แต่ถ้าจะเอาให้สะดวกคุณแม่ ๆ แนะนำให้ซื้อที่นึ่งขวดนมที่มีขนาดใหญ่พอสมควร เพื่อความคุ้มค่า และสะดวกต่อการใช้งานค่ะ

แต่ที่สำคัญคุณแม่จำเป็นจะต้องคำนึงถึงวัสดุของขวดนมที่นำมาให้ลูกน้อยด้วยเป็นสำคัญค่ะ เนื่องจากเมื่อโดนความร้อนแล้วนั้น การที่วัสดุของขวดนมไม่มีคุณภาพ อาจจะทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารต่าง ๆ หรือทำให้วัสดุเกิดการเปลี่ยนรูปได้ค่ะ

 

 

5. จุกนม และจุกหลอก

จุกนมสำหรับใช้กับขวดนม และจุกนมหลอก จะมีลักษณะการเลือกที่คล้ายคลึงกันค่ะ ซึ่งจะมีไซส์ของจุกอยู่ 3 ไซส์ คือ S, M และ L ขึ้นอยู่กับขนาดตัวของเด็กเป็นหลัก และเนื่องจากจุกนมนั้นมีการผลิตจากหลาย ๆ วัสดุ ตัวคุณแม่จำเป็นจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เช่น จุกนมที่ผลิตจากยางพารา จุกนมนี้จะมีความนิ่ม คล้ายหัวนมของคุณแม่ แต่อายุใช้งานจะสั้น ในขณะที่จุกนมที่ผลิตจากซิลิโคน จะมีอายุใช้งานที่ยาวนานมากกว่า แต่สัมผัสจะไม่นิ่มเท่ายางพารา

จุกนมหลอกนั้น อาจจะคำนึงถึงสัมผัสของเด็กที่จะได้รับ ในขณะที่จุกนมที่ใช้กับขวดนมนั้น จะคำนึงถึงลักษณะการไหลของของเหลว ที่ผ่านจากหัวจุก โดยสามารถเลือกได้จาก ลักษณะของรอยเจาะหัวจุกนม ก็จะทำให้คุณแม่สามารถเลือกใช้งานได้เหมาะกับตัวลูกน้อยนั่นเองค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 จุกนม ยี่ห้อไหนดี? ต้องเลือกแบบไหน เลือกอย่างไร อัปเดตล่าสุด

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

6. ขวดนม

ขวดนมจะมีมากมายขนาดรูปแบบ หลายขนาด และหลายราคามาก ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าการจะเลือกซื้อขวดนมนั้น ควรจะต้องเลือกจากอะไรบ้าง

  1. ขวดพลาสติกที่ควรเลือกซื้อจะต้องปลอดสารบีพีเอ (BPA Free)
  2. ขวดนมควรจะผลิตจากพลาสติกชั้นดี มีความทนต่อความร้อนได้สูงกว่า 120 องศา เพราะเวลานึ่งขวดเพื่อทำการฆ่าเชื้อ จะทำให้เกิดการละลายของพลาสติก
  3. ควรเลือกรูปทรงขวดที่เหมาะ ถือง่ายเหมาะกับมือเด็ก
  4. มีฐานปากขวดที่กว้าง
  5. ล้างทำความสะอาดได้ง่าย
  6. ต้องผ่านการรับรองมาตรฐานของคณะกรรมการอาหารและยา
  7. มีมาตรฐานของ มอก.

ทั้งนี้คุณแม่หลายคนอาจจะเข้าใจว่า การเลือกขวดนมที่ทนความร้อนได้ดีนั้น เนื่องจากเวลาชงนม จะต้องใช้น้ำร้อนในการผสม ซึ่งในความเป็นจริงนั้น เด็กสามารถกินนมในน้ำอุณหภูมิปกติได้ค่ะ การที่ชงนมกับน้ำร้อนนั้น จะเป็นการทำลายสร้างอาหารสำคัญที่มีอยู่ในนมได้ ดังนั้นความร้อนที่เรากำลังหมายถึงนั้น คือความร้อนที่เกิดจากการนึ่ง การต้มขวดนมเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียเป็นหลักค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 อันดับ ขวดนมสำหรับเด็ก ขวดนมแบบไหนเหมาะกับลูกน้อย ขวดนมแบบไหนถึงจะดี

 

