ผู้หญิงอย่างเราสามารถ ล้างรถ เองได้ไหมนะ ? แค่ล้างรถอาจจะฟังดูง่าย แต่จริง ๆ แล้วมีหลายอย่างมากที่ควรรู้ เพื่อที่เราจะสามารถล้างรถได้อย่างถูกต้อง สะอาดหมดจด และปลอดภัยต่อรถยนต์ของเรา ในวันนี้ เราจะพาเพื่อน ๆ มาดูว่า ในการล้างรถต้องเตรียมอะไรบ้าง และมีขั้นตอนการล้างรถอย่างไร ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ!
ควรล้างรถบ่อยแค่ไหน?
ในการล้างรถ เราควรล้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของคราบสกปรกที่อาจทำให้ล้างออกได้ยากเมื่อเวลาผ่านไปนาน แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ ไม่มีเวลาจริง ๆ หรือจำเป็นต้องล้างแบบเร่งด่วนมาก ๆ ก็สามารถใช้น้ำสะอาดฉีดล้างได้เลย แล้วจากนั้นเช็ดด้วยผ้าแห้ง เพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำบนตัวรถ
รวมขั้นตอนวิธีการ ล้างรถ ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
-
ขั้นตอนที่ 1 รวบรวมวัสดุที่จำเป็น
ก่อนที่เราจะเริ่มล้างรถ แน่นอนว่าเราจะต้องเตรียมอุปกรณ์กันก่อน ไม่ว่าจะเป็นถังน้ำ สบู่ล้างรถ ฟองน้ำหรือผ้าเช็ดหน้า และสายยางที่มีหัวฉีด นอกจากนี้ เรายังอาจต้องการถังซักผ้าแยกต่างหาก เพื่อทำความสะอาดอุปกรณ์หลังจากล้างรถเสร็จ รวมถึงผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ 2-3 ผืน สำหรับเช็ดรถให้แห้งหลังจากล้างรถเสร็จ โดยตัวอย่างอุปกรณ์มีดังนี้
- ถังน้ำ 2 ใบ สำหรับใส่น้ำยา 1 ใบ และใส่น้ำไว้ซักผ้าอีก 1 ใบ
- น้ำยาล้างรถ
- น้ำประปาจากสายยาง
- แปรงขัดล้อ
- ผ้าเช็ดรถชามัวร์
- ฟองน้ำล้างรถ
และถ้าหากเพื่อน ๆ วางแผนที่จะล้างรถที่บ้าน เราจะต้องแน่ใจว่า เรามีสถานที่สำหรับล้างรถที่เหมาะสม เพราะเราจะต้องจอดรถบนพื้นราบ และสามารถเข้าถึงสายยางและน้ำได้อย่างสะดวกในตอนที่กำลังล้างรถ
โดยเมื่อเรามีอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดแล้ว ขั้นตอนในการล้างรถด้วยตนเองก็ค่อนข้างง่าย แต่มีบางสิ่งที่เราควรจะรู้เพื่อให้ล้างรถได้อย่างถูกวิธี อันดับแรก เราจะต้องเริ่มต้นล้างรถด้วยผิวของรถที่มีความสะอาด และแห้ง หากรถของเรามีคราบสกปรกมาก ๆ หรือมีโคลนแห้งติดตามรถเต็มไปหมด ให้ใช้สายฉีดชำระล้างก่อน เมื่อพื้นผิวสะอาดแล้ว เราก็สามารถเริ่มล้างได้เลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : Tips คุณพ่อ: 4 วิธี ดูแลแอร์รถยนต์ให้เย็นไปอีกนาน
-
ขั้นตอนที่ 2 ล้างรถด้วยน้ำ
หากเรากำลังจะล้างรถด้วยตนเอง ก่อนอื่นเลยเราจะต้องเริ่มด้วยการล้างรถด้วยน้ำประปาก่อน เพราะวิธีนี้จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสิ่งสกปรกที่หลุดร่อนออกจากพื้นผิวรถ และต้องแน่ใจด้วยว่า ใช้ท่อที่มีหัวฉีด เพื่อให้สามารถควบคุมแรงดันน้ำได้ เพราะถ้าเราฉีดน้ำแรงเกินไปอาจจะกระทบกับสีของรถยนต์ของเราได้
-
ขั้นตอนที่ 3 ล้างรถโดยใช้ฟองน้ำหรือผ้า
เริ่มจากให้เพื่อน ๆ เติมน้ำสบู่ลงในถัง จากนั้นให้เช็ดฟองน้ำหรือผ้าให้เปียก แล้วเริ่มล้างรถจากบนลงล่าง อย่าลืมล้างฟองน้ำหรือผ้าบ่อย ๆ ในน้ำสบู่ เพื่อไม่ให้รถเกิดรอยขีดข่วน เมื่อเสร็จแล้ว ก็ให้ล้างรถด้วยสายยาง
-
ขั้นตอนที่ 4 เช็ดรถให้แห้งด้วยผ้าชามัวร์หรือผ้าไมโครไฟเบอร์
ผ้าชามัวร์ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์ เป็นผ้าที่เหมาะสมที่สุดในการเช็ดรถให้แห้งหลังจากล้างรถ เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดจุดน้ำและริ้วบนสีบนรถ
-
ขั้นตอนที่ 5 ลงแว็กซ์หรือกาวยาแนวเพื่อป้องกันสี
