เคยเจอปัญหานี้ไหมคะ? ระหว่างที่กำลังนอนกลับต้องสะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียง น้ำแอร์หยด ทำให้ต้องรีบปิดเครื่องปรับอากาศและเช็กดูว่าน้ำไปโดนสิ่งของสำคัญ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในห้องหรือเปล่า ทำให้กังวลว่าสิ่งของเหล่านั้นจะเสียหายและเสี่ยงต่อการเกิดไฟรั่ว ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้
สำหรับใครที่ประสบกับเหตุการณ์เหล่านี้อยู่บ่อย ๆ และแก้ปัญหาโดยการนำถังมารองน้ำเอาไว้ก่อน แล้วใช้เครื่องปรับอากาศในสภาพที่น้ำหยดแบบนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าถ้าน้ำแอร์หยดจะทำให้เครื่องปรับอากาศของคุณพังเร็วขึ้น แถมค่าไฟอาจพุ่งขึ้นอีกด้วย วันนี้ theAsianparent จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า น้ำแอร์หยดมีสาเหตุเกิดจากอะไร และมีวิธีแก้ไขเบื้องต้นอย่างไรบ้าง ที่คุณเองก็สามารถทำได้ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!!
น้ำแอร์หยด อันตรายหรือเปล่า?
แม้ดูเหมือนว่าปัญหาน้ำแอร์หยดเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ นั้น จะดูไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้โดยตรง แต่ในความเป็นจริงนั้น ถ้าหากปล่อยให้น้ำแอร์หยดในระยะยาว และไม่มีการซ่อมแซมแก้ไข ปล่อยให้น้ำแอร์หยดเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับฝ้า เพดาน และกำแพง รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ และอาจเกิดไฟฟ้าช็อตที่ส่งผลต่อผู้อาศัยได้เช่นกัน รวมถึงยังส่งผลเสียต่อเครื่องปรับอากาศในระยะยาวอีกด้วย เมื่อแอร์มีอาการน้ำหยดจึงควรรีบแก้ไขโดยเร็วจะดีที่สุด
น้ำแอร์หยด เกิดจากอะไร?
การที่น้ำแอร์หยดสามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยภายในอย่าง การที่ไม่ได้ล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศเป็นระยะเวลานาน ถาดรองน้ำทิ้งแตก น้ำยาแอร์ใกล้จะหมด ส่วนปัจจัยภายนอกเป็นเรื่องของเครื่องปรับอากาศ ที่ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หรือการที่น้ำแอร์หยดทั้งที่เพิ่งซื้อมา เป็นไปได้ว่าช่างที่ทำการติดตั้งอาจไม่มีความชำนาญเพียงพอ เลยทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ใครที่กำลังเจอกับปัญหาน้ำแอร์หยดอยู่ สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ตามนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีซักหมอน ยังไง? ให้สะอาด ไม่มีคราบสกปรก
1. ไม่ได้ทำความสะอาดฟิลเตอร์ หรือแผ่นกรองฝุ่น
การทำความสะอาดแผ่นกรองฝุ่น เป็นเรื่องที่หลายคนอาจลืมนึกถึง หรืออาจไม่ค่อยมีเวลาได้ทำความสะอาด ซึ่งเหตุผลเหล่านั้นจะส่งผลให้ฟิลเตอร์หรือแผ่นกรองฝุ่นสกปรก มีฝุ่นเกาะ ส่งผลให้เกิดการอุดตันที่แผ่นกรอง ทำให้เครื่องปรับอากาศไม่สามารถระบายความเย็นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อไม่สามารถระบายความเย็นออกมาได้หมด ก็จะเกิดน้ำแข็งเกาะอยู่ภายในเครื่อง และเมื่อไหร่ที่อุณหภูมิในห้องสูงขึ้น ก็จะทำให้น้ำแข็งละลายไหลออกมาเป็นหยดน้ำนั่นเอง
วิธีแก้ไข :
