5 เคล็ดลับเลี้ยงลูกน้อยให้อารมณ์ดี ยิ้มเก่ง ไม่ขี้โมโห
การศึกษาพบว่า แม่ที่อารมณ์ดี จะทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่า เอนดอร์ฟิน ผ่านไปทางสายสะดือ ซึ่งจะทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีทั้งสมอง และอารมณ์ ส่วนแม่ที่มีอารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย พอลูกคลอดออกมาก็จะกลายเป็นเด็กงอแง เลี้ยงยาก มีพัฒนาการที่ช้า สำหรับแม่ที่คลอดน้องมาแล้ว คงต้องมาเริ่มปรับอารมณ์ลูกกันใหม่ โดยใช้ 5 เคล็ดลับเลี้ยงลูกน้อยให้อารมณ์ดี ดังต่อไปนี้
1. การใช้ภาษา
การสื่อสารด้วยภาษาจะทำเด็กๆ มีอารมณ์ขันได้ ถึงแม้ว่าทารกจะยังไม่ค่อยรู้ภาษาที่เราต้องการสื่อเท่าไหร่ ส่วนเด็กเล็กก็จะเรียนรู้คำอย่างจำกัด แต่มักจะสนุกมีอารมณ์ขับการการสื่อสารด้วยภาษาของพ่อแม่หรือคนรอบข้าง แต่การจะทำให้ลูกมีอารมณ์ดี พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาที่ยาก แค่ภาษาที่ง่าย เด็กๆ ก็รู้สึกสนุกได้ อย่างเช่น การเล่นจ๊ะเอ๋กับลูก นักวิจัยหลายคนให้เหตุผลว่า การสื่อสารที่สำคัญ และอารมณ์จะขันช่วยให้กระบวนการเรียนภาษาของลูกน้อยดียิ่งขึ้นได้
2. จินตนาการ
เด็กจะเริ่มมีจินตนาการให้เห็นในช่วง 12-18 เดือน เป็นช่วงเวลาที่เด็กจะเริ่มลอกเลียนแบบเรื่องตลกๆ ของพ่อแม่ และจะนำตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมกับสิ่งเหล่านั้นด้วย จริงๆ แล้วทารกอายุแค่ 7 เดือนก็สามารถที่จะสนุกไปกับการเล่นจั๊กจี๊ และการทำใบหน้าตลกๆ ของพ่อแม่แล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกสามารถสร้างเรื่องที่สนุกๆ ได้ก็คือจินตนาการนั่นเอง ซึ่งลูกน้อยจะสามารถสร้างเรื่องตลกขบขันได้ในช่วงอายุ 2 ปีขึ้นไป
3. แกล้งสร้างเรื่องหลอกลวง
ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องไหนจริงหรือเท็จจะเป็นอีกหนึ่งทักษะที่ช่วยให้เด็กๆ เกิดการพัฒนาด้านอารมณ์ที่ดีได้ เพราะมันเป็นการทำงานของภาวะจิตใจ งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า ความรู้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็ก และเด็กจะเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการเสียดสี การล้อเลียนได้อายุประมาณ 5 ขวบ แต่บางคนแค่ 3 ขวบเขาก็เข้าใจแล้ว งานวิจัยอื่นๆ ยังระบุว่า ความเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับการพูดไม่จริง แกล้งหลอก ประชดประชันสามารถพัฒนาจากประสบการณ์ที่เด็กมีอารมณ์ที่ดี
4. ปรับสภาพแวดล้อม
พ่อแม่ควรสร้างบรรยากาศให้เหมาะกับการเลี้ยงเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง สภาพอยู่ที่อยู่อาศัย ซึ่งจากการสำรวจโดยการแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม พบว่า เด็กกลุ่มที่ 1 จะให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปกติ มีเสียงเพลงดนตรีให้ฟัง ส่วนอีกกลุ่มจะให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่เสียงดัง มีการขว้างปาข้าวของ ผลจากการได้ทดลองใน 2 สัปดาห์พบว่า เด็กกลุ่มที่ 2 จะมีนิสัยไม่ค่อยชอบยิ้ม โกรธง่าย และชอบขว้างปาข้าวของ นอกจากนี้พ่อแม่บางคนยังชอบแหย่ให้ลูกอารมณ์เสียอีก ใครทำแบบนี้ให้หยุดซะ เพราะจะทำให้เด็กติดนิสัยที่โกรธง่ายและหงุดหงิด
5. สุขภาพของลูกน้อย
สุขภาพมีส่วนสำคัญต่อนิสัยของเด็ก เพราะเด็กที่ไม่แข็งแรงมักจะอารมณ์ไม่ดี เนื่องจากพ่อแม่มักจะขัดขวางให้ลูกน้อยได้ทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้ไม่ค่อยได้แสดงอารมณ์เท่าที่ควร สิ่งนี้เองก็เป็นส่วนที่ทำให้เด็กหงุดหงิดได้ง่าย หรือการที่เด็กถูกล้อเลียนบ่อยๆ จากฟันที่หลอ หรือตัวอ้วนเกินไป จึงทำให้เด็กมีอารมณ์ที่แปรปรวน และโกรธง่าย
พ่อแม่คนไหนที่อยากให้ลูกมีอารมณ์ที่ดี ต้องลองถามตัวเองก่อนว่าคุณเลี้ยงลูกได้ถูกวิธีหรือไม่ เพราะควรต้องรู้ว่าเด็กวัยไหนต้องส่งเสริมหรือใช้วิธีเลี้ยงดูอย่างไร เพื่อให้เขาเป็นคนที่ยิ้มง่าย สนุกสนาน และเป็นที่รักของคนอื่น
ที่มา: theconversation, เพจนี้เพื่อคนเป็นแม่
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
คลิปนวดทารก แม่นวด ลูกเพลิน แถมกระตุ้นระบบประสาทในสมองทารก
สอนลูกอ่านหนังสือ วิธีฝึกให้ลูกรักการอ่าน ตั้งแต่ยังเป็นทารก