คุณแม่อย่าวิตกไปมากเลย
ถ้าอะไร ๆ มันไม่สมบูรณ์แบบคุณไม่ควรรู้สึกผิดหรือรู้สึกแย่ เชื่อเถอะไม่มีคุณแม่คนไหนที่สามารถทำทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีข้อติหรอกค่ะ แค่คุณพยายามมีสติก็พอแล้ว อย่าว่าแต่คุณแม่ที่ต้องทำงานเต็มเวลาเลย ต่อให้เป็นแม่บ้านเต็มตัวก็ยังมีเรื่องหลงลืมผิดพลาด มาดูกันว่าสิ่งที่เราไม่ควรรู้สึกผิดกับมัน มีอะไรบ้าง
1. คุณรู้สึกเหนื่อย หงุดหงิดและอารมณ์ไม่ดีที่จะเล่นกับลูกๆ หรือไม่มีเวลาให้เขา ถ้าคุณฝืนที่จะใช้เวลากับลูกในขณะที่เหนื่อยหรือกำลังเครียดอยู่นั้น มีโอกาสสูงที่คุณอาจเผลอตวาดหรือหงุดหงิดใส่เขาได้ อย่าลืมว่าถึงเขาจะยังเป็นเด็ก แต่การรับรู้และความเข้าใจของเขาละเอียดอ่อนมากกว่าที่เราคิด หากคุณตวาดลูกไปแล้ว อย่าเงียบเก็บความรู้สึกผิดไว้คนเดียว อธิบายให้ลูกฟังถึงเหตุผลว่าคุณเหนื่อยหรือเครียดเพราะอะไร เวลาคุณไม่ว่างมาดูเขาแสดงที่โรงเรียนก็บอกเหตุผลไปเขาจะเข้าใจและยอมรับได้เป็นอย่างดี เป็นการสอนเขาไปในตัวถึงสภาพความเป็นจริงที่เขาต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับในเหตุผลต่าง ๆ เมื่อเขาโตขึ้นด้วย คุณกับลูกน่าจะจดจำช่วงเวลาที่มีค่าอันน่าประทับใจมากกว่าค่ะ
2. คุณรู้สึกว่าอาหารที่ลูกคุณบริโภคมีคุณค่าสารอาหารไม่ครบ ในชีวิตจริง เด็กทุกคนไม่ได้มีความสุขกับการกินนมหรือผักผลไม้ต่าง ๆอย่างภาพในนิตยสาร หรือโฆษณาในโทรทัศน์เสมอไป อย่าลืมว่าลูกก็กำลังเรียนรู้ว่าจะชอบกินอะไรบ้างเหมือนกัน เป็นเรื่องปกติที่เด็กจะกินของซ้ำ ๆ ที่ชอบเพียงไม่กี่อย่าง พยายามให้เขารู้สึกสนุกกับการลองกินของใหม่ ๆ แต่ก็อย่าบังคับเขามากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อลูกอยู่กับเด็กคนอื่น ๆ เพราะเด็กไม่อยากจะมีเรื่องขายหน้าต่อหน้าเพื่อนเขาหรอก
3. เมื่อลูกลืมกล่องข้าวกลางวัน หรือลืมเงินค่าอาหารกลางวัน ไม่ใช่ความผิดของคุณเสมอไป อย่าลืมว่าเมื่อเขาโตพอที่จะไปโรงเรียน เขาต้องเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว เช่นทำการบ้าน หรือไม่ลืมกล่องข้าวกลางวัน หรือเงินค่าอาหารกลางวัน เป็นต้น การที่ลูกลืมไม่ใช่ความผิดคุณและอย่ากังวลเลย อนาคตลูกต้องหัดช่วยตัวเองเมื่อเจอสถานการณ์ต่าง ๆ อีกเยอะ
4. ลูกของคุณใส่รองเท้าหรือเสื้อผ้าขาดหรือสกปรกนิดหน่อย เป็นเรื่องปรกติที่เด็กจะเล่น หรือไม่ระวังอยู่แล้ว คุณต้องเป็นตัวอย่างให้เขาดูถึงการรับผิดชอบตัวเองในเรื่องความมีระเบียบและอนามัยเหล่านี้ ทำให้เขาดูหรือทำไปพร้อมกับเขา เช่นการล้างมือก่อนกินข้าว ในขณะเดียวกันลูกจะเป็นคนบอกเองเมื่อมือสกปรก รองเท้าขาดหรือคับเกินไป
5. เมื่อคุณครูโทรศัพท์มาบอกว่าลูกคุณตัวร้อน หรืออาเจียนที่โรงเรียน บางครั้งก็ยากที่คนเป็นแม่จะรู้ถึงอาการเจ็บป่วยของลูก บางครั้งเด็กอาจจะไม่สบายแค่นิดหน่อย คุณไม่ต้องห่วงเพราะยังไงทุกโรงเรียนมีห้องพยาบาลอยู่แล้ว