ถอดฟิลเตอร์ออกมาทำความสะอาด ด้วยการล้างน้ำเปล่าโดยไม่ต้องขัดฟิลเตอร์ และนำไปผึ่งให้แห้ง หรือว่าจะใช้เครื่องดูดฝุ่นก็ได้ หลังจากนั้นก็นำไปประกอบเข้ากับตัวเครื่อง แต่วิธีนี้จะเป็นแค่วิธีเบื้องต้นเท่านั้น ทางที่ดีควรล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน เพื่อเป็นการป้องกันการอุดตันที่จะเกิดขึ้น
2. ถาดรองน้ำทิ้งอุดตัน หรือแตก
ใครที่ไม่เคยเรียกช่างมาล้างแอร์เลย มีโอกาสที่จะทำให้ถาดรองน้ำทิ้งเกิดการอุดตัน เพราะตัวถาดรองน้ำทิ้งมีหน้าที่ในการรองรับน้ำในกระบวนการฟอกอากาศ เมื่อไหร่ที่มีฝุ่นอยู่ข้างในตัวเครื่องมากเกินไป จะทำให้น้ำในถาดมีฝุ่นปะปนอยู่ด้วย และไหลไปอุดตันอยู่ที่ท่อน้ำทิ้งของถาด หรือใครที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศไว้ในบริเวณที่ถูกแสงแดดส่องถึง อาจทำให้เกิดตะไคร่น้ำในถาดแล้วเกิดการอุดตันได้เช่นกัน ส่งผลให้ท่อไม่สามารถระบายน้ำออกมาได้ จึงทำให้น้ำไหลย้อนไปออกที่หน้าเครื่อง กลายเป็นหยดน้ำได้
วิธีแก้ไข :
สับเบรกเกอร์ลงเพื่อความปลอดภัย แล้วนำภาชนะมารองน้ำในตอนที่คุณถอดถาดออกมา เมื่อคุณถอดถาดออกมาจะเห็นได้เลยว่า ในรางมีคราบสิ่งสกปรกที่เป็นเมือก ๆ ติดอยู่ ให้เทน้ำทิ้ง และทำความสะอาดที่ท่อน้ำทิ้งของถาดด้วยการฉีดน้ำไล่ฝุ่น เพื่อให้สิ่งสกปรกที่ค้างอยู่ภายในท่อหลุดออกจนหมด เพียงเท่านี้ถาดและท่อน้ำทิ้งก็จะไม่อุดตัน
แต่ถ้าใครที่ทำความสะอาดแล้วถาดยังมีน้ำรั่วอยู่ ให้ทำการตรวจเช็กที่ถาดน้ำทิ้งว่า มีสภาพที่ชำรุดหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีรอยร้าวหรือแตกก็จะทำให้เกิดการรั่วซึมได้ แต่ถ้าตรวจสอบแล้วไม่พบรอยแตก ให้เช็กอีกทีว่าประกอบถูกวิธีหรือไม่ เพราะอาจเป็นไปได้ว่าที่ทำความสะอาดรอบล่าสุด อาจใส่ถาดไม่ลงล็อกทำให้น้ำแอร์หยดออกมา
3. น้ำยาแอร์ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
ใครที่กำลังเปิดเครื่องปรับอากาศอยู่ แต่กลับไม่ได้รู้สึกถึงความเย็นเลย เป็นไปได้ว่าน้ำยาแอร์กำลังจะหมด วิธีในการเช็กเบื้องต้นให้คุณลองสังเกตที่พัดลมของคอยล์ร้อน ว่ามีลมพัดออกมาเป็นลมอุ่น ๆ หรือลมร้อนไหม ถ้ายังมีลมร้อนออกมาหมายความว่า น้ำยาแอร์ของคุณยังอยู่ในระดับปกติ แต่ถ้าเป็นลมปกติ ที่ไม่มีลมอุ่น หรือลมร้อน แสดงว่าน้ำยาแอร์ไม่เพียงพอต่อการใช้งานเครื่องปรับอากาศ ให้เติมน้ำยาแอร์โดยปกติน้ำยาแอร์จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่
- R22 : เป็นสารทำความเย็นรุ่นเก่า ที่นิยมใช้กับเครื่องปรับอากาศบ้านทั่วไป
- R32 : เป็นสารทำความเย็นที่ไม่ทำลายโอโซน ลดการเกิดภาวะโลกร้อน และมีราคาสูง
- R410A : เป็นสารทำความเย็นรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ผลิตมาเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และช่วยประหยัดพลังงาน
หากคุณลองเช็กแล้วพบว่าน้ำยาแอร์กำลังจะหมด ไม่แนะนำให้คุณใช้งานเครื่องปรับอากาศต่อ เพราะจะส่งผลเสียทำให้ตัวเครื่องไม่สามารถทำการผลิตความเย็น และอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ทางที่ดีแนะนำให้เรียกช่างแอร์มาตรวจสอบจะดีที่สุด เพราะจะได้ทำการเช็ก พร้อมกับตรวจสอบว่ามีรอยรั่วซึมของน้ำยาแอร์ด้วยหรือเปล่า
บทความที่เกี่ยวข้อง : อยู่ให้ห่างของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ตัวการลูกพัฒนาช้า
เปิดแอร์ใช้งานขณะที่มีน้ำหยดได้ไหม ?
