ลูกขี้อายแก้ไขได้อย่างไร ทำยังไงให้ลูกเข้าสังคมเก่ง ไม่เขินไม่อายเวลาคนเยอะๆ
ลูกขี้อาย เป็นปัญหาที่พ่อแม่หลายคนกังวล และ คงเครียดมาเพราะกลัวว่าลูกจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้ ลูกอาจจะพลาดโอกาสสำคัญต่างๆได้มากมายเพราะความขี้อาย หรือ ลูกอาจจะมีปัญหาต่างๆได้ เพราะความขี้อายสามารถเป็นตัวแปรสำคัญในการพลาดสิ่งสำคญต่างๆ วันนี้ เรามาดู ลูกขี้อายแก้ไขได้อย่างไร ทำยังไงให้ลูกเข้าสังคมเก่ง ไม่เขินไม่อายเวลาคนเยอะๆ
ลูกขี้อาย เป็นปัญหาที่กลายเป็นข้อบกพร่องของสังคม โดยถ้าเด็กอายุ 2-6 ขวบ มีอาการขี้อายนั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าอายุมากขึ้นไปแล้วยังมีอาการขี้อายอยู่ ลูกอาจจะเจอปัญหามากมายได้ เช่น โดนเพื่อนแกล้ง หรือ พลาดโอกาสต่างๆ ซึ่งวันนี้เราจะมาดูวิธีแก้ไขลูกขี้อายกัน
ทำยังไง ลูกขี้อาย แก้ไขได้อย่างไร ทำยังไงให้ลูกเข้าสังคมเก่ง ไม่เขินไม่อายเวลาคนเยอะๆ
1.ช่วยลูกขี้อายโดยการดูธรรมชาติของเขา
ปฏิเสธ ไม่ได้เลยค่ะว่าเด็กแต่ละคนมีธรรมชาติที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นกาตอบโต้กับธรรมชาติของเด็กจะทำให้เขารู้สึกปลอดภัย เพราะเด็กจะอ่อนไหวเมื่อเกิดการเรียนรู้ เช่น ถ้าลูกของเขาเราเป็นเด็กที่รับฟังแล้วทำตามอาจจะค่อยๆเสริมว่า ลูกควรจะลองผูกมิตรกับเพื่อนคนนี้ไหมหรือลูกควรจะเข้าสังคมมากขึ้นหรือเปล่า เพื่อพวกเขาจะได้ปรับและนำไปใช้
2.ช่วยลูกขี้อายโดนสร้างพื้นฐานที่มั่นคง
การเสริมความมั่งคงให้ลูก เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่จะทำให้ลูกไม่อาย พ่อแม่ควรจะตอบสนองความต้องการของลูกในเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้เขารู้ว่าตัวเขาเองเป็นที่รัก ตัวเขาเองปลอดภัย และสามารถไว้ใจคนอื่นได้ การสร้างพื้นฐานจะทำให้เขารู้สึกมั่นใจในตัวเอง และ เขาจะกล้าพูด กล้าแสดง และกล้าคิดในสิ่งที่เขาต้องการจริงๆได้
3.ช่วยลูกขี้อายโดยพาลูกไปเล่นกับคนอื่นๆ
การให้ลูกเข้าสังคม ถือเป็นวิธีการที่ดีในการให้ลูกเข้ากับคนอื่น นอกจากนี้การเข้าสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นจะช่วยให้เด็กแสดงออกได้มากขึ้น และจะช่วยให้เขาเรียนรู้การ Giving&Sharing เพราะการเข้าสังคมกับคนอื่นนั้นต้องเรียนรูท้ี่จะแบ่งปัน รวมถึง จะทำให้พวกเขามีเพื่อนและอยากทำในสิ่งที่ดีร่วมกัน
4.ช่วยลูกขี้อายด้วยการจำลองสถานการณ์
