มาฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน และมีอาการแขนบวมหลังฉีดวัคซีน ฉีดบาดทะยัก ปวดแขน อาการเช่นนี้เกิดจากอะไร และควรทำอย่างไรเมื่อ ลูกแขนบวมหลังฉีดวัคซีน
อาการแขนบวมหลังฉีดวัคซีนเกิดจากสาเหตุใด ได้บ้าง?
อาการแขนบวมหลังฉีดวัคซีน อาจเกิดจากปฏิกริยาการแพ้เฉพาะที่แบบเฉียบพลัน คือมีอาการปวด บวม แดง ร้อน หลังฉีดในเวลา ไม่เกิน 1 – 3 ชั่วโมง หรือ เกิดปฏิกริยาการแพ้เฉพาะที่แบบเกิดช้า ซึ่งจะมีอาการปวด บวม แดง ร้อน หลังฉีดวัคซีนในเวลา 4 – 12 ชั่วโมง และมีอาการมากที่สุด ประมาณ 24 ชั่วโมงหลังฉีดได้
ซึ่งในกรณีของน้องลูกตาล มีอาการชัดเจน หลังจากฉีดวัคซีน 1 วัน จึงน่าจะเป็นปฏิกริยาแบบเกิดช้ามากกว่าค่ะ ซึ่งปฏิกริยาแบบนี้เรียกว่า “Arthus reaction” เป็น ปฏิกิริยารุนแรงเฉพาะที่ เกิดขึ้นตรงบริเวณที่ฉีดวัคซีนนั่นเอง
บทความแนะนำ รับมืออย่างไร เมื่อลูกน้อยแพ้วัคซีน
Arthus reaction เกิดจากอะไร?
Arthus reaction เป็นปฏิกิริยาการแพ้ชนิดหนึ่ง แสดงอาการตรงบริเวณที่ฉีด อาการดูค่อนข้างรุนแรงเฉพาะที่ คือ มีอาการบวมมาก แดง ร้อน ปวด หลังฉีดวัคซีนในเวลา 4 – 12 ชั่วโมง เกิดจากการจับตัวกันของภูมิคุ้มกันของร่างกาย (antibody) ที่เกิดจากการได้รับวัคซีนนั้นมาในอดีต กับ โปรตีนของวัคซีน ที่เป็นเสมือนสารก่อภูมิต้านทาน (antigen) กลายเป็น สารประกอบเชิงซ้อนทางอิมมูน (immune complex) ไปเกาะยังผนังของเส้นเลือด และเกิดปฏิกริยาการอักเสบขึ้น มีการทำลายเส้นเลือด และเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ มีเซลล์อักเสบมากมาย จึงเกิดอาการบวมแดงอยู่ได้นานหลายวัน
วัคซีนที่ทำให้เกิด arthus reaction ได้บ่อย คืออะไร?
วัคซีนที่มีรายงานว่า ทำให้เกิดปฏิกริยานี้ได้บ่อย คือ วัคซีนป้องกันโรค คอตีบ และบาดทะยัก ในผู้ที่ได้รับวัคซีนประเภทนี้หลายครั้งไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ จะมีปฏิกริยาปวดบวมแดงได้มากกว่าปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่ามีภูมิคุ้มกันสูงมากๆ แล้ว
การรักษา arthus reaction ทำได้อย่างไร?
อาการแพ้เฉพาะที่แบบนี้ แม้จะดูน่ากลัว เพราะบวมแดงมากและนาน แต่ก็ไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง ถึงแก่ชีวิต แบบการแพ้รุนแรง และมักจะหายได้เอง ภายในเวลา 3-5 วัน แต่หากอาการดูหายช้า หรือมีปวด บวม มาก จนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวัน หรือไปโรงเรียนได้ตามปกติ คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ถ้ามีอาการคันมาก ก็อาจทานยาแก้แพ้ แต่หากมีอาการมากจนดูรุนแรง ลองไปปรึกษาคุณหมอดูนะคะ
คุณหมออาจให้การรักษาเพิ่มเติมด้วย ยาทานต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ และยาทากลุ่มสเตียรอยด์ เพิ่มขึ้นมา เพื่อช่วยลดอาการปวด แดง ร้อน ร่วมด้วยค่ะ
ฉีดบาดทะยักอยู่ได้กี่ปี ?
หากได้รับวัคซีนเข็มสุดท้าย มาไม่เกิน 10 ปี ไม่ต้องฉีดวัคซีน แต่หากเกิน 10 ปีแล้ว ควรฉีดวัคซีนกระตุ้น 1 เข็ม หากแผลใหญ่ และฉีดเข็มสุดท้ายไม่เกิน 5 ปี ไม่ต้องฉีดซ้ำ หากเกิน 10 ปีแล้ว ควรฉีดกระตุ้น 1 เข็ม หากในเด็กในเด็กที่ฉีดไม่ครบตามกำหนด ต้องฉีด คอตีบ – บาดทะยัก 1 เข็ม และฉีดอีก 2 เข็ม ใน 1 เดือน และ 6 เดือน เพื่อให้วัคซีนป้องกันได้ถึง 10 ปี
ฉีดบาดทะยัก อาการข้างเคียง
- มีอาการปวด แดง หรือบวมบริเวณที่ฉีดวัคซีน
- มีไข้อ่อน ๆ และมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
- ปวดศีรษะ เมื่อยตามร่างกาย อ่อนเพลีย
- อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย
- ไม่อยากอาหาร
- ร้องไห้ งอแง กรณีที่เป็นเด็กเล็ก
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
เมื่อลูกไม่สบายจะพาไปฉีดวัคซีนดีไหม?
วัคซีนป้องกันบาดทะยักสำคัญอย่างไรเมื่อตั้งครรภ์