พบเคสแปลก เด็กแรกเกิดไม่ร้อง ลืมตาตื่นมา ทำหน้าซีเรียส ไม่ร้องสักแอะ

พบเคสแปลก เด็กแรกเกิดไม่ร้อง

หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับเสียงร้องแรกของทารก ทันทีที่คลอดออกมาก็ต้องร้อง ‘อุแว๊’ สิ แต่ล่าสุด พบเคสแปลกในประเทศบราซิล เด็กแรกเกิดไม่ร้อง ลืมตาตื่นมา ทำหน้าซีเรียส ไม่ร้องสักแอะ จนภาพจากการทำคลอดเคสนี้ ได้กลายเป็นไวรัส คนแชร์ต่อ ๆ กันเพียบ!

เคสสุดแปลกที่ว่านี้ เกิดขึ้นที่ประเทศบราซิล หญิงสาวชาวบราซิลได้ให้กำเนิดเด็กน้อยคนนึง ชื่อว่า Isabela Pereira de Jesus แต่ความพีคมันอยู่ตรงนี้ หลังจากคลอดออกมา แทนที่น้องจะร้องอุแว๊เหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ ทั่วไป ทารกน้อยกลับไม่ร้องสักแอะ แถมยังลืมตาโต ทำหน้าเครียดใส่ทีมแพทย์ทำคลอด จนคุณหมอต้องบอกว่า ร้องซะสิ!

เด็กน้อยเพิ่งจะมาเริ่มร้องไห้ อุแว๊ ๆ เหมือนเด็กคนอื่นทั่วไป ก็ตอนที่ตัดสายสะดือแล้ว โดยหมอทำคลอดก็ต้องพยายามทำให้ทารกร้องไห้ด้วย เนื่องจากนั่นเป็นการยืนยันว่า ปอดของทารกทำงานได้ปกติดี และเป็นการขับของเหลวต่าง ๆ ออกจากร่างกายของทารกน้อยด้วย

หลังจากภาพของทารกคนนี้ถูกปล่อยออกไป ก็ได้รับกระแสตอบรับต่าง ๆ มากมาย แม่ของเขาบอกว่า ที่หน้าตาเด็กแรกเกิดจริงจังแบบนี้ ต้องแสดงว่าเขาเป็นคนกล้าหาญมากแน่ ๆ ลูกของฉันเกิดมาพร้อมกับความกล้าหาญ

เธอได้เสริมอีกด้วยว่า เด็กน้อยมักจะทำหน้าตาแบบนี้เสมอ เขามักจะทำหน้าซีเรียส ย่นหน้าผาก เวลาพยาบาลเปลี่ยนผ้าอ้อมด้วย จริง ๆ แล้ว เด็กน้อยนั้นควรจะเกิดในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ แต่น้องคลอดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ การที่เธอเลือกวันเกิดของเธอเองเนี่ย ก็เป็นการโชว์ความเจ๋งของเธอแล้ว

ทำไมเด็กแรกเกิดต้องร้องไห้

การร้องไห้ของเด็ก ไม่ใช่แค่เรื่องเล่น ๆ หรือหมอแค่อยากฟังเสียง อุแว๊ ๆ แสดงการมาเยือนโลกเฉย ๆ หรอกนะคะ การร้องครั้งแรกของเด็กแรกเกิด มีความสำคัญกว่านั้น เพราะแสดงถึงความปลอดภัยของทารกด้วย ดังนั้นการที่ทารกน้อยในเคสนี้ไม่ยอมร้อง ทีมแพทย์ก็ต้องหาทางทำให้น้องร้อง เพราะจะได้ยืนยันว่าเด็กคลอดออกมาอย่างปลอดภัย

โดยปกติแล้ว ทารกน้อยจะเติบโตภายในมดลูกของแม่ ได้รับออกซิเจนผ่านทางสายรกมาตลอด ซึ่งนั่นหมายความว่า ขณะที่เด็กทารกอยู่ในท้องแม่นั้น พวกเขาไม่ได้ใช้ปอดในการหายใจ แต่เมื่อคลอดออกมา หมอตัดสายสะดือ ฉึบ! นั่นแปลว่าตัดขาดจากรก หมดหน้าที่รกของแม่แล้ว เด็กจะต้องเริ่มใช้ปอดหายใจด้วยตัวเองตั้งแต่ทันทีที่ตัดสายสะดือ

ทารกจะต้องร้องภายใน 20 – 60 วินาทีแรกของชีวิต คือโดยปกติแล้ว เด็กจะต้องส่งเสียงอุแว๊ ภายในประมาณ 1 นาทีแรกของชีวิต เพื่อกระตุ้นให้ปอดทำงาน ร่างกายจะได้ไม่ขาดออกซิเจน เป็นการยืนยันว่าน้องหายใจได้ปกติ ดังนั้นในกรณีที่เด็กทารกไม่ร้อง หมอจะกระตุ้นให้ร้อง ด้วยการตีก้นอย่างที่เราคุ้น ๆ กัน บางครั้งก็นวดฝ่าเท้า หรือถูหลังทารกแทน

ถ้าทารกไม่ส่งเสียงร้องหลังคลอด?

อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่า โดยปกติทารกจะต้องร้อง เพื่อยืนยันว่าน้องแข็งแรง หายใจได้ ปอดทำงานได้อย่างปกติ แต่สำหรับเด็กทารกบางคน ก็อาจจะไม่ได้ร้องอุแว๊ออกมาทันที ซึ่งก็อาจเกิดจากการซึมจากผลของยาแก้ปวด มีสายสะดือกันอยู่รอบคอ หรืออาจจะเพราะแม่ใช้เวลาเบ่งคลอดนาน ทำให้ลดปริมาณออกซิเจนที่ทารกจะได้รับ

สูตินารีแพทย์ จาก Providence Saint John’s Health Center ได้กล่าวว่า ทารกบางรายอาจใช้เวลาปรับตัวหลังคลอดออกมา ตราบใดที่ทารกมีอัตราการหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจที่ดี มีกล้ามเนื้อและสีผิวปกติดี อาจจะการร้องไห้ล่าช้าไปบ้างก็ไม่เป็นไร ต้องให้เวลาทารกน้อยปรับตัว

เมื่อเด็กคลอดออกมาแล้ว ทีมแพทย์อาจจะใช้เครื่องดูดเสมหะและน้ำคร่ำออกจากปากและจมูกของเด็กทารก เพื่อกระตุ้นให้ทางเดินหายใจโล่ง น้องจะได้ส่งเสียงร้องออกมา เพื่อยืนยันว่าน้องปลอดภัยค่ะ

ถ้าหากทารกร้องไห้นานเกินไป?

การที่ทารกน้อยไม่ร้องไห้เลยหลังคลอดก็แสดงถึงความผิดปกติ แต่พอร้องนานเกิดไป ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นได้อีกเช่นกัน การที่ลูกน้อยร้องไห้นานเกินกว่า 2-3 นาทีหลังคลอด หรือหลังจากดูดนมครั้งแรก มีความเป็นไปได้ว่า ทารกน้อยอาจจะได้รับความบอบช้ำ หรือมีอาการบาดเจ็บอะไรได้

แต่ถ้าหากทารกร้องเร็วเกินไป เร็วแบบที่ว่า ก่อนไหล่ของเด็กจะผ่านออกมาจากช่องคลอดของแม่ นั่นแปลว่า ทารกอาจจะเริ่มหายใจในขณะที่ยังไม่มีอากาศที่เหมาะสม แต่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด ไปกระตุ้นศูนย์การหายใจในสมอง นั่นก็มีส่วนทำให้ทารกสำลักน้ำคร่ำได้อีกเช่นกัน

การวัดคุณภาพการร้องไห้ครั้งแรกของทารก

• หากทารกร้องโหยหวยมาก นั่นอาจจะเป็นสัญญาณของความดันสูงภายในกระโหลก
• หากเสียงร้องของทารกเป็นเสียงแหบ นั่นอาจเป็นสัญญาณของกล้ามเนื้อชัก
• หากเด็กทารกร้องไห้เหมือนแมว อาจจะเป็นสัญญาณของโรคทางพันธุกรรม
• หากทารกร้องไห้เสียงแผ่วเบา แม้ทีมแพทย์จะกระตุ้นให้ร้องแล้วก็ตาม อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติทางระบบประสาท หรือความผิดปกติในด้านอื่น ๆ
• หากทารกไม่ร้องไห้ทันทีหลังคลอด อาจเป็นไซนัสหรือเป็นหวัดในขวบปีแรก ในอนาคตอาจติดเชื้อในหู คอ จมูก หรือเกิดการอักเสบเรื้อรังที่หูชั้นกลาง นำไปสู่อาการหูหนวกและพูดช้าได้

ที่มา : nypost

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ทำไมเด็กแรกเกิดจึงอยากให้อุ้มอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง วางทีไรร้องทุกที แม่ต้องทำยังไง

ถุงมือเด็กแรกเกิดปิดกั้นพัฒนาการ ถุงมือทารกแรกเกิดไม่จำเป็น!

7 สิ่งเกี่ยวกับทารก ที่ผู้ปกครองมือใหม่ควรรู้ เกร็ดเกี่ยวกับเด็กทารก