สิ่งที่ต้องรู้ก่อน ส่งลูกไปโรงเรียน จากคุณแม่ ที่เป็นทั้งคุณครูและคุณแม่
Samantha Cleaver คุณแม่ ดีกรีปริญญาเอกที่มีลูกสาม ออกมาบอกถึงเคล็ดลับเกี่ยว กับ การเลี้ยงลูกโดยจะโฟกัสไปที่การ ส่งลูกไปโรงเรียน ว่าคุณแม่ ผู้ปกครอง ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง การเป็นทั้ง คุณแม่ ที่ต้องสอนการบ้านลูกในตอนเย็น และ เป็นคุณครูต้องต้องสอนหนังสือ และ เป็นคนให้การบ้านซะเองจะเป็นอย่างไร ๆ
Samantha ทำงานในวงการ การศึกษามากว่า 15 ปี และ เธอสอนนักเรียนชั้นอนุบาล และ ประถมต้น รวมถึงสอนนักเรียนที่เรียนได้ยากและ มีปัญหาอีกด้วย เธอบอกว่าเธอเป็นทั้งคุณครู และ คุณแม่ เธอรู้ดีว่าช่วงเวลาเปิดเทอมเป็นเวลาที่วุ่นวาย และ น่าปวดหัวเพียงใด
สัปดาห์แรกนั้นสำคัญ
สำหรับผู้เป็นอาจารย์ สัปดาห์แรกนั้นจะโฟกัสไปที่การสอนเด็กว่า โรงเรียนคืออะไร พวกเขามาที่นี่ทำไม มีกฏระเบียบอะไรบ้าง วันวันนึงต้องทำอะไร เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ถึงที่มาที่ไป และ จุดประสงค์ของการมาโรงเรียน เธอบอกว่าสัปดาห์นี้ ผู้ปกครองควรปรับพฤติกรรมของลูกให้เข้ากับช่วงเปิดเทอมด้วย เช่น ๆ เข้านอนเร็วขึ้น เล่นมือถือ หรือ แทบเล็ตน้อย ๆ ลง
อาหารเช้า
เธอแนะนำ ว่าในช่วงเวลาเช้าของ ทุกวันผู้ปกครอง ควรจัดการทุกอย่าง ให้เป็นระเบียบแบบแผน เพื่อที่ลูกจะได้จดจำ และ ทำตามได้ในวันต่อ ๆไป เช่น ๆ เริ่มต้นวันด้วยการ อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ต่อด้วยการแต่งตัว และ ทานอาหารเช้า ซึ่งเป็นอาหารมื้อสำคัญ ที่สุดของวัน การที่ลูกซึบซับเรื่อง เหล่านี้จะทำให้ต่อไป เขาหรือเธอ จะปรับตัวได้เข้ากับการไปโรงเรียนตอนเช้ามากขึ้น ๆ
การช่วยเหลือตัวเองได้เป็นลาภอันประเสริฐ
ถ้าลูกคุณสามารถทำได้ รับผิดชอบตัวเองได้ คุณควรปล่อยให้เขา หรือ เธอได้ทำอะไรเอง หมดทุกอย่าง ในช่วงแรกของการไปโรงเรียน เช่น การผูกเชือกรองเท้า ไปเข้าห้องน้ำ นำของออกจากกระเป๋า ถ้าลูกโตขึ้นให้ช่วยลูกดูเรื่อง การใช้เทคโนโลยี และ จัดตารางเวลาตามวิชาต่าง ๆ
คุณไม่ต้องเร่งรีบเวลาอยู่บ้าน
ลูกของคุณเหนื่อยมามากพอ กับการไปโรงเรียน มันเป็นเรื่องโอเคที่ คุณจะให้ลูกไปรู้สึกผ่อนคลายสักนิด เวลาเขากลับมาบ้าน ช่วยเหลือเรื่องการบ้านถ้าลูกต้องการความเหลือ แต่ยัดเยียดกิจกรรมหลังโรงเรียนให้ กับลูกจนแน่นเกินไป จนเขารู้สึกเหมือนว่าตนแทบไม่ได้หายใจเลย ๆ
เตือนคุณครูด้วย
เด็กทุกคน สามารถจำหน้า และ ชื่อของคุณครูได้แน่นอนอยู่แล้ว แต่บางครั้งคุณครูก็ ไม่สามารถจำหน้าเด็กเป็น 100 คนได้ภายในวันเดียว ถ้า คุณครูเรียกชื่อ หรือ จำชื่อลูกคุณไม่ได้ ให้ค่อย ๆ บอก แล้วเรียนรู้ไปด้วยกัน
เล่าเรื่องราวที่บ้านให้คุณครูฟังบางครั้ง
งานของคุณครู ไม่ได้จบแค่เพียงในโรงเรียเท่านั้น ๆ คุณครู บางคนก็อยากจะทราบ ความเป็นไปของลูก เพื่อจะได้นำมาปรับ ใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ การเรียนรู้ได้ถูกต้อง เพราะเด็กแต่ละคนก็ มีความแตกต่าง และ มีความพิเศษ แตกต่างกันออกไป การที่คุณครู ได้ทราบเรื่องราวของเด็กบ้างจะทำให้ คุณครูเข้าใจเด็ก คนนั้นได้มากขึ้น ไปกว่าเดิม
คุณครูก็กังวลเกี่ยวกับวันแรกเช่นกัน
ไม่ได้มีแต่ คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง หรือ นักเรียนเท่านั้นที่กังวล เกี่ยวกับวันเปิดเทอม คุณครูเองก็เป็น เช่นกัน มีนอนไม่หลับก่อนเปิดเทอมบ้าง การเปิดเทอมวันแรกนั้นเป็นเรื่องยิ่ง ใหญ่ของใครหลาย ๆ คน มันมาพร้อมกับ ความกังวล ความคาดหวัง มากมาย Samatha ได้แต่หวังว่า ทั้งผู้ปกครอง คุณครู และ เด็ก ๆ จะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน ได้อย่างประสบผลสำเร็จ
Source : parents.com
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
คุณแม่ต้องรู้!! 5 วิธี ปกป้องลูกน้อยจากโรคติดเชื้อ ในโรงเรียนอนุบาล
พ่อแม่รู้ไหม…ส่งลูกเข้าโรงเรียนเร็วเกินไปอาจทำให้ ลูกเป็นโรคสมาธิสั้น !
7 ชุดเมนูอาหารเช้าให้ลูกก่อนไปโรงเรียน ไอเดียอาหารเช้า เมนูอาหารสำหรับลูกวัยเรียน