5 วิธีเลี้ยงลูกให้เป็นนักกีฬา ความสำเร็จที่พ่อแม่สร้างได้
พ่อแม่คนไหนที่อยากจะให้ลูกเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงต้องเริ่มตั้งแต่เด็ก ยิ่งพ่อแม่บางคนวางแผนลูกตั้งแต่ลูกน้อยยังอยู่ในท้องซะอีก เด็กบางคนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ แต่พรสวรรค์อาจเสียเปล่าถ้าไม่ได้รับการส่งเสริมให้ถูกจุด แต่สำหรับเด็กบางคนต้องใช้ความอดทน ขยัน ความมีวินัยสูงมาก และแน่นอนว่าต้องได้หมั่นฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง สำหรับครอบครัวไหนที่อยากจะให้ลูกเป็นนักกีฬาที่เก่งกาจหาตัวจับยาก มาดู 5 วิธีเลี้ยงลูกให้เป็นนักกีฬา กันดีกว่าค่ะ
1. ปั้นรูปร่างให้สูงใหญ่
รูปร่างมีส่วนสำคัญมากสำหรับนักกีฬา ยิ่งมีรูปร่างที่สูงใหญ่เท่าไหร่ย่อมแสดงถึงความได้เปรียบทางการแข่งขันมากเท่านั้น แต่การที่จะทำให้มีร่างกายที่สูงใหญ่ต้องเริ่มจากโภชนาการ คุณหมอประวีร์ สิริเธียรทรรศน์ได้เผยถึงเคล็ดลับเกี่ยวกับอาหารการกินว่า อันดับแรกต้องให้เด็กได้รับสารอาหารพวกวิตามิน เกลือแร่ที่ได้จากผักและผลไม้ รวมถึงโปรตีนให้เพียงพอ หากมีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาจะช่วยได้มาก
2. หากีฬาที่ลูกชอบ
บางครั้งลูกอาจจะไม่ชอบกีฬาที่พ่อแม่คาดหวังอยากจะให้เล่น ต้องลองให้ลูกน้อยได้ลองเล่นกีฬาหลายๆ ประเภท ดูว่าเขาชอบกีฬาไหนมากที่สุด แล้วค่อยผลักดันให้เขาต่อยอดกีฬาประเภทนั้นไปเรื่อยๆ โดยการหาครูฝึกที่เหมาะสมกับลูกของเรา บางครั้งกีฬาที่พ่อแม่อยากให้ลูกได้เล่น ลูกน้อยอาจจะไม่ชอบก็ได้ ถ้าบังคับลูกมากๆ ลูกอาจเกิดเบื่อหน่าย และไม่อยากเล่นในที่สุด
3. เลือกเวลาที่เหมาะสม
การฝึกเด็กจะขึ้นอยู่กับกีฬาแต่ละประเภท ดูความเหมาะสม เช่น ยิมนาสติก ต้องฝึกตั้งแต่เล็กๆ เพราะยังมีความยืดหยุ่นของร่างกายดี การว่ายน้ำก็เช่นกัน หากเป็นฟุตบอล ถ้าจะเริ่มจริงจังควรเริ่มที่อายุประมาณ 8-10 ขวบ และต้องรู้จักแบ่งเวลาให้เหมาะสม และต้องฝึกให้ลูกน้อยมีวินัยในตัวเอง สำหรับเจ้าตัวเล็กอาจมีการงอแงบ้าง เพราะธรรมชาติขิงเด็กอาจไม่หยุดนิ่ง แต่ถ้าเด็กมีความหลงใหลในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว เขาจะจริงจังกับเรื่องนั้นมากๆ ดังนั้น พ่อแม่ควรค่อยเป็นค่อยไปนะคะ
4. ฝึกซ้อมให้ถูกวิธี
การฝึกซ้อมอย่าเน้นฝึกหนักมากเกินไป ควรให้ลูกน้อยได้พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการที่เน้นฝึกซ้อมเยอะๆ ที่เรียกว่าโอเว่อร์เทรนด์ จะส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของลููกน้อย ทำให้กระดูกปิดเร็วขึ้น เด็กจะตัวไม่โต การเล่นเวทตั้งแต่อายุยังน้อยก็เช่นกัน พ่อแม่ควรค่อยๆ ฝึกลูกอย่างค่อยเป็นค่อยไป เน้นผลที่ระยะยาวจะดีกว่า และต้องเน้นที่พื้นฐานของกีฬานั้นๆ ให้ดี
5. พัฒนาส่งเสริมลูก
เมื่อลูกมีการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องจนถึงขั้นได้แชมป์แล้ว ลูกอาจจะต้องเปลี่ยนโค้ชที่มีความสามารถอีกระดับหนึ่ง เพราะจะทำให้ลูกน้อยได้รับการพัฒนาทักษะ เทคนิค และข้อแนะนำดีๆ จากโค้ชที่อาจมีประสบการณ์มากกว่า ซึ่งนักกีฬาต่างประเทศมักจะเปลี่ยนโค้ชบ่อย ด้วยเหตุผลที่ว่ากระบวนการการสอนของโค้ชแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ทำให้เด็กได้เรียนรู้ที่หลากหลาย
ทั้งหมดนี้เป็นแค่คำแนะนำเบื้องต้นสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการให้ลุกรักเป็นนักกีฬามืออาชีพ แต่คุณพ่อคุณแม่อย่างลืมว่าบางครั้งความฝันของลูกกับความฝันของพ่อแม่อาจไม่เหมือนกันก็ได้ ทางที่ดีควรถามความสมัครใจของลูกก่อน เพราะถ้าเขาได้ทำในสิ่งที่รักก็จะทำให้เขาตั้งใจที่จะฝึกฝนให้ประสบความสำเร็จในวันข้างหน้าได้
ที่มา: Thailand Makeover dailynews
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
เรื่องนี้แม่ต้องรู้ ว่ายน้ำในสระไม่ได้มาตรฐานอาจเสี่ยง “ลูกฟันกร่อน”