มะไฟ ผลไม้เปรี้ยวหวาน ที่มีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

มะไฟ ผลไม้รสเปรี้ยวหวาน ที่นิยมรับประทานเป็นผลไม้สดหรือนำมาทำเป็นน้ำผลไม้ รู้หรือไม่ว่ามะไฟมีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย เราไปดูกันเลย ว่ามะไฟกินแล้วดีอย่างไร

มะไฟ (Burmese grape)

มะไฟ

มะไฟต้นไม้ยืนต้น ที่ออกผลเป็นช่อ ผลอ่อนจะมีขนคล้ายกำมะหยี่ ถ้าผลแก่จะมีผิวเกลี้ยง มีเปลือกสีเหลือง เนื้อมีสีขาว หรือขาวใสอมชมพู แต่ละสายพันธุ์ก็จะแตกต่างกันไป

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 ผลไม้คนท้องห้ามกิน มีผลไม้อะไรบ้าง ที่คนท้องควรเลี่ยง

ลักษณะของต้นมะไฟ

  • ลำต้น : มะไฟเป็นไม้ยืนต้น ที่มีพุ่งโปร่ง ลักษณะของลำต้นจะเป็นทรงกลม เนื้อไม้แข็ง เปลือกมีความแข็งและผิวเรียบ มีสีเทา
  • ใบ : ออกใบเดี่ยว ออกสลับตรงกันข้ามกัน โคนมนปลายเรียว ใบด้านบนเป็นสีเขียว มีพื้นผิวใบที่มัน ใบด้านล่างจะมีสีที่อ่อนกว่าด้านบน
  • ดอก : มะไฟออกดอกเป็นช่อ ออกดอกเป็นกระจุก มีสีชมพูอ่อนหรืออมเหลือง มีขนาดเล็กฝอย ๆ กลีบมีสีเขียวปนเหลือง มีกลิ่นที่หอม ก้านของช่อดอกมีความยาว ดอกออกตามลำต้น ซอกใบหรือตามปลายกิ่ง
  • ผล : มะไฟจะออกผลเป็นพวง มีทรงกลมเล็ก มีเปลือกที่บาง ผลอ่อนมีขนคล้ายกำมะหยี่ เมื่อสุกแล้วจะผิวเกลี้ยงและมีสีเหลืองอมครีม
  • เมล็ด : มีลักษณะรูปแบนเหมือนรูปไข่ อยู่ด้านในเนื้อ เมล็ดมีผิวเรียบลื่นมัน และมีสีน้ำตาล

สายพันธุ์มะไฟที่คนส่วนใหญ่นิยมปลูก

  • พันธุ์เหรียญทอง : ผลใหญ่ ก้นเรียบ มีเนื้อสีขาว
  • พันธุ์ไข่เต่า : ผลกลมรี ก้นแหลม เนื้อสีขาวอมชมพู มีรสหวานอมเปรี้ยวมากกว่าพันธุ์เหรียญทอง
  • พันธุ์มะไฟสีม่วง : จะมีเปลือกสีม่วง อยู่ที่ประเทศจีน

วิธีปลูกมะไฟ และการดูแลรักษา

มะไฟ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

มะไฟ สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และทาบกิ่ง

ขั้นตอนการปลูก :

  • ขุดหลุม 50×50 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างต้น 3×3 เมตร
  • นำมะไฟปลูกแค่เสมอหลุม ไม่ปลูกต่ำกว่าหลุมมากเกินไป เพราะต้นมะไฟจะไม่โต
  • รดน้ำ ใส่ปุ๋ยคอก
  • เมื่อต้นมะไฟโตขึ้น สามารถตอนกิ่งของมะไฟ หรือเล็มกิ่งที่เล็กเพื่อให้ต้นโปร่ง
  • และหากต้องการผสมต้นมะไฟ ควรรดน้ำบ่อย ๆ เพราะมะไฟต้องการน้ำขาดน้ำไม่ได้ ถ้ามะไฟขาดน้ำจะทำให้มะไฟฝ่อไม่มีเมล็ด

