เรียนรู้และสัมผัสความงดงามของ สถาปัตยกรรมไทย ไปกับ 5 วัดที่เป็นแลนด์มมาร์คของไทย

เอกลักษณ์ของเมืองไทยที่โดดเด่นไปทั่วโลกคงหนีไม่พ้น สถาปัตยกรรมไทย โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมที่อยู่ในรูปแบบของวัด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เอกลักษณ์ของเมืองไทย ที่โดดเด่นไปทั่วโลกคงหนีไม่พ้น สถาปัตยกรรมไทย โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมที่อยู่ในรูปแบบของวัด ซึ่งนอกจากจะสวยงาม ดูมีเอกลักษณ์แล้ว ยังเต็มไปด้วยความศรัทธาและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวไทยด้วย ไม่ว่าจะชาติไหนเห็นกูจะรู้ทันทีว่านี่เป็น สถาปัตยกรรมไทย วันนี้เราจึงอยากพาทุกครอบครัว ไปชม 5 วัดสวยที่โดดเด่นที่สุด และเป็นเหมือนแลนด์มาร์คของเมืองไปแล้ว ที่สำคัญอยู่ใน กรุงเทพฯ เดินทางง่ายแน่นอน จะมีวัดไหนบ้าง พาเด็กๆ ไปชมได้เลย

 

1. วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

วัดอรุณฯ เป็นวัดโบราณที่ถูกก่อสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รู้หรือไม่ว่า พระปรางค์วัดอรุณได้ชื่อว่าเป็น “พระมหาเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่และสง่างามที่สุดแห่งกรุงรัตนโกสินทร์”

ด้วยความโดดเด่นของสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์พระปรางค์ก่ออิฐถือปูนสีขาวล้วนที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ประดับด้วยชิ้นเปลือกหอย กระเบื้องเคลือบ จานชามเบญจรงค์สีต่าง ๆ เป็นลายดอกไม้ ใบไม้ และลายอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน นอกจากนี้ยังมีการประดับตกแต่งด้วยกินนร กินรี ยักษ์ เทวดา และพญาครุฑ ส่วนยอดบนสุดของพระ ปรางค์ติดตั้งยอดนภศูล ครอบด้วยมงกุฎปิดทองอีกชั้นหนึ่ง

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ควรค่าแก่การไปแชะภาพก็คือ ซุ้มประตูทางเข้าสู่พระอุโบสถทางด้านตะวันออก ที่มีทวารบาลยืนพร้อมกระบองคู่ใจ อย่าง “ทศกัณฐ์” ราชาแห่งยักษ์ เจ้าครองกรุงลงกา และอีกยักษ์หนึ่งที่อยู่ทางซ้าย กายสีขาว ชื่อว่า “สหัสเดชะ” เจ้าครองเมืองปางตาล มีฤทธิ์มากเช่นเดียวกับทศกัณฐ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ที่ตั้ง อยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เลขที่ 34 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 
  • เวลาเปิด-ปิด วัดอรุณฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น.  
  • ค่าเข้าชม คนไทยเข้าชมฟรี นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียค่าเข้าคนละ 50 บาท

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :  รวม 15 สิ่งน่าสนใจที่นนทบุรี น่ากิน น่าเที่ยว น่าลอง แถมเดินทางง่าย

 

2. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)

จุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุดก็คือ พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ หรือวิหารพระนอน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือในเขตพุทธาวาส โดดเด่นด้วยศิลปะการประดับมุกที่ฝ่าพระบาท นอกจากนี้ภายในยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่บันทึกสรรพวิชารายล้อมรอบตัวพระวิหารตามแบบไทยประเพณี เช่น เรื่องมหาวงศ์ พงศาวดารลังกาทวีป เรื่องสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อีกหนึ่งไฮไลต์เด่นคือเหล่าตุ๊กตาจีนที่เดินทางมาพร้อมเรือสำเภาตั้งแต่ครั้งอดีต อาทิ ตุ๊กตาจีนแต่งกายแบบฝรั่ง เป็นรูปมาร์โค โปโล ฝรั่งคนแรกที่เดินทางเข้าประเทศจีน ตุ๊กตาจีนลั่นถัน ท้าวเอวถืออาวุธ แต่งกายแบบงิ้ว หน้าตาดุเหมือนจ้องมอง เป็นขุนนางฝ่ายบู๊ ตุ๊กตารูปสิงโตคาบแก้ว นิยมตั้งประดับบริเวณเชิงบันได ในปากมีหินก้อนกลมเล็ก ๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีพระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ตั้งอยู่ในบริเวณกำแพงสีขาวซุ้มประตูสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์แบบจีน มีรายละเอียดได้แก่ 

  1. พระมหาเจดีย์ (กระเบื้องเคลือบสีเขียว) สร้างเพื่อครอบพระศรีสรรเพชญ์ เจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1
  2. พระมหาเจดีย์ (กระเบื้องเคลือบสีขาว) สร้างเพื่อถวายแด่พระบรมราชชนก รัชกาลที่ 2
  3. พระมหาเจดีย์ (กระเบื้องเคลือบสีเหลือง) สร้างเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เจดีย์ประจำรัชกาลที่ 3
  4. พระมหาเจดีย์ (กระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินเข้ม) สร้างเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เจดีย์ประจำรัชกาลที่ 4
  • ที่ตั้ง 2 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 
  • เวลาเปิด-ปิด เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-18.30 น. 
  • ค่าเข้าชม คนไทยเข้าชมฟรี นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียค่าเข้าคนละ 200 บาท 

 

3. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง)

วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง)

