แม่ท้องมาดูกัน ความเสี่ยงของการ “ผ่าคลอดกับโรคภูมิแพ้” ในเด็กทารก
แม่ท้องมาดูกัน ความเสี่ยงของการ “ผ่าคลอดกับโรคภูมิแพ้” ในเด็กทารก
ปัจจุบันนี้ เด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้ มีจำนวนเพิ่มขึ้น ภูมิแพ้ของเด็กมีหลากหลาย ตั้งแต่แพ้ขนสัตว์เลี้ยงในบ้าน แพ้ถั่ว แพ้แม้กระทั่งสตอเบอร์รี่ และกีวี่ก็มี ปัจจัยที่เราสงสัยว่าเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ที่เพิ่มสูงขึ้นมีดังนี้
- สาเหตุจากมลพิษทางอากาศ ?
- สาเหตุจากวิถีการดำเนินชีวิตที่ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ?
- สาเหตุจากอาหารแปรรูปที่เราทานเข้าไป ?
ล่าสุด นักวิจัยพบว่า ความเสี่ยงของการผ่าคลอดกับโรคภูมิแพ้คือเรื่องจริง
ภูมิแพ้ของเด็ก มีหลากหลาย ตั้งแต่แพ้ขน สัตว์เลี้ยงในบ้าน แพ้ถั่ว แพ้สตอเบอร์รี่
สถิติ
บทความตีพิมพ์ใน Medical News Today’s ระบุว่า “เด็กที่เกิดจากการผ่าคลอด มีความเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ก่อนอายุ 2 ขวบ มากกว่าเด็กที่เกิดโดยการคลอดธรรมชาติถึง 5 เท่า คณะผู้วิจัยจากโรงพยาบาลเฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford Hospital) เมืองดีทรอย รัฐมิชิแกน เปิดเผยว่า การวิจัยครั้งนี้ เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับงานวิจัยที่ผ่านมา ที่ระบุไว้ว่า เด็กที่เกิดจากการผ่าคลอด มีแนวโน้มจะเป็นโรคหอบหืดถึง 6 เท่า
ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า การผ่าคลอดที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เด็กเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้นจริงหรือ แต่การผ่าคลอดอย่างเดียว ก็ไม่น่าเป็นสาเหตุหลักของเรื่องนี้
ความเชื่อมโยง
คุณไม่ใช่คนเดียวที่สงสัยว่า ความเสี่ยงของการผ่าคลอดกับโรคภูมิแพ้เชื่อมโยงกันอย่างไร ดูเหมือนว่ามันไม่เกี่ยวกันสักเท่าไหร่ แต่ผลวิจัยจากโรงพยาบาลเฮนรี่ฟอร์ดพบว่า การผ่าคลอดมีเชื่อมโยงกับการเกิด ภูมิแพ้ในเด็กจริง
ผลการวิจัยพบว่า “เด็กที่เกิดจากการคลอดแบบธรรมชาติจะสัมผัสกับแบคทีเรียในช่องคลอดของแม่ ซึ่งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็ก”
เมื่ออธิบายตามหลักวิชาการแล้วพบว่าเด็กทารกที่คลอดโดยการผ่าคลอดจะมีลักษณะจุลินชีพในร่างกายที่อ่อนแอเมื่อต้องผลิตแอนตี้บอดี้อิมมูโนกบูลิน อี (antibody Immunoglobulin E) หรือ IgE เมื่อเกิดอาการระคายเคือง และเป็นที่ทราบกันดีว่า IgE คือ สาเหตุที่สามารถพัฒนาให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้และหอบหืด”
ผลวิจัยจาก รพ.เฮนรี่ฟอร์ดพบว่า การผ่าคลอดมี เชื่อมโยงกับการเกิด ภูมิแพ้ในเด็กจริง
แล้วหมายความว่าอะไร?
