เคล็ดลับ 5 วิธี เสริมทักษะ ช่วยลูกปรับตัวเข้าโรงเรียนนานาชาติ
1. ให้ลูกเล่า
แม้จะฟังดูง่าย แต่กลับเป็นเรื่องที่หลาย ๆ ครอบครัว ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร ผู้ปกครองที่ทำงานนอกบ้านหรือทำงานยุ่ง ๆ มักไม่มีเวลาสื่อสารกับลูกมากพอ จนบางครั้งทำให้ปัญหาเล็ก ๆ ที่อาจแก้ไขได้อย่างง่ายดายด้วยการพูดคุย กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ ผู้ปกครองควรหาเวลาอย่างน้อยประมาณ 10 - 15 นาทีพูดคุยกับลูก และตั้งใจฟังสิ่งที่เขาทำและประสบมาในแต่ละวัน สังเกตสีหน้าท่าทางและอารมณ์ของลูกว่า เขาสนุกสนานมีความสุขหรือซึมเศร้า เด็กที่ต้องปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ มักพยายามลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง และมีคำถามมากมาย ที่คุณควรอธิบายและให้คำแนะนำ ยิ่งมีอุปสรรคด้านภาษา อาจทำให้เด็กปรับตัวเข้ากับเพื่อน ๆ ได้ลำบากขึ้น
2. เข้าใจความแตกต่าง
ทั้งคุณครูและเพื่อนต่างชาติต่างวัฒนธรรม อาจทำให้เด็กสงสัย ไม่เข้าใจอะไรหลาย ๆ เรื่อง และในบางครั้งนั้น อาจจะปฏิบัติตัวไม่เหมาะสมด้วย ด้วยความที่รู้เท่าไม่ถึงการ เช่น การล้อเลียนหน้าตา สีผิว หรือการแต่งกาย เป็นหน้าที่ผู้ปกครองที่จะต้องสอน ให้เด็กรู้จักให้เกียรติและเคารพผู้อื่น แม้ว่าพวกเขาจะมีรูปร่างหน้าตา สีผิว หรือความเชื่อต่างจากตัวเอง และไม่ใช่ว่าจะต้องเลือกคบแต่คนที่มีรูปร่างหน้าตาสีผิวเหมือนกันเท่านั้น
3. สนับสนุนให้แสดงออก
สิ่งหนึ่งที่เด็กไทยอาจไม่คุ้นเคย คือการยกมือแสดงความคิดเห็น ตั้งคำถามในห้องเรียน หรือแม้กระทั้ง การพูดต่อหน้าคนจำนวนมาก ซึ่งแตกต่างกับเด็กจากชาติตะวันตกโดยสิ้นเชิง คุณครูในโรงเรียนนานาชาติ มักจะกระตุ้นให้เด็กมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน และมีปฏิสัมพันธ์กับคุณครูอย่างเต็มที่ เพื่อให้เด็กเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรสนับสนุนให้ลูกได้แสดงออกทางความคิด ไม่ว่าจะอยู่ที่โรงเรียนหรืออยู่บ้าน เปิดโอกาสให้ลูกถามในสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ เพื่อให้เด็กมีความกล้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมปลูกฝังเรื่องการแสดงความคิดเห็น และการตั้งคำถามอย่างเหมาะสม ความก้าวร้าวอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการพ่วงมากับความกล้าแสดงออก สิ่งนี้สามารถปลูกฝังได้ง่าย ๆ โดยการให้ลูกอ่านหนังสือ ร้องเพลง หรือเล่านิทานให้คุณฟัง หรือแม้กระทั่งเมื่อออกไปนอกบ้าน คุณอาจให้ลูกขอซอส ช้อนส้อม หรือถามพนักงานเกี่ยวกับอาหารในร้านด้วยตัวเองก็ได้
4. ร่วมกิจกรรม
สนับสนุนให้ลูกร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานปีใหม่ งานกีฬา ออกร้านขายของ ทำบุญ ทัศนศึกษา หรือแม้แต่การปล่อยให้เล่นหลังเลิกเรียน ไปกินขนมกับเพื่อน ๆ หรือไปบ้านเพื่อนเป็นครั้งคราว ฯลฯ แม้แต่คุณเองก็ควรไปร่วมกิจกรรมกับลูกเมื่อมีโอกาส เพราะการทำกิจกรรมต่าง ๆ จะทำให้ทั้งคุณและลูกคุ้นเคยกับคนอื่น ๆ และสังคมใหม่มากขึ้น
5. เสริมภาษา
เป็นเรื่องปกติ ที่เด็กไทยจะประสบปัญหาด้านการสื่อสาร เมื่อต้องย้ายเข้าไปในโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งอาจทำให้เด็กเครียดได้ในช่วงแรก แต่โดยปกติเด็กจะสามารถปรับตัวได้ในไม่ช้า แต่ถ้าอุปสรรคทางด้านภาษาทำให้เด็กเรียนไม่รู้เรื่อง และเกิดอาการเครียดหนัก ผู้ปกครองควรปรึกษาคุณครู ในกรณีที่โรงเรียนอาจมีคอร์สเสริมภาษาช่วย การเสริมทักษะด้านภาษานั้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งโรงเรียนกวดวิชาหรือสถาบันของต่างประเทศที่มีค่าใช้จ่ายสูงเสมอไป แม้แต่การดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ อ่านนิทาน ฟังเพลงหรือการหัดพูดประโยคสั้น ๆ ง่าย ๆ กันในบ้านก็สามารถช่วยพัฒนาทักษะได้เช่นกัน คุณไม่ควรบังคับให้ลูกอ่านหนังสือเรียนหนัก ๆ เพราะจะยิ่งทำให้เด็กเครียดยิ่งขึ้น และอาจส่งผลไปถึงสุขภาพจิตและการเรียนในระยะยาว
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และในเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการของทารก ตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์ และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความที่เกี่ยวข้อง :
the Local.de - New to international school? Tips from a pro
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
โรงเรียนนานาชาติแบบสิงคโปร์จะเหมาะกับลูกมั้ย
หนิง ศรัยฉัตร สอนภาษาอังกฤษลูกง่ายนิดเดียว
เด็ก 2 ภาษา ลูกเข้าใจก่อนพูดรึเปล่า