7. กระเป๋าเก็บอุณหภูมิ

เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สร้างความสะดวกสบายให้กับตัวคุณแม่ได้ดีค่ะ โดยเฉพาะคุณแม่ที่จำเป็นจะต้องปั้มนมให้กับลูก และต้องเก็บรักษาอุณหภูมิความเย็นของนมเมื่อจำเป็นจะต้องออกไปข้างนอก กระเป๋าเก็บอุณหภูมิก็จะเป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายนมไปได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเพราะอุณหภูมิเปลี่ยนค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : รวม 10 กระเป๋าเก็บขวดนม กระเป๋าเก็บอุณหภูมิ ยี่ห้อไหนดี มาดูกัน

 

 

8. ผ้าห่อตัวเด็ก และเสื้อผ้าเด็กอ่อน

เนื่องจากเด็กแรกเกิดจะมีการพัฒนาการที่รวดเร็วมาก ดังนั้น ก็เลือกซื้อเสื้อผ้าในช่วงนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อมาเยอะแยะมากมายค่ะ แต่อาจจะต้องความตื่นเต้น หรือที่เรียกอาการนี้ว่าเห่อลูก ก็จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ ต่างขนซื้อเสื้อผ้าเด็กอ่อนกันอย่างบ้าคลั่ง ดังนั้นคุณแม่เตรียมผ้าห่อตัวเด็กผืนใหญ่เอาไว้ซัก 1 – 2ผืน เพื่อทำการห่อตัวลูกน้อยออกจากโรงพยาบาลค่ะ เมื่อลูกน้อยอยู่ที่บ้านแล้ว ก็สามารถให้ใส่ชุดเด็กอ่อน หรือใช้ผ้าห่มคลุมแทนได้ค่ะ ผ้าที่ห่อตัวเด็ก ควรจะเป็นผ้าสำลี เพื่อรักษาอุณหภูมิให้กับตัวเด็กนั่นเองค่ะ

เสื้อผ้าเด็กอ่อน ควรจะมีเอาไว้ 3 – 5 ชุด ก็พอค่ะ เนื่องจากเป็นเสื้อผ้าเด็กจะมีผ้าที่บาง ซักตากได้ง่าย สะดวก อีกทั้งเด็กยังเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เสื้อผ้าแต่ละเซ็ตนั้น จะใช้งานได้ประมาณ 1 เดือน ก็จำเป็นจะต้องเปลี่ยนขนาดค่ะ สิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงในการเลือกซื้อเสื้อผ้าเด็กอ่อนนั้น คือบางเบา ระบายอากาศได้ดี ไม่คับแน่นกับตัวเด็ก และไม่มีดีเทลเสื้อผ้ามาก พยายามเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีกระดุม หรือของตกแต่งที่ไม่จำเป็นค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 อันดับ ผ้าขนหนู สำหรับเด็กทารก อัปเดตล่าสุด แบบไหนดี?

 

9. ผ้าอ้อมเด็ก

ในช่วงเดือนแรก ๆ แนะนำให้ใช้ผ้าอ้อมที่ผลิตจากผ้าสาลูเป็นหลักค่ะ เนื่องจากผิวของเด็กมีความบอบบางมาก และเนื่องจากลูกยังทานได้เพียงแค่นม ดังนั้น การถ่ายก็จะออกมาเป็นน้ำ ดังนั้นการทำความสะอาดก็จะไม่ยุ่งยากค่ะ โดยเฉพาะผ้าสาลูนี้ ยิ่งซักบ่อย ก็จะยิ่งนุ่ม คราบเปื้อนก็หลุดออกได้โดยง่าย แห้งไว แถมยังช่วยประหยัดเงินคุณพ่อคุณแม่ไปได้อีกเยอะค่ะ

ส่วนช่วงกลางคืน หรือหากจะต้องออกไปข้างนอก ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นกางเกงผ้าอ้อม เพื่อความสะดวกสบาย ของคุณพ่อคุณแม่ และไม่ทำให้รู้สึกอับชื้น และที่สำคัญ ไม่ควรจะซื้อตุนเอาไว้เป็นจำนวนมากในช่วงแรก ๆ ค่ะ เนื่องจากเด็กยังมีพัฒนาการที่รวดเร็ว ช่วงตัวจะขยายเร็วขึ้นตามลำดับ อาจจะทำให้ไซส์ผ้าอ้อมสำเร็จรูป จะต้องเปลี่ยนขนาดเพื่อความไม่อึดอัดกับตัวเด็กค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : รีวิว ผ้าอ้อมสำเร็จรูป แพมเพิสยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนปัง แบรนด์ไหนถูกจัง คลิกเลย