แว็กซ์และสารเคลือบหลุมร่อง จะช่วยเพิ่มการปกป้องสีรถอีกชั้นหนึ่ง และสามารถช่วยให้การล้างทำความสะอาดง่ายขึ้น เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่ง อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างระมัดระวัง และเราควรทาแว็กซ์หรือสารเคลือบหลุมร่องกับรถที่สะอาดและแห้ง แล้วจากนั้นให้ขัดออกด้วยผ้าแห้งสะอาด
-
ขั้นตอนที่ 6 ทำความสะอาดล้อและยาง
ล้อและยางเป็นส่วนที่เกิดคราบสกปรกได้ง่ายที่สุด เพราะมีการสัมผัสกับพื้นถนนตลอดเวลา การทำความสะอาดล้อและยางจะมีขั้นตอน ดังนี้
- ล้างล้อและยางด้วยน้ำ
- ใช้น้ำยาทำความสะอาดล้อกับล้อและยาง
- ขัดล้อและยางด้วยแปรง
- ล้างล้อและยางอีกครั้ง
- เช็ดล้อและยางให้แห้งด้วยผ้าขนหนู
-
ขั้นตอนที่ 7 ดูดฝุ่นภายในรถ
อย่าลืมดูดฝุ่นภายในรถก่อนเริ่มซักเบาะภายในรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรถของเรามีเบาะหนัง และต้องคอยระวังอย่าให้เครื่องดูดฝุ่นเสียหายด้วย
-
ขั้นตอนที่ 8 ทาสารป้องกันบนพื้นผิวภายใน
เมื่อเราล้างรถ อย่าลืมทาสารปกป้องพื้นผิวภายในรถ เพราะวิธีนี้จะช่วยให้รถของเราดูใหม่และทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นในครั้งต่อไป ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ปกป้องที่แตกต่างกันมากมายในท้องตลาด ดังนั้นเราควรเลือกที่เหมาะสมกับรถของเราให้มากที่สุดนะคะ
ข้อห้ามที่ไม่ควรทำในการล้างรถ
การล้างรถด้วยตนเอง แบบไม่ง้อคาร์แคร์ จะทำให้เราประหยัดรายจ่ายก็จริง แต่ใช่ว่าการล้างรถจะทำให้ประหยัดรายจ่ายได้เสมอไป หากเรายังทำพฤติกรรมเหล่านี้ขณะกำลังล้างรถอยู่ ในการล้างรถมีข้อห้ามอะไรบ้างที่ไม่ควรทำ ไปดูกันเลยค่ะ!
- ไม่ควรล้างรถกลางแดด จอดรถกลางแดดก็ไม่ดี ล้างรถกลางแดดก็ไม่ดีเหมือนกันค่ะ เพราะจะทำให้น้ำแห้งเร็ว เช็ดไม่ทัน และทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวสีรถ
- ไม่ควรใช้ฟองน้ำล้างรถ เพราะเม็ดทรายจะติดอยู่ในรูพรุนของฟองน้ำ เมื่อถูกับผิวสีรถ จะทำให้เกิดเป็นรอยขีดข่วน ควรใช้ผ้านุ่มล้างรถแทน
- ห้ามใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรถแทนการล้างรถ เพราะจะเป็นการทำลายสภาพสี โดยรอยขนแมว จะเกิดขึ้นจากผงฝุ่นต่าง ๆ ที่ติดบนผ้า ยิ่งเช็ดรถมากครั้ง การเกิดรอยก็ย่อมมากขึ้นตามปริมาณการเช็ด ควรล้างรถอย่างเดียว
- ไม่ควรใช้ไม้ขนไก่ จะไม้ขนไก่ หรือแปรงปัดฝุ่นทุกชนิดก็ห้ามนำปัดฝุ่นเพื่อทำความสะอาดรถ เพราะขณะที่ปัดฝุ่น ไม้ปัดฝุ่นจะลากถูขี้ฝุ่น เม็ดทราย ไปตามสีผิวรถ ทำให้เกิดริ้วรอยได้
- ไม่ควรนำผ้าชามัวร์ที่แห้งสนิทมาใช้เช็ดรถ เพราะเวลาที่ผ้าชามัวร์แห้งสนิท จะแข็งตัว และเมื่อจะทำมาเช็ดรถ อาจทำให้รถเป็นรอยได้ นอกจากนี้ คุณควรเช็ดจากด้านบนก่อน เพื่อไล่น้ำลงมาด้านล่างของรถ
โดยสรุปแล้ว ในการล้างรถด้วยตนเอง เราจะต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม และเริ่มล้างจากบนลงล่าง และอย่าลืมเช็ดรถของเราให้แห้งด้วยผ้าสะอาด ถ้าเราทำตามขั้นตอนการล้างรถยนต์ที่ถูกต้อง ด้วยเวลาและความพยายามเพียงเล็กน้อย แค่นี้เราก็สามารถล้างรถได้อย่างมืออาชีพเลยค่ะ!
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
5 ผ้าคลุมรถ สำหรับรถยนต์ กันแดด กันฝน คุณภาพดี สำหรับรถทุกรุ่น
7 กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี คมชัดระดับ Full HD!
5 เคล็ดลับการเลือก รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ปลอดภัย พร้อมไปทุกที่ได้อย่างมั่นใจ
ที่มา : carsome
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!