การดูแลรักษามะไฟ

มะไฟชอบอากาศที่ร้อน และชอบแสงแดด ควรรดน้ำสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดมากจนเกินไป ในการปลูกช่วงแรกควรรดน้ำทุกวัน เมื่อมะไฟโตก็จะสามารถเว้นการรดน้ำได้ มะไฟจะปลูกได้ดีมากที่สุดในช่วงหน้าฝน

การเก็บเกี่ยวมะไฟ

กรณีที่ปลูกด้วยการตอนกิ่ง จะทำให้มะไฟออกผลผลิตที่เร็วกว่า ใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ปี ก็ออกผลแล้ว หากปลูกมะไฟโดยการเพาะเมล็ด จะใช้ระยะเวลาในการออกผล ประมาณ 4 – 5 ปี เมื่อมะไฟออกผลแล้วสามารถใช้กรรไกรตัดขั้วทั้งพวง แต่ควรระมัดระวังอย่าให้หล่น เพราะผลอาจช้ำได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การเก็บรักษามะไฟ

นำมะไฟที่ตัดแล้ว มาใส่ในภาชนะที่โปร่ง ระบายอากาศ จะช่วยทำให้เก็บได้นานกว่า โดยที่ไม่ต้องแช่ตู้เย็น

มะไฟทั่วไป กับ มะไฟสีชมพู แตกต่างกันอย่างไร

มะไฟ สีชมพู

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

มะไฟสีชมพู เป็นพันธุ์เดียวกับมะไฟทั่ว ๆ ไป แต่จะแตกต่างกันที่ ผลจะมีขนาดใหญ่กว่า เนื้อในเมื่อสุกแล้วจะเป็นสีชมพู เพียงแค่มีเปลือกเหมือนมะไฟธรรมดาทั่วไป มีรสหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง : ต้นไม้มงคลเสริมดวง ทำมาค้าขึ้น ปลูกแล้วรวย ควรมีติดบ้าน

ประโยชน์และสรรพคุณของมะไฟ

  • มะไฟสุกนิยมนำมารับประทานเป็นผลไม้หรือนำมาทำเป็นน้ำผลไม้
  • ผลอ่อนของมะไฟนำไปใช้ทำแกงได้
  • วิตามินซีจากมะไฟ ช่วยสร้างคอลลาเจน
  • กินมะไฟช่วยให้ผิวเรียบเนียน เปล่งปลั่ง
  • ผลของมะไฟ สามารถนำมาใช้ปรุงอาหาร ดอง และหมักไวน์ได้
  • รากสดหรือรากแห้ง สามารถนำมาใช้แก้วัณโรค ช่วยรักษาโรคเริม บรรเทาอาการปวดข้อ ปวดหัวเข่า แก้ผื่นคัน ลมพิษ
  • ใบของมะไฟช่วยแก้พิษฝี
  • รากสดหรือรากแห้ง ช่วยแก้อาการผิวหนังอักเสบ ผิวหนังที่เป็นถุงน้ำ และลอกออกมา
  • เปลือกมะไฟนำมาต้มกับน้ำเดือด แล้วพักไว้ให้เย็น จะช่วยแก้โรคผิวหนังได้
  • ใบช่วยรักษากลากเกลื้อน และโรคเรื้อน
  • ใบของมะไฟช่วยขับปัสสาวะ
  • บรรเทาอาการปวดท้อง
  • กินมะไฟจะช่วยทำให้ชุ่มคอ
  • บำรุงธาตุในร่างกาย
  • แก้โรคหวัด หรืออาการหวัด คัดจมูก
  • แก้ไข้มาลาเรีย
  • บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ และมีส่วนช่วยในการละลายเสมหะ
  • ใครที่มีปัญหา อาหารไม่ย่อย ท้องอืด กินมะไฟจะช่วยบรรเทาอาการได้
  • แก้อาการท้องร่วง

บทความที่เกี่ยวข้อง : น้ำผลไม้สำหรับสาย Non Coffee ทั้งอร่อย ทั้งสดชื่นนน

ที่มา : thai-thaifood,medthai

บทความโดย

Nanticha Phothatanapong