 

10. แผ่นรองคลาน

ผ้าปูรองกันเปื้อนนั้น ควรจะมีติดเอาไว้ค่ะ เผื่อสำหรับเวลาเปลี่ยนผ้าอ้อมทั้งในบ้าน และนอกบ้าน และยังรวมถึงการปูรองนอน ในกรณีที่เด็กไม่ได้ใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เพื่อสะดวกสบายในการทำความสะอาดนั่นเองค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 แผ่นรองคลาน ยี่ห้อไหนดี ราคาจับต้องได้

 

11. อุปกรณ์อาบน้ำ

อุปกรณ์อาบน้ำ ก็เป็นสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงด้วยเช่นกันค่ะ เพื่อความปลอดภัย และสะดวกสบายให้กับตัวคุณพ่อคุณแม่เอง ซึ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ จะมีดังนี้ค่ะ

  1. อ่างอาบน้ำ
  2. สบู่ แชมพู สำหรับเด็ก
  3. ฟองน้ำธรรมชาติ
  4. ตาข่ายรองอาบน้ำ
  5. หมวกกันแชมพู
  6. เทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดอุณหภูมิน้ำ
  7. ผ้าขนหนู
  8. สำลีก้าน และสำลีแผ่น
  9. กระดาษทิชชู่ และกระดาษทิชชู่เปียก
  10. น้ำเกลือ
  11. กระติกน้ำร้อน (เอาไว้สำหรับผสมน้ำอาบ หรือใช้สำลีชุบน้ำ เพื่อทำความสะอาดบริเวณตา ฟัน และก้นของลูก)
  12. ถังขยะ

ซึ่งบางอย่างก็อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้สำหรับบางบ้านค่ะ เช่นอ่างอาบน้ำ บางบ้านก็สามารถอาบน้ำในอ่างล้างมือ ได้เช่นกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้ หรือความสะดวก ความเหมาะสมของแต่ละครอบครัวเป็นหลักค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 ผลิตภัณฑ์อาบน้ำเด็ก สูตรออร์แกนิก ปลอดภัย ไม่แสบ ได้ใจทั้งครอบครัว

 

12. น้ำยาซักผ้า อุปกรณ์ทำความสะอาด

เรื่องความสะอาดเป็นสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงอย่างมาก นอกจากจะสามารถขจัดแบคทีเรียแล้ว ยังจะต้องอ่อนโยนกับตัวเด็กด้วยเช่นกัน

  • หมวดเสื้อผ้า

ควรเลือกใช้น้ำยาซักผ้าสำหรับเด็กเป็นหลัก เนื่องจากส่วนผสมของน้ำยา จะมีความอ่อนโยนกับผิวเด็กมากกว่าจะใช้น้ำยาซักผ้าทั่วไป และน้ำยาซักผ้าสำหรับเด็กนี้ ยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเข้าไปเพิ่มเติม เพราะกลิ่นหอมที่แรงจะทำให้เกิดความระคายเคืองกับตัวเด็ก

  • หมวดข้าวของเครื่องใช้

น้ำยาล้างขวดนม แปรงล้างขวดนม และจุกนม เช่นเดียวกับน้ำยาซักผ้าค่ะ ที่จำเป็นจะต้องใช้น้ำยาสำหรับเด็ก เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน เนื่องจากเด็กจะต้องใช้อุปกรณ์เหล่านั้นโดยตรง และต่อเนื่อง ส่วนแปรงล้างทำความสะอาดนั้น ควรเลือกแบบที่มีขนแปรงนุ่ม เพื่อการทำความสะอาดที่ล้ำลึก ก็จะดีกว่าการใช้แบบฟองน้ำค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 9 น้ำยาซักผ้าเด็ก ปลอดภัย ยี่ห้อไหนดี? ไม่เป็นอันตรายต่อลูก

 

