อาการแพ้แมลง เกิดจากอะไร?
แพ้แมลงกัด อาการแพ้แมลง เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายเราที่มีต่อน้ำพิษของแมลงซึ่งมีส่วนประกอบต่างกันตามชนิดของแมลง โดยส่วนใหญ่ประกอบด้วยสารก่อภูมิแพ้จำพวกโปรตีนที่มีคุณสมบัติเป็นเอนไซม์ค่ะ
ลูกแพ้แมลงกัด ผู้ป่วยที่แพ้แมลงกัด ต่อย มีอาการอย่างไร?
ผู้ป่วยที่แพ้แมลงจะแสดงปฏิกิริยาอาการได้ทั้งแบบปฏิกิริยาเฉียบพลันและเกิดช้า
โดยปฏิกิริยาเฉียบพลัน จะเกิดภายใน 1-4 ชั่วโมงหลังแมลงกัด ต่อย ได้แก่ อาการปวด บวม แดง ร้อน ในบริเวณนั้นหรือเกิดปฏิกิริยาแพ้ทั่วร่างกาย เช่นผื่นลมพิษทั่วตัว แน่นหน้าอก หลอดลมตีบ กล่องเสียงบวม ความดันโลหิตต่ำ ช็อกหมดสติ หน้ามืดเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ซึ่งอาจรุนแรงจนแก่ชีวิตได้ค่ะ
ส่วนปฏิกิริยาแบบเกิดช้า จะเกิดขึ้นประมาณ 4 ชั่วโมงขึ้นไปหลังจากถูกแมลงกัด ต่อย เช่น มีไข้ ผื่นเม็ดเล็ก ๆ ขึ้นทั่วตัว ปวดข้อ และต่อมน้ำเหลืองโตค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 เครื่องพ่นยา คุณภาพดี ใช้งานง่าย พ่นไกล ไม่เปลืองแรง
แมลงที่เป็นสาเหตุของการแพ้แบบรุนแรง มีอะไรบ้าง?
แมลงที่เป็นสาเหตุการแพ้แบบรุนแรง ได้แก่ ผึ้ง ต่อ แตน และมด
หากถูกแมลงกัด ต่อย ควรทำอย่างไร?
ถ้าถูกแมลงกัด ต่อยแล้วมีแค่อาการเฉพาะที่ คือ ปวด บวม ในบริเวณนั้น ควรทำความสะอาดแผล บริเวณที่ถูกแมลงต่อย ถ้ามีเหล็กในควรนำออก เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำพิษเข้าไปในร่างกายมากขึ้น อาจประคบน้ำแข็งเพื่อลดอาการบวมเฉพาะที่ได้ค่ะ ถ้าแผลดูสกปรกเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ควรไปล้างแผลที่โรงพยาบาลนะคะ เพราะคุณหมอจะได้ให้ยาปฏิชีวนะมารับประทานด้วย ถ้าแผลดูสะอาดดีแต่มีการอักเสบมาก คุณหมออาจพิจารณาให้ทายาต้านการอักเสบสเตรอยด์ค่ะ แต่ถ้าถูกแมลงกัด ต่อยแล้วมีอาการแพ้รุนแรง เช่น แน่นหน้าอก ความดันโลหิตต่ำ ช็อกหมดสติ หน้ามืดเวียนศีรษะ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันทีค่ะ
เราจะมีวิธีป้องกันการแพ้แมลง โดยการหลีกเลี่ยงแมลงได้อย่างไร?