เด็ก ๆ ที่ออกมาลืมตาดูโลกโดยการผ่าคลอดจะไม่ได้รับแบคทีเรียดีจากช่องคลอดของแม่ แบคทีเรียตัวนี้เป็นตัวช่วยต้านการเกิดภูมิแพ้
หลักฐานทางการแพทย์ยืนยันว่าการผ่าคลอดมีผลต่อการเป็นภูมิแพ้ดังนั้นหากคุณสามารถคลอดเองได้ก็ควรคลอดเองเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภูมิแพ้สำหรับลูกคุณ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือจากการผ่าคลอดที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าปัจจัยอะไรที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงมากที่สุด การให้นมแม่เป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีทางหนึ่ง โดยแบคทีเรียที่จำเป็นต่อการต้านโรคภูมิแพ้มีอยู่ในนมแม่ โดยเฉพาะน้ำนมเหลืองแรกคลอดที่อุดมไปด้วยโคลอสตรุม
แนวทางการแก้ไข
บางกรณีก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการผ่าคลอดได้ แต่มีการทดสอบมาแล้วว่า วิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นภูมิแพ้ ของเด็กที่ผ่าคลอดคือ การนำของเหลว หรือเมือกบริเวณอวัยวะเพศของแม่มาทาบริเวณหัวลูก เพื่อตบตาเสมือนว่าเป็นการคลอดเองตามธรรมชาติ ตามหลักแล้วทฤษฎีนี้จะช่วยทำให้ลูกได้สัมผัสกับแบคทีเรียดี และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูก
เด็ก ๆ ที่ลืมตาดูโลก โดยการผ่าคลอด จะไม่ได้รับ แบคทีเรียดี จากช่องคลอดของแม่
สรุป
ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดอะไรก็ตามย่อมมีความเสี่ยงควบคู่ไปกับผลดีเสมอ ในกรณีฉุกเฉินทีมแพทย์ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้แม่และลูกปลอดภัย ไม่ว่าเด็กจะเป็นโรคภูมิแพ้เนื่องจากคลอดเองหรือผ่าคลอดก็ตาม แพทย์สามารถรักษาได้
ปัจจุบันนี้นิยมการผ่าคลอดมาขึ้น ว่าที่คุณแม่ทั้งหลายควรหาข้อมูลเรื่องผลกระทบจากการผ่าคลอด คุณกำลังเพิ่มความเสี่ยงให้ลูกคุณเพียงเพราะว่ามันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดหรือเปล่า ความจริงก็คือ การผ่าคลอดดูดีตามแผ่นพับของโรงพยาบาลหรือเอกสารทางการแพทย์แต่ก็ต้องใช้เวลารักษานานทีเดียว แต่บางครั้งการผ่าคลอดคือทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณและสามี แต่อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับผู้อื่นก็ได้
รู้หรือเปล่าว่าพ่อแม่ปกป้องลูกจากภูมิแพ้ได้นะ
ภูมิแพ้ 1 ในเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นโรคที่สามารถส่งผลต่อพัฒนาการของลูกได้ในระยะยาว วันนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถปกป้องลูกน้อยตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยการทดสอบความเสี่ยงภูมิแพ้ ที่ทำได้ทันทีแค่ไม่เกิน 1 นาทีตั้งแต่ลูกอยู่ในครรภ์และในช่วงแรกเกิด เพื่อวัดระดับความเสี่ยงจากประวัติของครอบครัว
ประสบการณ์การผ่าคลอดอย่างละเอียด
ไม่ว่าเด็ก จะเป็นโรคภูมิแพ้ เนื่องจากคลอดเอง หรือผ่าคลอดก็ตาม แพทย์สามารถรักษาได้
อ่านสาระความรู้ สำหรับคุณแม่ผ่าคลอดโดยเฉพาะ ที่นี่ !!
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และในเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการของทารก ตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์ และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความที่เกี่ยวข้อง :
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เตรียมตัว ก่อนคลอดลูก ต้องทำอะไรบ้าง ? ของสิ่งไหนจำเป็น ?
22 สิ่ง ที่ควรทำ ในเดือนสุดท้าย เช็คลิสต์ก่อนคลอด มีอะไรบ้าง ไม่ควรพลาด
การเตรียมตัว ก่อนคลอดธรรมชาติ คลอดเอง เตรียมตัวอย่างไร คลอดธรรมชาติ อันตรายไหม
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!