13. โลชั่นทาแก้ผดผื่นคัน

เนื่องจากผิวเด็กมีความบอบบางมาก ดังนั้น เด็กมักจะมีผดผื่น เกิดขึ้นได้ง่ายกว่าคนโตอย่างพวกเราค่ะ ซึ่งผดผื่นบางชนิด อาจทำให้เกิดอาการคัน และระเคืองกับผิวเด็ก ทำให้เด็กเกิดความไม่สบายตัว อีกทั้งตัวคุณพ่อคุณแม่ ก็คงไม่อยากให้ลูกน้อยมี รอยดำ รอยแดง รอยจ้ำ ที่เกิดจากผดผื่นบนผิวเด็ก ดังนั้นการมีโลชั่นทาแก้ผดผื่นคัน ไม่ว่าจะเป็น ผื่นผ้าอ้อม ผื่นจากการแพ้สิ่งต่าง ๆ ผื่นจากอาการไข้ ครีมนี้ก็จะช่วยให้เด็กสบายตัวได้มากยิ่งขึ้นค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 6 โลชั่นถนอมผิวเด็ก เพื่อผิวอ่อนโยนของลูกโดยเฉพาะ แบบไหนดีนะ

 

 

14. ของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก

สำหรับเด็กเล็ก หรือเด็กแรกคลอด ของสิ่งนี้อาจจะดูไม่จำเป็น แต่แท้ที่จริงแล้ว มันมีความสำคัญไม่แพ้ของอื่นเลยค่ะ อย่างเช่น โมบายแขวน แม้ดูว่ามันไม่มีออฟชั่นอะไรน่าสนใจ แต่สำหรับเด็กแล้ว เป็นการเพิ่มทักษะในการมอง การสังเกต ให้กับลูกน้อย เพราะสายตาของเด็กนั้นจะสามารถมองได้ชัดขึ้นทีละน้อย การมีโมบายห้อยเพื่อฝึกให้เกิดการจ้องมอง การฝึกคว้า หรือเอื้อมหยิบสิ่งของ ก็เป็นการฝึกการพัฒนาการที่สามารถทำได้โดยอัตโนมัติค่ะ

โดยคุณแม่สามารถสังเกต และค่อย ๆ ทยอยซื้ออุปกรณ์เพื่อการเสริมสร้างการพัฒนาการขึ้นตามอายุ และพัฒนาการของเด็กได้ค่ะ หรืออาจจะประยุกต์ของที่มีอยู่ในบ้านมาใช้แทนก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายกับตัวเด็กเป็นหลักนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : รีวิวของเล่น ของเล่นเด็ก 1-2 ขวบ ส่งเสริมพัฒนาการ มีแบบไหนบ้าง?

 

 

15. อุปกรณ์ดูแลร่างกายเด็ก

อุปกรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มักจะถูกมองข้ามไปก็บ่อย คืออุปกรณ์ดูแลร่างกายเด็ก คุณแม่อาจจะมีกระเป๋าใบเล็ก ๆ ซักหนึ่งใบเพื่อใส่อุปกรณ์จำพวก กรรไกรตัดเล็บสำหรับเด็ก ตะไบเล็บ หวี ผ้าขนหนู กระดาษทิชชู่เปียก ที่ดูดขี้มูก พกพาเอาไว้เสมอค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 อันดับ ทิชชู่เปียก ที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย สะอาด ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย

 

 

16. ยาสามัญประจำบ้านสำหรับเด็กอ่อน

ยาสำหรับเด็กที่เราควรจะมีเอาไว้ติดบ้านนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินช่วงค่ำคืน ก็อาจจะไม่มีเวลาวิ่งหาซื้อได้ทัน ซึ่งยาที่จำเป็นนั้น มีอะไรบ้าง

  1. มหาหิงค์ (ป้องกันท้องอืด)
  2. ยาแก้ท้องอืด
  3. ครีมทากันผื่นผ้าอ้อม
  4. ครีมทาแก้คัน อักเสบบวม
  5. ยากันยุง
  6. ลูกยางแดง สำหรับหรับดูดน้ำมูกคั่ง
  7. เจลแปะลดไข้
  8. ปรอทวัดไข้

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 ปรอทวัดไข้ สำหรับเด็กมีกี่แบบ แต่ละแบบใช้งานและอ่านอย่างไร

 

 

17. คาร์ซีท

สำหรับบ้านไหนที่จำเป็นจะต้องหอบหิ้วลูกน้อยออกจากบ้านบ่อย ๆ อุปกรณ์ที่จะต้องมีคือ คาร์ซีท (Car Seat) เพราะการที่คุณจะอุ้มไปแล้วขับรถไป หรือแม้กระทั่งการที่คุณนั่งข้างคนขับแล้วอุ้มลูกอยู่กับตัว ก็ไม่ได้การันตีถึงความปลอดภัย หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด โดยตำแหน่งในการจัดวางคาร์ซีทที่ถูกต้องนั้นควรจะอยู่บริเวณเบาะหลัง ตรงกลางรถ และตำแหน่งที่อันตรายที่สุดสำหรับเด็ก คือที่นั่งด้านหน้านั่นเอง

