จากผลการวิจัยระบุว่า เด็กในช่วงวัยตั้งแต่ 3-8 ขวบ โปรดปรานการฟังนิทานก่อนนอนจากคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด มากกว่าการดูทีวี หรือการเล่นเกมเป็นไหน ๆ
ข้อดีของการเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟัง
1.ช่วยฝึกทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์และด้านการจินตนาการ
2.ทำให้เด็กนอนหลับได้สนิท
3.ช่วยกระตุ้น EQ และ IQ ให้กับเด็ก ๆ
4.ช่วยฝึกทักษะทางด้านภาษาได้อย่างดี
5.สร้างความสัมพันธ์อันอบอุ่นในครอบครัว
การอ่านนิทานให้ประโยชน์หลายด้าน แต่เล่ากันทุกวันอาจมีการเบื่อกันบ้าง ลองมาดูวิธีเล่านิทานแบบใหม่กันค่ะ
อ่าน6 วิธีเล่านิทานแบบใหม่ถูกใจลูกจัง คลิก
6 วิธีเล่านิทานแบบใหม่ถูกใจลูกจัง
1.เลือกภาพวาดแสนสวย สุดเจ๋งที่ลูกวาดแล้วนำมาผูกเรื่องขึ้นใหม่ โดยให้เครดิตลูกเป็นเจ้าของเรื่อง วิธีนี้ช่วยฝึกจินตนาการให้เต็มที่ไปเลย
2.ฉายไฟเล่าเรื่อง การเพิ่มสีสันเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับการเล่านิทานอยู่แล้ว แต่การจะเพิ่มความสนุกสนานน่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยการเล่านิทานด้วยแสงสลัวของไฟฉายหรือโคมไฟ ให้เข้ากับบรรยากาศอันแสนอบอุ่นในห้องนอน ที่คุณแม่และคุณลูกกอดกันเล่านิทาน มันช่างเป็นความสุขและความสนุกควบคู่กันจริง ๆ
3.เตรียมทางออกหากลูกตื๊อ เด็ก ๆ หากชอบนิทานเรื่องไหนแล้วละก็จะฟังกี่รอบ ๆ ก็ไม่เบื่อ แถมยังไม่ยอมนอนหากไม่ได้ฟังนิทานตามที่ร้องขอ แล้วผู้เล่าล่ะ? จะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี มีวิธีการดังนี้ค่ะ ก่อนเล่านิทานให้ลูกเป็นผู้เลือกนิทานที่ตนชอบและคิดว่าอยากฟังในวันนี้มากที่สุด ตั้งกฎเกณฑ์ระหว่างกันว่า เมื่อฟังจบแล้วจะต้องนอน และเล่าจบแล้วลูกต้องปฏิบัติตามสัญญานะ ไม่เช่นนั้นในวันต่อไปแม่จะไม่เล่านิทานให้ฟังอีก
4.วิธียอดนิยมตลอดกาล คือ ผู้เล่าต้องสรรค์หานิทานที่หลากหลายมาเล่าให้ลูกฟัง เพราะเด็ก ๆ ชอบเรื่องไหนก็มักจะให้เล่าแต่เรื่องนั้น คุณแม่ควรนำเสนอจุดขายของนิทานแต่ละเล่ม ว่าเล่มนี้สนุกอย่างไร แต่อย่าบอกตอนจบนะคะ ลองให้ลูกเดาแล้วค่อยเล่านิทานเพื่อเร้าใจให้ลูกคิดว่าตอจบน่าจะเป็นเช่นไรเป็นการกระตุ้นให้ผู้ฟังสนใจและอยากติดตาม โยคุณแม่บอกแก่ลูกว่า นิทานทุกเล่มมีความสนุกและน่าสนใจติดตาม เราควรอ่านนิทานหลาย ๆ เล่ม เราจะรับความสนุกที่แตกต่างกันไป เป็นการฝึกอ่านให้กับเกได้อย่างดี
5.ปลุกนิทานให้มีชีวิต ด้วยการหาผู้ช่วยเล่า ได้แก่ คุณพ่อ หรือจะเป็นตุ๊กตาหุ่นมือก็ได้เช่นกัน รวมทั้งให้ลูกได้ร่วมเล่นเป็นตัวละครที่เขาเลือกเอง การร่มเล่นละครด้วยกันสามารถสร้างความสนุกสนานและไม่น่าเบื่ออีกด้วยนะคะ
6.วิธีสุดท้าย คือ การนำพฤติกรรมของลูกในแต่ละช่วงวันมาเล่าเป็นนิทานให้สนุกสนาน และเพิ่มจินตนาการเข้าไปอีกจะทำให้กลายเป็นเรื่องสนุกที่มีลูกเป็นตัวละครเอก วิธีการนี้แสนสนุก และเพลิดเพลิน ทั้งผู้เล่าและผู้ฟังได้ดีทีเดียว
จะเห็นได้ว่า การเล่านิทานมีประโยชน์ต่อเด็กมากมาย ที่สำคัญการเล่านิทานก่อนนอนยังเป็นสายใยผูกพันแม่ลูก เป็นความอบอุ่นและไว้วางใจ คุณแม่อาจพูดคุยกับลูกในเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อฟังความคิดและทัศนคติ และในช่วงเวลานี้เองคุณแม่สามารถสอนและพูดคุยกับลูกด้วยเหตุและผลจะทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย ถือเป็นช่วงเวลาที่วิเศษจริง ๆ ค่ะ
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
หนูน้อยร้องไห้ทุกที ที่แม่เล่านิทานจบ เพราะอะไรดูคลิป
น้องปุ๊ เล่านิทานไข่ทองคำภาษาอาเซียน น่ารักสุด ๆ