เจ้าบ่าวเจ้าสาวหมาด ๆ อาจไม่รู้ว่าหลังแต่งงานแล้วควรทำตัวอย่างไร อ่านนี่เลยค่ะ คำแนะนำดี ๆ จากเลสลี โดเรส โค้ชแต่งงานและผู้แต่งหนังสือเรื่อง แบบแปลนการสร้างครอบครัวที่ยั่งยืน
ข้อผิดพลาดที่มักพบได้ทั่วไป ได้แก่
-
คาดหวังเกินจริง
ชีวิตจริงไม่ได้สวยงามเหมือนในละครรักโรแมนติก
“อย่าอินว่า ความรักชนะทุกอย่าง เราคือส่วนเต็มเติมของกันและกัน สามีจะดูแลฉันอย่างดี แค่เรามองตาก็รู้ใจกัน เขาจะไม่มีวันทำร้ายฉันเด็ดขาด”
หนังส่วนใหญ่ไม่ได้ซูมภาพกองบิลบนโต๊ะในบ้านพระเอกนางเอกให้คุณดูหรอก คุณอาจกรีดร้องกับสิ่งเหล่านี้หลังย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันแล้ว
วิธีแก้
กลับมาสู่โลกความเป็นจริงเถอะค่ะ “คุยทำความเข้าใจกันเรื่องบทบาทหน้าที่ที่สามีภรรยาที่พึงกระทำและภาพชีวิตแต่งงานที่คิดไว้ จะได้ไม่ต้องทะเลาะกันทีหลังเพราะทัศนคติไม่ตรงกัน”
อย่าคาดหวังว่าเขาจะเปลี่ยนตัวเองได้หมดตามที่คุณต้องการ ถ้าเรื่องไหนที่คุณคิดว่ามันคอขาดบาดตายจริง ๆ ควรคุยกันให้เข้าใจและหาทางออกที่ดีต่อทั้ง 2 ฝ่าย
-
ไม่มีแผนรับมือเมื่อเจอเรื่องลำบากใจ
จำไว้เลยว่า “การสร้างชีวิตคู่กับใครสักคนเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะต่างคนก็คิดต่างกัน”
และอีกข้อที่ห้ามลืม “การหลีกหนีไม่ช่วยให้ปัญหาคลายลง แต่เป็นการเพาะเมล็ดความไม่พอใจที่สักวันจะทำลายความสัมพันธ์จนพังป่นปี้”
วิธีแก้
อย่าคาดหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าเดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น โดยไม่ต้องลงมือทำอะไรทั้งนั้น
สิ่งที่ต้องทำ และเป็นวิธีเดียวที่จะแก้ปัญหานี้ได้ คือ “คุณทั้งคู่ต้องเรียนรู้วิธีคุยเรื่องลำบากใจอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใส่อารมณ์ และไม่ขึ้นเสียงใส่กัน”
-
ฝืนตัวเองเกินไป ยอมเสียสละจนตัวเองรู้สึกแย่
ปกติผู้ใหญ่มักสอนว่า อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง ให้คิดถึงอีกฝ่ายก่อน
“แต่คุณไม่จำเป็นต้องยอมเสียสละและเสียความเป็นตัวของตัวเองไปทั้งหมด การฝืนใจทำตามความต้องการของคนอื่นจะทำให้คุณเก็บสะสมความไม่พอใจ ความรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ และความผิดหวัง”
วิธีแก้
แทนที่จะนิ่งเงียบเป็นศรีทนได้ คุณควรฝึกทักษะการต่อรองต่างหาก
“พวกคุณต้องรู้จักเจรจาต่อรองกันจนได้ข้อสรุปที่ทั้งสองฝ่ายพอใจและยินดีปฏิบัติตาม ความไม่พอใจจะจางไปถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเลือกทำสิ่งนี้เอง ไม่ใช่เพราะยอมตามใจเขา”
-
ดราม่าหนัก เมื่ออีกฝ่ายขอเวลาอยู่คนเดียวบ้าง
“คู่ข้าวใหม่ปลามันมักอยากอยู่ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ จนไม่มีเวลาให้เพื่อนหรือทำสิ่งที่ตัวเองสนใจ”
แต่การเข้าใกล้ตามติดแจเกินไปอาจทำให้คู่คุณรู้สึกอึดอัดเพราะขาดความเป็นส่วนตัวได้
วิธีแก้
อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ค่ะ พวกคุณยังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกนาน แยกจากกันแป๊บนึงก็ได้
“พูดตรง ๆ ว่าคุณรู้สึกอย่างไรที่เขาพยายามเข้ามาเปลี่ยนตัวคุณ และอธิบายความสำคัญของการมีเพื่อน”
แต่ถ้าเขาอยากออกไปเฮฮากับเพื่อนอาทิตย์ละ 4 วัน อย่างนี้ต้องมาตั้งลิมิตแล้วว่าควรมีเวลาส่วนตัวไม่เกินเท่าไร
-
ลืมรดน้ำพรวนดินให้ต้นรักต่อ
หลังต้นรักเบ่งบานจนพวกคุณจูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ได้สำเร็จ ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปกับเรื่องงานอาจทำให้คุณลืมเอาใจใส่เรื่องความรักเท่าที่ควรเพราะเห็นว่าเข้าที่ลงตัวดีแล้ว
แต่อย่าชะล่าใจเด็ดขาด..
ต้นรักที่ถูกทอดทิ้งจะเติบโตต่อไปได้อย่างไร กว่าที่คุณจะรู้ตัว มันอาจแห้งเหี่ยวรอวันตายแล้วก็ได้
“การรักษาความสัมพันธ์ให้ดีต่อเนื่องนั้นง่ายกว่าการฟื้นฟูเยียวยามาก”
วิธีแก้
“แม้จะแต่งงานแล้วก็ยังต้องไปออกเดตกันสม่ำเสมอ และทำตัวน่ารัก คอยช่วยเหลือกันเป็นประจำเหมือนเดิม”
ทำสิ่งที่ย้ำเตือนว่าพวกคุณรักอีกฝ่ายที่ตรงไหน และทำไมถึงตกลงปลงใจมาแต่งงานกัน
แล้วชีวิตแต่งงานของพวกคุณจะเริ่มต้นสวยงามและก้าวไปต่ออย่างราบรื่นค่ะ
ที่มา : huffingtonpost.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
7 สิ่งที่ไม่ควรมีในห้องนอนคู่แต่งงาน