การจำลองสถานการณ์ หรือเล่นละครรับบทบาทสมมติ คือการเตรียมความพร้อมให้เด็กก่อนออกไปพบสังคมใหม่ได้ในระดับหนึ่ง โดยอธิบายในลูกฟังว่า เมื่อไปโรงเรียนแล้วลูกจะได้พบกับใครบ้าง จำลองบรรยากาศห้องเรียนวันแรก เพื่อซักซ้อมการแนะนำตัวเองกับเพื่อนใหม่ อาจให้ลูกรับบทคุณครู ให้คุณแม่รับบทนักเรียนใหม่ พูดแนะนำตัวกับเพื่อนๆ ในชั้นเรียนเป็นตัวอย่าง ให้ลูกรู้ถึงบรรยากาศที่อาจจะได้เจอ เพื่อลดความตื่นเต้น หรือใช้ตุ๊กตามาแสดงบทบาทสมมติ จำลองสถานการณ์สั้นๆ และไม่ซับซ้อน ในการผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ อาจเล่านิทานให้ลูกฟังบ่อยๆ ให้ลูกได้เรียนรู้ว่าโลกภายนอกยังมีสังคมที่แตกต่าง มีผู้คนที่หลากหลายไว้รอให้เราทำความรู้จัก การฝึกฝนเตรียมความพร้อมผ่านการเล่นทำให้เด็กไม่เครียด ช่วยให้เด็กมีความมั่นใจ พร้อมออกไปเจอเพื่อนใหม่ และปรับตัวเข้าสังคมใหม่ๆ
5.ช่วยลูกขี้อายได้โดยไม่บังคบ
เด็กที่เขินอาย ส่วนใหญ่แล้วจะชอบโดนที่บ้านบังคับหรือฝืนใจให้ทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำ เพราะฉะนั้นหากคุณเป็นอย่างนั้นต้องลดลงนะคะ เพื่อให้ลูกไม่ต้องเขินอายและเขาจะได้ไม่รู้สึกว่าถูกบังคบ เพราะถ้าเขาโดนบังคับบ่อยๆ เขาจะรู้สึกว่าตัวเองไม่กล้า กลัว และรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง
6.ช่วยลูกขี้อายโดยพาไปเจอสังคมบ่อยๆ
การพาลูกออกไปพบปะผู้คนนอกบ้านบ่อยๆ ก็เป็นการฝึกให้ลูกเห็นตัวอย่างของผู้คนมากมายที่มีความหลากหลาย ได้พบเจอสถานการณ์ใหม่ที่แตกต่างในแต่ละครั้ง เพื่อพัฒนาทักษะในการเข้าสังคม เช่น พาลูกออกไปเล่นที่สนามเด็กเล่นในหมู่บ้าน เพื่อให้ได้พบเจอเด็กในวัยเดียว หรือต่างวัยกัน ออกไปพูดคุยทักทายกับเพื่อนบ้าน ให้คุณพ่อคุณแม่เป็นแบบอย่างในการกล่าวทักทาย ผูกมิตร มีปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน หรือคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัยใกล้เคียงกับลูกเรา พาลูกไปพบเจอเพื่อนๆ ของคุณพ่อคุณแม่บ้าง เพื่อให้ลูกเห็น เรียนรู้ จดจำวิธีการเข้าสังคมในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป และเลียนแบบ นำไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองได้ในอนาคต หรือให้ลูกชวนเพื่อนมาเล่นที่บ้าน แล้วชวนลูกวางแผนต้อนรับเพื่อนด้วยกันว่าจะทำขนมหรืออาหารอะไรเลี้ยงเพื่อนๆ หรือช่วยกันทำขนมให้ลูกนำไปฝากคุณครู และเพื่อนๆ ที่โรงเรียน ให้เขามีส่วนร่วมในขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ อุปกรณ์ และลงมือทำขนม และอาหารไปพร้อมกัน เพื่อให้เด็กรู้จักเป็นผู้ให้ มีน้ำใจกับผู้อื่น และช่วยให้เด็กๆ คนอื่นรู้สึกเป็นที่ยอมรับด้วยอีกทางหนึ่ง
Source : Aha Parenting
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
ข้อเท็จจริงที่พ่อแม่อาจจะไม่รู้ เกี่ยวกับ วิธี การเรียนรู้ที่ดีที่สุดของเด็กอายุ 6-12 ปี
ไขข้อสงสัย ผู้หญิงควร มีลูกตอนอายุเท่าไหร่ดี ไม่ควรมีลูกหลังอายุ 35 จริงไหม?
ลูกอ้วกเป็นหนอน แม่ฟ้องบริษัทผลิตนม ทำไมถึงปล่อยให้สกปรกแบบนี้