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

จุดเด่นของวัดคงจะหนีไม่พ้นการเดินขึ้นบันได 344 ขั้นเพื่อสักการะพระบรมบรรพตภูเขาทอง ที่เด่นเห็นเป็นสง่า บนยอดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ ยังมีพระอุโบสถซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพทศชาติ ภาพมารผจญและภาพไตรภูมิ รอบพระอุโบสถมีซุ้มเสมาตั้งประจำทั้ง 8 ทิศ ซุ้มเสมาที่วัดสระเกศเป็นทรงกูบช้างหรือซุ้มหน้านางประดับกระเบื้องงดงามถือเป็นแบบอย่างทางศิลปะ 

ต้นพระศรีมหาโพธิ์  มีอายุกว่า 200 ปี ที่ได้รับพระราชทานจากกษัตริย์ศรีลังกา ก็เป็นอีกจุดที่เป็นที่นิยมอย่างมากของนักท่องเที่ยว

พระวิหารหลวงพ่ออัฏฐารส ภายในเป็นที่ประดิษฐาน “พระอัฏฐารสศรีสุคตทศพลญาณบพิตร” พระพุทธรูปยืนศิลปะสมัยสุโขทัยตอนต้น อายุกว่า 700 ปี และยังเป็นพระพุทธรูปยืนที่มีความสูงที่สุดในกรุงเทพมหานครอีกด้วย 

  • ที่ตั้ง ริมคลองมหานาคและคลองรอบกรุง แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100
  • เวลาเปิด-ปิด เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น. 
  • ค่าเข้าชม คนไทยเข้าชมฟรี นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียค่าเข้าคนละ 50 บาท

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : พาชม 20 วัดสวย รอบกรุงเทพ พร้อมไหว้พระเสริมความเป็นสิริมงคล ช่วยให้ชีวิตราบรื่น

4. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

สิ่งที่ทำให้ใครหลายคนต้องเดินทางมาที่วัดนี้เพื่อมาดูให้เห็นกับตาก็คือ “พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” หรือ “หลวงพ่อทองคำ” พระพุทธรูปปางมารวิชัยจากสกุลช่างสุโขทัย ที่มีพุทธลักษณะอันงดงามและมีสีทองเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งองค์ ที่ไดัรับการระบุจากหนังสือกินเนสบุ๊ค ฉบับปี ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) ว่า “พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร นับเป็นพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” ประดิษฐานอยู่บริเวณชั้น 4 ของ “พระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา” ที่ตัวอาคารทั้งหลังจะสร้างขึ้นจากหินอ่อนและออกแบบตามลักษณะของอาคารทรงไทยวิจิตรศิลป์ดูยิ่งใหญ่อลังการ เห็นเด่นเป็นสง่า บริเวณชั้น 2 และ 3 ยังมีพิพิธภัณฑ์ชุมชนที่เปิดให้เข้าชมได้อีกด้วย

และก่อนกลับอย่าลืมไปกราบนมัสการและขอพระประธาน “พระพุทธทศพลญาณ” หรือ “หลวงพ่อโต วัดสามจีน” พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทองที่มีความงดงามไม่แพ้กัน

  • ที่ตั้ง เลขที่ 661 ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10100
  • เวลาเปิด-ปิด เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น. 
  • ค่าเข้าชม คนไทยเข้าชมฟรี นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียค่าเข้าคนละ 140 บาท

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : พาเที่ยว วัดสวยใกล้กรุงเทพฯ ใกล้แน่ๆ แค่ ปากช่อง โคราช

5. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร

พระอุโบสถ พระระเบียง ประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี ทำให้วัดเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวเที่ยวโลกว่าเป็น “The Marble temple” โดยได้รับพระราชทานนามใหม่จากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า "วัดเบญจบพิตร" ซึ่งมีความหมายว่าเป็นวัดของเจ้านาย ๕ พระองค์ จากชื่อเดิม  "วัดแหลม" หรือ "วัดไทรทอง"

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อีกหนึ่งไฮไลต์ห้ามพลาดก็คือ ภาพจิตกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ ที่เป็นภาพเขียนภายในช่องคูหาผนังทั้ง 8  ที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกำหนดให้เขียนเป็น “จอมเจดีย์” ที่สำคัญของสยามทั้งหมด 8 องค์ สะท้อนอุดมคติเรื่องพื้นที่และเขตแดนสมัยใหม่

นอกจากนี้ยังมีจิตรกรรมฝาผนังพระที่นั่งทรงผนวช ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เขียนขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ที่เป็นภาพเขียนแบบภาพเหมือนจริง มีระยะใกล้ไกล งดงามอย่างยิ่ง

พระพุทธรูปที่พระระเบียงพระอุโบสถ เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของวัด ด้วยความงามของ “พุทธศิลป์” เรียงรายพระอิริยาบถยืนและนั่งสลับกันถึง 11 ปาง บนฐานปูนปั้นลายไทยปิดทองสวยงาม

  • ที่ตั้ง 69 ถนน พระรามที่ 5 เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
  • เวลาเปิด-ปิด เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30 -17.30 น. 
  • ค่าเข้าชม คนไทยเข้าชมฟรี นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียค่าเข้าคนละ 50 บาท

 

แลบะสุดท้ายนี้ เนื่องด้วยเป็นพุทธสถาน ก่อนเข้าเยี่ยมชมควรศึกษาสิ่งต้องห้ามและไม่ควรทำ ก่อนเข้านมัสการ และควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย โดยควรสวมกระโปรงหรือกางเกงที่ยาวเลยเข่าลงไป เสื้อมีแขน ไม่รัดรูปจนเกินไปนัก

 

ที่มา : (Tourism Thailand)

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

พาเด็กๆ ย้อนรำลึกประวัติ จังหวัดลำพูน ตำนาน อาณาจักรหริภุญไชย

พาลูกเที่ยว 10 พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ทั้งสนุกและได้ความรู้

บทความโดย

sippanutpick