หยดน้ำที่เกิดขึ้นภายในเครื่องปรับอากาศเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความแตกต่างของอุณหภูมิซึ่งเป็นสาเหตุปกติที่สามารถพบได้ทั่วไป ไปจนถึงน้ำแอร์หยดเกิดจากสาเหตุที่ได้กล่าวข้างต้น ถ้าหากสังเกตแล้วพบว่ามีน้ำแอร์รั่ว หรือมีการรั่วไหลที่รุนแรง ถือว่าเป็นอาการที่ผิดปกติ และต้องทำการแก้ไขทันที โดยไม่แนะนำให้เปิดใช้งาน ไม่เช่นนั้นน้ำแอร์ที่รั่วอาจทำให้ระบบของเครื่องปรับอากาศเกิดความเสียหายได้
นอกจากนี้ หากยังคงเปิดใช้งานในขณะที่น้ำแอร์หยดอยู่ อาจทำให้เกิดการช็อต ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน และเครื่องปรับอากาศ ดังนั้นจึงควรปิดหรือหยุดใช้งานทันที และควรติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการแก้ไขการรั่วไหลของน้ำแอร์หยดให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ถึงจะเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศอีกครั้ง
น้ำแอร์หยดควรเรียกช่างมาไหม?
การที่น้ำแอร์หยดหรือน้ำแอร์รั่ว เป็นปัญหาที่น่าหงุดหงิดสำหรับหลายคน ถ้ายิ่งเกิดขึ้นในช่วงกลางดึก แน่นอนว่าคุณก็คงจะต้องหาภาชนะมารองน้ำเอาไว้ก่อน แล้วจึงโทรติดต่อเรียกช่างให้มาซ่อม หรือไม่ก็อดทนใช้เครื่องปรับอากาศทั้งที่น้ำหยดแบบนั้น ซึ่งถ้าคุณปล่อยให้น้ำรั่วบ่อย ๆ จะทำให้เกิดความเสี่ยงกับคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านได้ เพราะเครื่องปรับอากาศของคุณมีโอกาสที่จะเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
สำหรับใครที่ต้องการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น โดยเริ่มด้วยวิธีง่าย ๆ ที่คุณเองก็สามารถทำได้ ด้วยการทำความสะอาดฟิลเตอร์ หรือแผ่นกรองฝุ่นก่อน ถ้าคุณลองแล้ว ยังมีอาการน้ำแอร์หยดอยู่ให้คุณถอดและล้างถาดรองน้ำทิ้ง เพื่อไล่สิ่งอุดตันที่ติดอยู่ในท่อออก ตอนประกอบถาดรองกลับเข้าเครื่อง อย่าลืมเช็กให้ดีว่าได้ใส่อย่างถูกวิธี
แต่ถ้าแก้ไขด้วยตัวเองแล้วยังเป็นอยู่ อาจเป็นไปได้ว่าน้ำยาแอร์กำลังจะหมด หรือเครื่องปรับอากาศของคุณไม่ได้ติดตั้งอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน แนะนำให้คุณโทรติดต่อช่างแอร์จะดีที่สุด เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทางเทคนิคที่จะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญมาทำการแก้ไขให้ เพียงเท่านี้เครื่องปรับอากาศก็จะสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ และเพื่อเป็นการป้องกันที่ต้นเหตุไม่ให้น้ำแอร์หยด ควรล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือนจะดีที่สุดค่ะ!
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วิธีล้างแอร์ด้วยตัวเอง เคล็ดลับเข้าใจง่าย ผู้หญิงก็ทำเองได้ ไม่ต้องง้อช่าง!
เก็บสายไฟโต๊ะคอม ทำอย่างไรไม่ให้รก วิธีเก็บที่ใครก็ทำตามได้!
วิธีทำความสะอาดไมโครเวฟ เคล็ด(ไม่)ลับ กำจัดคราบสกปรก เก่าแค่ไหนก็เหมือนใหม่!
ที่มา : daikin