ปัจจุบันมีการพัฒนาคาร์ซีทให้สามารถใช้ร่วมกันกับรถเข็นได้อย่างสะดวกสบาย โดยสามารถถอดแยก และประกอบเข้ากับตัวรถเข็นได้โดยที่คุณไม่จำเป็นจะต้องหอบหิ้วลูก เพื่อย้ายที่แต่อย่างใด และที่สำคัญคือการเลือกใช้คาร์ซีทนั้น อย่าคิดว่าควรเลือกใช้เผื่อลูกโต เพราะเมื่อคำนวนถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเด็ก หากเกิดอุบัติเหตุแล้วนั้น ไม่คุ้มค่ากันเลยทีเดียวค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : คาร์ซีทสำหรับเด็ก ชวนคุณแม่เลือกซื้ออุปกรณ์ที่ช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยขณะนั่งรถ

 

18. รถเข็นเด็ก

เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยคุณพ่อคุณแม่ผ่อนแรงได้มากค่ะ แต่การเลือกรถเข็นนี้ จำเป็นจะต้องคำนึงถึงตัวเด็กเป็นหลัก หากลูกยังเล็กอยู่ ก็ไม่ยังเหมาะที่จะจับนั่ง หรือนอนบนรถเข็น เพราะด้วยพื้นที่ที่จำกัด อาจจะทำให้ท่านอนของเด็กไม่ถูกสุขลักษณะได้ค่ะ ดังนั้นอุปกรณ์นี้จึงเหมาะสำหรับเด็กที่เริ่มโตจนสามารถตั้งศีรษะเองได้ เพื่อไม่ให้เกิดการโงนเงนของศีรษะเวลาถูกเข็นนั่นเอง

รถเข็นที่ดีควรจะมีความแข็งแรง น้ำหนักเบา มีเบรคในตัว และสามารถเข็นได้ง่าย ความสูงพอเหมาะ และสามารถปรับเป็นแบบนั่งและนอนได้ ไอเท็มนี้ ถ้าซื้อแบบดี ๆ คุณพ่อคุณแม่จะสามารถใช้งานได้จนลูกโตเลยทีเดียว นับว่าคุ้มค่ามากเลยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : รถเข็นเด็ก ราคาเบา ๆ เลือกยังไงดี ได้เวลาพาลูกเที่ยวแล้วนะคุณแม่

 

 

19. เปลเด็ก

คุณพ่อคุณแม่หลายแทบจะร้องไห้เวลาที่จะต้องกล่อมลูกนอน โดยการโยกตัวไปมา เมื่อหยุดโยกตัวลูกน้อยก็จะตื่นขึ้นมาร้องไห้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยกันเลยทีเดียว เปลไกวจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มักเจอกับปัญหาแบบนี้ค่ะ ซึ่งเปลไกวมีการออกแบบมาหลายรูปแบบ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกซื้อได้ตามความเหมาะสม และที่สำคัญปัจจุบัน ยังมีเปลไกวแบบไฟฟ้า ที่จะเป็นตัวช่วยสำคัญ ให้คุณพ่อคุณแม่ได้พักผ่อน โดยไม่ต้องกังวลที่จะต้องคอยไกวเปลให้ลูกน้อยอีกด้วยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 เปลเด็ก เปลนอนสำหรับทารก แบบไหนดี และปลอดภัยกับลูกน้อย

 

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับ 19 ไอเท็มสำหรับการเลี้ยงดูลูกน้อย ลอยเช็คลิสแล้วซื้อเตรียมเอาไว้เพื่อต้อนรับลูกน้อยสู่บ้านใหม่ ที่จะมอบความอบอุ่น และเติบโตไปพร้อมกันนะคะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

รวม ! ของเตรียมคลอด เป็นเซ็ต ครบชุด น่ารัก ราคาไม่แพง

เพื่อนแม่ฟังไว้ 20 กฎเหล็ก เยี่ยมทารกแรกเกิด และคุณแม่หลังคลอด

พาลูกกลับบ้านหลังคลอด เตรียมตัวอย่างไร มีอะไรที่คุณแม่ควรรู้บ้าง?

ที่มา : cottonbaby , medthai

บทความโดย

Arunsri Karnmana