หลักการป้องกันแมลงง่าย ๆ คือ พยายามไม่ทำตัวเหมือนกับดอกไม้ค่ะ คือไม่ใส่เสื้อผ้าสีสด ไม่ใส่น้ำหอม นอกจากนี้ก็ไม่ควรเดินด้วยเท้าเปล่าหรือใส่รองเท้าแตะ แต่ควรใส่กางเกงขายาว ถุงเท้า รองเท้า หมวก ถุงมือ เมื่อมีโอกาสสัมผัสแมลง ระมัดระวังแมลงเมื่อเข้าใกล้พุ่มไม้ ถังขยะ หรือ ออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ผู้ป่วยที่แพ้แมลงแบบรุนแรงควรใส่สร้อยข้อมือ หรือสร้อยคอที่ระบุว่าแพ้แมลงชนิดใดไว้อย่างชัดเจนค่ะ หากที่บ้านมีรังของแมลงก็ควรแจ้งผู้ที่มีความชำนาญมากำจัดออก และไม่ควรให้เด็ก ๆ ไปเล่นใกล้ ๆ นะคะ
การดูแลผู้ที่ถูกแมลงกัด
- ให้พาออกจากที่มีแมลงอยู่ เพื่อป้องกันมิให้ถูกกัดเพิ่ม
- ถ้าแมลงที่กัดมีเหล็กในและถูกกัดในระยะเวลา 20 วินาทีต้องรีบเอาเหล็นในออก ให้ใช้ขอบบัตรเครดิตขูดเอาเหล็กในออก หากเกิน 20 วินาทีพิษจะถูกปล่อยออกหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาเหล็กในออก
- ลดอาการบวมโดยการใช้น้ำแข็งประคบ
- ใช้ยา steroid ทา
- กินยา antihistamin
อาการแพ้ชนิดรุนแรง
แต่สำหรับที่คุณและหลายคนกลัวคือการแพ้แมลงกัดและมีอาการรุนแรงซึ่งจะมีอาการดังต่อไปนี้ และต้องรีบไปโรงพยาบาล
วิธีป้องกันมิให้แมลงกัด
|
- มีผื่นลมพิษขึ้นที่อื่นของร่างกาย
- ผิวหนังแดง
- คันตามตัว
- หนังตาและปากบวมที่เรียกว่า Angioedema
อาการที่บ่งบอกว่ารุนแรง
- แน่นหน้าอกหายใจไม่ออกเนื่องจากหลอดลมหดเกร็ง
- เสียงแหบ ปากบวมเนื่องจากกล่องเสียงบวม
- เป็นลม ความดันโลหิตต่ำ
- หัวใจเต้นผิวปกติ
- ผู้ป่วยกระสับกระส่าย สับสน
- ถ้าเป็นมากเสียชีวิตได้
อาการระบบทางเดินอาหาร
- ปวดท้อง
- คลื่นไส้อาเจียน
- ท้องร่วง
-
อาการที่ต้องนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ - เสียงแหบ
- พูดลำบาก
- แน่หน้าอก
- ไอ
- สำลักอาหาร
อาการอาจจะเกิดหลังจากถูกกัดไม่กี่นาที การรักษาต้องรีบพบแพทย์โดยด่วนแพทย์จะให้ยา Adrenalin หลังจากอาการคงที่แพทย์จะรับตัวไว้ดูอาการ 1-2 คืน
ผู้ป่วยบางรายอาจจะมีอาการหลังถูกแมลงกัดต่อยไปแล้ว 1 สัปดาห์เรียกว่า Serum sickness ซึ่งจะมีอาการ
- ลมพิษ
- ปวดข้อ
- ไข้
- ปวดตามตัว
- เมื่อถูกความเย็นจะมีลมพิษ
การรักษา
- ใช้ยาแก้ปวด paracetamol บรรเทาอาการปวด
- น้ำแข็งประคบบริเวณที่บวม
- ให้ยาแก้แพ้ chlorpheniramine รับประทาน
ข้อบ่งชี้การให้ยา steroid(ให้ยานาน 3-7 วัน ควรจะให้ภายใน 2 ชั่วโมงหลังถูกกัด)
- บวมมากและมีอาการปวดมาก
- ถูกกัดบริเวณศีรษะและคอ
- ผู้ป่วยเคยแพ้แมลงกัดมาก่อน
การฉีดยาแก้แพ้ epnephrine
epnephrine เป็นยาฉีดสำหรับกรณีที่แพ้รุนแรง ขนาดที่ใช้ 0.2-0.5 ซซ. ฉีดเข้กล้าม หากอาการยังไม่ดีขึ้นให้ฉีดซ้ำ 10-15 นาที สำหรับเด็กใช้ขนาด 0.001 มก/กก โดยแบ่งครึ่งหนึ่งฉีดรอบแผล อีกครึ่งหนึ่งฉีดเข้ากล้าม
ที่มาจาก : https://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/sting.htm
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
10 วิธีกำจัดแมลงเม่า เมื่อมันบินเข้าบ้านเรา จัดการไล่แมลงเม่าเมื่อบินเข้าบ้าน
สัตว์มีพิษกัด ต้องทำอย่างไร สอนวิธีปฐมพยาบาล และ สอนลูกน้อยให้รู้จักสัตว์ร้าย